Sabrina Carpenter เล่าถึงสเป็คผู้ชายที่เปลี่ยนไปของผู้หญิงสักคนหนึ่ง ในเพลงใหม่สุดจี๊ดอย่าง Tears เมื่อผู้ชายที่ทำให้ “น้ำตาไหลลงจากหว่างขาได้” ไม่ใช่แบดบอยเซ็กซี่แต่คือผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ!

Tears โดย Sabrina Carpenter กับการเล่าเรื่อง ‘ความเสียว’ ที่มาพร้อมความเติบโตทางอารมณ์

“มันไม่ตลกดีหรอกเหรอ เมื่อตอนเด็กๆ คุณมักจะแบบ ‘ฉันอยากให้เขาตัวสูง อยากให้เขาหล่อ อยากให้เขาเล่นมุกเก่ง อยากให้เขาเท่’ แต่พอคุณโตขึ้นคุณก็จะ ‘ฉันอยากให้เขาเป็นผู้ชายที่ดี มีงานมีการทำ เคารพในตัวคนอื่น และฉลาดทางอารมณ์’” Sabrina Carpenter&nbsp;เล่าถึงสเป็คผู้ชายที่เปลี่ยนไปของผู้หญิงสักคนหนึ่ง ซึ่งเป็นที่มาของเนื้อร้องในเพลงใหม่สุดจี๊ดอย่าง Tears ที่ชวนให้จดจำสุดๆ กับการพูดถึง “น้ำตาที่ไหลลงจากหว่างขา” คำเปรียบเปรยสุดเฉียบถึงผู้หญิงที่จะไม่มัวเสียน้ำตาให้คนที่ไม่ใช่แต่จะไปมีอารมณ์กับ ‘ผู้ชายดีๆ’ แทนหากย้อนไปฟังเพลง Manchild ที่เธอฝากเนื้อร้องถึงผู้ชายที่ไม่รู้จักโต ในเพลง Tears เธอก็ให้ภาพที่ชัดขึ้นว่าในตอนนี้เธอต้องการผู้ชายแบบไหน “แค่คิดถึงคุณฉันก็แฉะแล้วล่ะ คุณน่ะเป็นผู้ชายที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ ปฏิบัติต่อฉันอย่างที่คุณควรจะทำ ฉันซึ้งจนน้ำตาไหลลงจากหว่างขาแล้วล่ะ” ผู้ชายในเพลงของเธอยังช่วยล้างจานให้ได้ คอยมีบทสนทนาต่อกัน ต่อเก้าอี้จากอิเกียได้ และที่สำคัญก็คือรู้จักเคารพในตัวผู้หญิงสรุปง่ายๆ ก็คือผู้หญิงในเพลงนี้ไม่ได้มองผู้ชายที่หน้าหล่อๆ หรือหุ่นล่ำๆ หรือความแบดๆ ยั่วๆ อีกต่อไป คุณลักษณะที่จะทำให้เธอหลงใหลนั้นมาจากทัศนคติข้างในล้วนๆ และแม้แต่สิ่งที่ปลุกเร้าเธอในทางเพศได้ก็ไม่ใช่ความดุดันเร้าใจ แต่คือการเรียนรู้ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งมาพร้อมกับการทลายเส้นกั้นของบทบาททางเพศ เลิกยึดติดกับความคิดแบบเก่าๆ และพร้อมจะสร้างความสัมพันธ์ที่เฮลตี้กับคนรักจริงๆ สักทีและวิธีที่เธอเลือกใช้เรื่องความเสียวมาประกอบการเล่าก็ได้ผลเสมอ มันชวนให้คนพร้อมรับฟังมุมมองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้หญิงยุคใหม่อย่างเธอมากขึ้น&nbsp;ย้อนไปตั้งแต่แรกๆ เพลงเด่นๆ ของ Sabrina ก็มาพร้อมเนื้อหาขี้เล่นๆ ที่แตะเรื่องเซ็กซ์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะ Espresso หรือ Nonsense ฯลฯ ปกอัลบั้มล่าสุดของเธออย่าง The Man’s Best Friend ก็เน้นย้ำเรื่องนี้อีกครั้งซึ่งเรียกเสียงฮือฮาและคำวิพากษ์วิจารณ์ลั่นโลก เมื่อภาพที่เธอนั่งคุกเข่าต่อหน้าผู้ชายและกำลังโดนเขาดึงผมอยู่นั้น