
Snoop Dogg ออกมาเปิดเผยว่า Pharrell Williams เป็นคนสอนเขา ให้เขียนเนื้อเพลงแรปที่ ‘ให้เกียรติผู้หญิง’ มากขึ้น
by MIRROR TEAM •18 Sep 2024สำหรับวงการแรปและฮิปฮอป อาจเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ถ้าแรปเปอร์สักคนจะใช้คำหยาบหรือเหยียดหยันคนอื่น รวมถึงการพูดถึงยาเสพติดและความรุนแรง เพราะในแง่หนึ่งมันคือ norm ของวัฒนธรรมนี้ ที่หลายคนต่างก็เข้าใจร่วมกัน แต่ใช่ว่าทุกคนจะเลือกใช้คาแรกเตอร์ดิบเถื่อน non-pc ตลอดเวลา อย่างเช่นตัวพ่อแห่งวงการฮิปฮอปอเมริกันฝั่งเวสต์โคสต์ อย่างสนูป ด็อกก์ (Snoop Dogg) ที่เขาเพิ่งออกมาบอกเล่าว่าก่อนหน้านี้ ฟาเรลล์ วิลเลียมส์ (Pharrell Williams) ได้สอนให้เขาเลือกเขียนเนื้อเพลงแรปที่ให้เกียรติผู้หญิงมากขึ้น
สนูป ด็อกก์ ได้บอกเล่ากับนิตยสาร People ถึงการ “เป็นคนที่ดีขึ้น” ของเขาในหลายแง่มุม และการเรียนรู้ที่จะให้เกียรติและเคารพในตัวผู้หญิงก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยจุดเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นในปี 2002 ที่เขาได้ร่วมงานกับฟาเรลล์ซึ่งมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับอัลบั้ม Paid tha Cost to Be da Boss ของสนูป ต่อมาทั้งคู่ก็ทำเพลงด้วยกันนั่นคือเพลง Beautiful อีกหนึ่งเพลงฮิตในปี 2003 ซึ่งสนูป ด็อกก์เล่าว่า
“เขาเป็นคนชวนให้ผมทำเพลงนี้ล่ะ ถ้าเป็นตอนช่วงปี 90s ผมจะไม่ทำเพลงแบบนี้แน่ แต่ฟาเรลล์ก็ดันผมไปสู่โลกอีกด้านที่ผมไม่เคยสนใจเลย เขาบอกว่า ‘คุณแรปถึงผู้หญิงแล้วเรียกพวกเธอว่ากะหรี่ แต่พวกเธอรักคุณนะเว้ย แล้วเมื่อไหร่คุณถึงจะทำให้พวกเธอเห็นว่าคุณก็ชื่นชมและให้ความสำคัญกับพวกเธอล่ะ?’ ซึ่งผมก็ตอบว่า ‘เชี่ย เออว่ะ ผมทำแย่กับผู้หญิงมาตลอด งั้นผมต้องทำไงดีนะ?’” ดังนั้นในสตูดิโอ ฟาเรลล์จึงลองให้สนูป ด็อกก์นึกถึงผู้หญิงในครอบครัวของเขาแต่ละคนก่อนจะเขียนเนื้อแรป
“ตั้งแต่ตอนนั้น ผมก็เลยรู้จักที่จะเคารพผู้หญิงในเพลงของผมมากกว่าสักแต่จะใช้คำเสียๆ หายๆ ในการเล่าถึงความรู้สึกที่ผมมีต่อผู้หญิง” สนูป ด็อกก์ กล่าว
ถ้าลองย้อนไปดูในเพลงดังตลอดกาลของสนูป ด็อกก์ ที่ทำร่วมกับ Dr.Dre อย่าง The Next Episode (2000) หรือที่ใครหลายคนรู้จักในชื่อ Smoke Weed Everyday ที่ว่าด้วย Thug Lifestyle อย่างการสูบกัญชาและพกปืน จะมีท่อนที่สนูปเรียกผู้หญิงว่า ‘my ho’ หรือ ‘อีหนูของกู’ ที่แค่มีไว้ประดับไลฟ์สไตล์ แต่ตัดมาที่เพลง Beautiful ในปี 2003 เขาพูดถึงความรักกับความชื่นชอบที่มีต่อเธอล้วนๆ และเลือกจะเรียกผู้หญิงคนรักว่า ‘baby boo’ ทั้งยังเขียนเนื้อที่ว่าด้วยการหลงรักสาวที่เรียนไฮสคูลมาด้วยกัน ทั้งยังไม่ลืมที่จะนึกถึงแม่และพี่สาวของเธอคนนั้นว่าไม่ต้องกังวลใดๆ พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ยินยอมพร้อมใจต่อกัน ซึ่งก็นับเป็นอีกรสชาติใหม่ๆ ในเพลงของสนูป ด็อกก์ ที่หากเป็นก่อนหน้านั้นคงไม่มีใครคิดฝันว่าจะได้ยินได้ฟัง
ไม่เพียงแต่มุมมองต่อผู้หญิง มุมมองต่อการใช้ความรุนแรงและ Thug Lifstyle ของเขาก็เปลี่ยนไปด้วย โดยย้อนไปตอนที่เขายังเป็นเด็กวัยรุ่น เราเริ่มคบเพื่อนที่เป็นชาวแกงค์และได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมในยุค 80s-90s ต่อมาในปี 1993 เขาก็ได้เซ็นสัญญากับค่าย Death Row Record ของ Dr.Dre และเริ่มเขียนเพลงแรปจากไลฟ์สไตล์ของเขา ณ เวลานั้น จนกระทั่งได้เห็นเพื่อนรักของเขาอย่างทูพัค ชาเคอร์ (Tupac Shakur) ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงที่เขาแรปถึงมาตลอด (ทูพัคถูกยิงจนเสียชีวิตจากปัญหาระหว่างชาวแกงค์) เขาก็ตระหนักว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติสักที นั่นจึงเป็นครั้งแรกๆ ที่เขาอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้น
“ผมเคยทำเพลงเพื่อเชิดชูความเป็นแกงค์สเตอร์ อยากให้ชาวแกงค์พอใจ แต่สุดท้ายผมก็ได้เรียนรู้ว่าเราทำให้ทุกคนพอใจไม่ได้หรอก”
ปัจจุบันสนูป ด็อกก์ อายุ 52 ปี และยังคงอยู่กับ ชานเท บรอดัส (Shante Broadus) ภรรยาของเขาที่เคยคบกันตั้งแต่ไฮสคูล เขามีลูก 4 คนและมีหลานอีก 12 คน ซึ่งเขาบอกว่าตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดอันดับแรกของเขาก็คือครอบครัว และในช่วงก่อนการแข่งขันโอลิมปิกที่เพิ่งผ่านพ้นไป เขาก็ยังได้เป็นตัวแทนถือคบเพลิงที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มให้โลกจดจำและหากจะบอกว่าตอนนี้เขาเป็นคนที่ดีขึ้นแล้ว ก็คงยากที่หลายคนจะปฏิเสธ
...
อ้างอิง
HOT TOPICS
...
...