ชวนให้บางคนมองว่ามันไม่เหมาะสม หรือบางคนก็มองว่าเป็นการเสนอภาพผู้หญิงในฐานะผู้เป็นรองทางเพศ แต่ในเมื่อนั่นเป็นสิ่งที่เธอเลือกจัดวางตัวเองอย่างสบายอกสบายใจแถมยังสนุกกับมัน ก็นับว่าเป็นการโอบรับรสนิยมทางเพศที่หลากหลายกว้างไกลไร้ขีดจำกัด และนั่นไม่ได้หมายความว่าเธอกำลังเป็นฝ่ายจำยอมหรือด้อยอำนาจกว่าในความสัมพันธ์ ในบริบทของเซ็กซ์นั้นเธอย่อมเป็นอะไรก็ได้ที่เธอยินยอมพร้อมใจและต้องการ (หลายคนยังมองว่าปกอัลบั้มนี้เป็นการเสียดสีความสัมพันธ์ love-hate ที่เธอมีต่อผู้ชายอีกต่างหาก)อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ขัดใจอยู่บ้างที่เธอเป็นแบบนี้ “เธอมีชีวิตด้านอื่นนอกจากเซ็กซ์มั้ยนะ?” เป็นหนึ่งในคำถามที่ชาวเน็ตบางคนโยนใส่หน้าเธอ ซึ่งแน่นอนว่าเธอมีเพลงที่ว่าด้วยเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากเซ็กซ์ แต่เห็นได้ชัดว่าเพลงที่เธอแตะเรื่องเซ็กซ์มักจะเป็นเพลงดัง ซึ่งในมุมมองของ Sabrina เอง คนต้นเรื่องอาจเป็นคนฟัง ไม่ใช่เธอ อย่างที่เธอเคยให้สัมภาษณ์เอาไว้อย่างติดตลกว่า&nbsp;“ฉันจะขำทุกทีเวลาคนบ่นน่ะ พวกเขาชอบบอกว่าฉันทำเป็นแค่ร้องเพลงเกี่ยวกับเซ็กซ์ แต่นั่นก็เป็นเพลงที่พวกคุณฟังมันจนดังไม่ใช่เหรอ ก็ชัดเจนแล้วว่าพวกคุณเองก็ชอบเซ็กซ์และหมกมุ่นกับมัน”สิ่งที่เธอทำจึงเป็นการทำให้เห็นว่าการนำเสนอตัวเองของผู้หญิงไม่ว่าจะแบบไหนล้วนแต่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญ แม้นั่นจะเป็นเรื่องเซ็กซ์ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องอับอายเพราะมันคือธรรมชาติที่อยู่ในตัวมนุษย์เราทุกคน และการที่เธอยังทำอยู่และทำต่อก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเธอต้องการให้โลกนี้ชินกับการที่ผู้หญิงเปิดปากเรื่องเซ็กซ์ได้โดยสมบูรณ์แบบเสียที และนั่นไม่ได้แปลว่าพวกเธอหมกมุ่นหรือเอาแต่หื่นกระหาย แต่หมายถึงการมองเซ็กซ์ด้วยมุมมองที่ละเอียดอ่อนและเป็นมนุษย์อย่างยิ่งต่างหาก&nbsp;อ้างอิง<a href="https://www.capitalfm.com/news/music/sabrina-carpenters-tears-lyrics-meaning/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.capitalfm.com/news/music/sabrina-carpenters-tears-lyrics-meaning/</a> &nbsp;<a href="https://www.rollingstone.com/music/music-features/sabrina-carpenter-new-album-mans-best-friend-fame-1235359144/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.rollingstone.com/music/music-features/sabrina-carpenter-new-album-mans-best-friend-fame-1235359144/</a>&nbsp;

ด้วยความแมสสุดๆ ทำให้ผู้คนรู้จักซีรีส์ ‘เขมจิราต้องรอด’ ในวงกว้าง ไม่ใช่เพียงเฉพาะกลุ่มแฟนคลับของสองนักแสดงนำอย่าง ‘เก่ง-น้ำปิง’ หรือฐานผู้ชมซีรีส์วายไทยเท่านั้น ส่งผลให้เกิดความคิดเห็นบางส่วนในเชิงอคติต่อซีรีส์วาย เช่น “ไม่น่าเป็นซีรีส์วายเลย น่าจะเป็นซีรีส์ชายหญิง” , “เสียดายเป็นวาย” , “ถ้าไม่ใช่แนวเกย์จะดีมาก” คำพูดเหล่านั้นอาจจะดูเหมือนชื่นชมว่า ซีรีส์มีพล็อตที่น่าสนใจ หรือนักแสดงสามารถทำผลงานออกมาได้ดี ทว่าในอีกมุมหนึ่งก็สะท้อนถึง ‘การไม่เปิดรับเกย์’ อย่างแท้จริง

“ไม่น่าเป็นซีรีส์วายเลย น่าจะเป็นซีรีส์ชายหญิง” เมื่อความแมสของ ‘เขมจิราต้องรอด’ ทำให้เห็นว่า ผู้ชมบางส่วนยังมีอคติต่อซีรีส์วาย สู่คำถามที่ว่า ทำไมพล็อตที่ดีต้องถูกจำกัดแค่ซีรีส์ชายหญิง

อีกหนึ่งประเด็นที่จับใจใน Wednesday ซีซั่นที่สอง ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างเวนส์เดย์กับแม่ของเธอ (Mortica Addams) เวนส์เดย์กับยายของเธอ (Grandmama Hester Frump) และแม่ของเวนส์เดย์กับแม่ของเธอเอง

Wednesday ซีซั่น 2 กับความไม่ลงรอยระหว่าง ‘แม่’ และ ‘ลูกสาว’ เมื่อแม่ทุกคนก็ล้วนเคยเป็นลูกสาว และเผลอเอาสิ่งที่ตัวเองเคยเผชิญมาจำกัดกรอบลูกสาวตัวเอง

พ่อแม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบไหม เวลาลูกกลายเป็นผู้ร้าย? นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เวลาลูกของใครสักคนทำผิด ซึ่งเป็นไปได้ว่ามาจากทัศนคติของสังคมส่วนใหญ่ที่มักมองว่าเมื่อลูกทำผิด นั่นถือเป็นความผิดของคนเป็นพ่อแม่ด้วยเช่นกัน แต่คำถามที่น่าสนใจอาจอยู่ตรงที่ จริงๆ แล้วมันเป็นความผิดของพ่อแม่เพียงอย่างเดียวจริงหรือ หรือว่ายังมีปัจจัยอะไรอีกบ้างที่หล่อหลอมให้เด็กคนหนึ่งกลายเป็นผู้ร้ายขึ้นมา 

ลูกรัก = ลูกร้าย? อีกหนึ่งคำถามจาก Adolescence ซีรีส์ที่ว่าด้วยการค้นหาคำตอบอันสิ้นหวังของคนเป็นพ่อแม่ เมื่อลูกรักกลายเป็นผู้ร้ายที่สร้างความรุนแรงในสังคม

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Music

Tears โดย Sabrina Carpenter กับการเล่าเรื่อง ‘ความเสียว’ ที่มาพร้อมความเติบโตทางอารมณ์

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS