‘ROCKSTAR’ เป็นเพลงแรกจากค่าย LLOUD ที่ LISA หรือ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล จากวง BLACKPINK ขึ้นแท่นเป็น CEO สาวท่านหนึ่ง และศิลปินเดี่ยวท่านหนึ่งอย่างเต็มรูปแบบ นำเสนอตัวตนของลิซ่าออกมาได้อย่างอิสระและเป็นไปตามที่เธออยากเห็นที่สุดผ่านการบริหารของตัวเอง

จากชฎาและชุดไทย สู่ Nightlife และคนชายขอบ ความเป็นไทยในสายตา ‘LISA’ ผ่านเพลง ‘ROCKSTAR’ ที่แม้จะขายความ Exotic แต่ขณะเดียวกันก็คือการให้พื้นที่ทุกคนได้ยืนอย่างมีศักดิ์ศรีเท่าๆ กัน

ถือว่าเป็นงานเพลงที่จุดบทสนทนาได้ตั้งแต่ MV ยังไม่ออก ไม่ว่าจะรูปลักษณ์ใหม่ของลิซ่าในภาพโปรโมตเพลง ROCKSTAR ที่ครั้งนี้มากับผิวสีแทน (ที่มีคนผิวดำหยิบไปดราม่าว่าเป็น appropriation โดยที่อาจจะลืมไปว่าคนไทยก็มีผิวสีนี้กันค่อนประเทศ) หรือเรื่องราวของงานโปรดักชันที่เรียกได้ว่าใช้ ‘คนไทยทำ’ เกือบทั้งกระบวนการ จนนำไปสู่การพูดถึงค่าแรงของคนโปรดักชันไทย ที่ยังคงไม่ได้มากมายสวนทางกับฝีมือระดับโลกอย่างไรก็ตาม วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายนนี้ เราก็ได้ดูและได้ฟังกันเป็นที่เรียบร้อย กับผลงานเพลงแรกจากค่าย LLOUD อย่าง ‘ROCKSTAR’ ที่ LISA หรือ ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล จากวง BLACKPINK ขึ้นแท่นเป็น CEO สาวท่านหนึ่ง และศิลปินเดี่ยวท่านหนึ่งอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งก็น่าจะพูดได้ว่าทั้งเนื้อเพลงและมิวสิกวิดีโอ เป็นการนำเสนอตัวตนของลิซ่าออกมาได้อย่างอิสระและเป็นไปตามที่เธออยากเห็นที่สุดผ่านการบริหารของตัวเอง และแน่นอนว่าหลังจากที่เธอเคยนำเสนอความเป็นไทยผ่านเพลง LALISA มาก่อนหน้าแล้ว ในรูปแบบ Traditional จ๋า อย่างงานชฎา งานชุดไทยประยุกต์ ครั้งนี้เธอขยับขยายภาพความเป็นไทยไปยังอีกขั้วหนึ่งนั่นคือ Nightlife และภาพของคนชายขอบอย่างเหล่าชายมีรอยสัก แก๊งมอเตอร์ไซค์ และสาวข้ามเพศ ที่ในแง่หนึ่งก็เป็นภาพจำสุด Exotic ที่ชาวต่างชาติมักมองเข้ามาในไทยแล้วเห็นเด่นชัด&nbsp;ลิซ่าประกาศจุดยืนในเนื้อร้อง “Oh shit, Lisa reppin'” ที่ reppin’ นั้นหมายถึง representing นั่นเอง ซึ่งการเป็นตัวแทนเพื่อนำเสนอประเทศไทยของเธอ ก็เป็นในฐานะคนไทยคนหนึ่ง แต่เป็นคนไทยที่เติบโตและอยู่กับวัฒนธรรมต่างชาติมาอย่างยาวนานเช่นกัน จึงไม่แปลกหากวิธีการตีความของเธออาจจะเป็นการหยิบยกเอามุมมองของคนต่างชาติที่มองประเทศไทยเข้ามาด้วย คล้ายกับที่ศิลปินเกย์อย่าง Troye Sivan เลือกมาถ่ายเอ็มวีเพลง Got Me Started ที่นำเสนอภาพความหลากหลายทางเพศไว้แล้วในก่อนหน้านี้ ซึ่งก็ถือเป็นภาพจำที่หลายประเทศยกให้ว่าประเทศไทยเป็น “สวรรค์ของ LGBTQ+” (แม้ในความจริงคนไทยก็รู้กันดีว่ามันไม่เป็นแบบนั้น)&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/QvVW0ZwSAiLDUBXEH4x2vjFyr9CqiAmvTXiaq0lIVYQe9vA1.jpg" data-id="101666" data-url="https://media.thairath.co.th/image/QvVW0ZwSAiLDUBXEH4x2vjFyr9CqiAmvTXiaq0lIVYQe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">ฉะนั้นแล้วสิ่งที่ลิซ่าทำในเอ็มวีจึงอาจไม่ใช่สิ่งใหม่หมดจด แต่เป็นอีกหนึ่งภาพที่คนต่างชาติมองเข้ามาว่าประเทศไทยเรานั้นขึ้นชื่อเรื่องของ Nightlife และมีผู้หญิงข้ามเพศที่สวย ผ่านการปรากฏตัวของผู้หญิงข้ามเพศ 3 คน อย่างหมอบรูซ-คชิสรา ศรีดาโคตร รองชนะเลิศอันดับ 1 มิสทิฟฟานี่ ปี 2024, กี้-รินทร์ณิญา พุฒิโภคินลักษณ์ ผู้เข้าประกวด มิสทิฟฟานี่ ปี 2024 และ ชินนี่-ชินรวดี ปัญญารัศมิ์สกุล อินฟลูฯ ที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ด้วยรอยยิ้มจักรวาล โดยแง่หนึ่งมุมมองของชาวต่างชาติบางคน ก็ยังคงมองเหล่าผู้หญิงข้ามเพศด้วยสายตาเหยียด และมองว่าแปลกดี ไม่ได้เคารพพวกเธอเป็นคนทั่วไป การที่ลิซ่าชวนให้พวกเธอ รวมถึงชายมีรอยสัก หรือแก๊งมอเตอร์ไซค์ ที่คนชอบเหยียดกันว่าเป็นเด็กแว้น ได้เข้ามาปรากฏตัวเคียงข้างเธอใน MV ก็ถือเป็นการแสดงความเคารพและให้พื้นที่ทุกคนได้มายืนตรงนี้อย่างมีศักดิ์ศรีเท่าๆ กัน&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/QvVW0ZwSAiLDUBXEH4x2vthe5N2ApAKhZizp1V2IXiZHTQe9vA1.jpg" data-id="101666" data-url="https://media.thairath.co.th/image/QvVW0ZwSAiLDUBXEH4x2vthe5N2ApAKhZizp1V2IXiZHTQe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib"><img src="https://media.thairath.co.th/image/QvVW0ZwSAiLDUBXEH4x2vuZihHNOTxikvp1V23jZdiI6r0e9vA1.jpg" data-id="101666" data-url="https://media.thairath.co.th/image/QvVW0ZwSAiLDUBXEH4x2vuZihHNOTxikvp1V23jZdiI6r0e9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">นอกจากหลายคนจะชื่นชอบจังหวะมันๆ และวิธีการแร็ปโหดๆ หาตัวจับยากของเธอในเพลงนี้แล้ว ครั้งนี้เราจะได้เห็นลิซ่าโชว์สกิลการร้องเพลง ที่เสียงร้องของเธอนั้นไพเราะและมีเอกลักษณ์ไม่น้อย และการที่เธอปรากฏตัวกลางถนนย่านเยาวราช แลนด์มาร์กและแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย ด้วยชุดสุดเซ็กซี่ขับผิวสีแทนของเธอให้เปล่งประกาย ซึ่งถือเป็นการสลัดลุคไอดอล K-Pop ที่มีผิวขาวออกไป เพื่อโอบรับสีผิวแทนสวยอันเป็นความงามคลาสสิกอย่างหนึ่งของคนไทย แง่หนึ่งก็เพื่อให้คนไทยด้วยกันเห็นด้วยว่า ผิวของคนไทยเราก็สวยไม่ใช่น้อย ไม่ได้แปลว่าผิวขาวนวลจะเป็นสูตรสำเร็จของความงามในเอเชียเสมอไป เช่นเดียวกับที่เธอรวบรวมนักเต้นไทยกว่า 100 ชีวิตมาไว้ในเอ็มวีเดียว ซึ่งก็ยิ่งย้ำกับจุดยืนเรื่องสีผิวที่เราจะเห็นได้ว่านักเต้นไทยทั้งหมดนี้มีสีผิวที่หลากเฉดมาก และเมื่อมายืนเรียงกันก็ทำให้เห็นเลยว่าคนไทยไม่ได้เป็นแค่แบบใดแบบหนึ่ง แม้บางคนจะเหมารวมให้เป็นแบบใดแบบหนึ่งก็ตาม&nbsp;ลิซ่ายังเล่นกับประเด็นการเป็นคนเอเชียผู้อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ที่มักโดนคนทักผิดทักถูกว่าเป็นคนชาติอื่นๆ หรืออนุมานไปก่อนว่า เธอไม่น่าจะเป็นคนไทย ด้วยท่อนที่เธอร้องว่า “‘Lisa, can you teach me Japanese?’ I said, Hi, Hi” ซึ่งก็ถือเป็นประสบการณ์ร่วมที่คนไทยหลายคนมักจะถูกเข้าใจผิดว่าดูไม่ใช่คนไทย หรือสุ่มเดากันไปก่อนแล้วว่าอาจจะเป็นคนชาตินั้นชาตินี้ แง่หนึ่งก็เป็นภาพการเหมารวมคนเอเชียอยู่ประมาณหนึ่งของคนต่างชาตินั่นเอง ฉะนั้นเมื่อได้ดูเอ็มวีนี้ของเธอแล้ว ก็ลองมองคนไทยชัดๆ ว่าเป็นอย่างไร จะได้ไม่ตัดสินตั้งแรกเจอว่า “ไม่น่าใช่คนไทย” เพราะคนไทยจริงๆ ควรจะเป็นแบบนั้น แบบนี้ แบบโน้น แบบนู้น ซึ่งก็น่าคิดต่อว่าคนไทยในสายตาคนต่างชาติมันเป็นอย่างไร ถึงต้องคิดว่า คนไทยบางคนดูไม่เหมือนคนไทยเลย และเราจำเป็นต้องจำกัดคนไทยแบบใดแบบเดียว หรือติดกับภาพจำขนาดนั้นไหม?&nbsp;การขยับภาพจากชฎาและชุดไทย มาสู่ภาพความเป็นไทยอีกขั้วหนึ่ง นับว่าเป็นอีกนิมิตหมายอันดีที่ชวนให้เราอยากเห็นภาพอื่นๆ ที่เธอขยับไปเล่าอีก เพราะความเป็นไทยยังมีแง่มุมอีกหลากหลายเหลือเกิน&nbsp;และทั้งหมดทั้งมวล ก็นำไปสู่การขมวดจบตอนท้ายที่เธอร้องว่า “Ooh, and the music goin'. Ooh, and the girls are posin'. Ooh, don't it get you in a mood? It's not hype, hype, baby, I'm a rockstar” ที่ไม่ว่าคุณจะเข้าถึงสิ่งที่สาวชาวไทยผู้เกิดที่บุรีรัมย์คนนี้ต้องการสื่อสารอย่างไร หรือความเป็นไทยที่เธอมองจะเหมือนหรือต่างจากคุณอย่างไร เธอก็ยังเปรียบได้เหมือนร็อกสตาร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก และนี่แหละ คือสิ่งที่เธออยากบอกเล่า ณ ตอนนี้

เรียกได้ว่า Dan da Dan คือหนึ่งในการ์ตูนญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงที่สุด ณ เวลานี้ หลังจากเวอร์ชั่นอนิเมะได้เข้าฉายที่เน็ตฟลิกซ์และขึ้นอันดับต้นๆ ในไทยเป็นที่เรียบร้อย ความน่าสนใจคือ เนื้อเรื่องช่วงแรกของ Dan da Dan สะท้อนถึงความรุนแรงทางเพศต่อผู้หญิงอย่างชัดเจน ทั้งสิ่งที่นางเอกต้องเผชิญ รวมถึงเรื่องราวของผีตัวแรกในเรื่องอย่าง ‘ยายแก่เทอร์โบ’

ยายแก่เทอร์โบ แห่ง Dan Da Dan 
ผีที่ต้องเฮี้ยนเพื่อปกป้องผู้หญิง
ที่กลายเป็นเหยื่อความรุนแรง
จากผู้ชายที่ใช้ ‘จู๋’ นำทางชีวิต

ความเชื่อทางศาสนาเคยมีอิทธิพลต่อวิธีคิดและการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะศาสนาคริสต์ในสังคมอเมริกัน ทว่าเวลาต่อมา สงครามเวียดนามที่ชาติตะวันตกอย่างอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมในการชี้เป็นชี้ตายเริ่มปะทุรุนแรงขึ้นระหว่างปี 1960s - 1970s มันได้นำพาสิ่งที่เรียกว่า ‘Counterculture’ หรือ วัฒนธรรมปรปักษ์ วัฒนธรรมการต่อต้านของกลุ่มคนรุ่นใหม่เวลานั้นมาด้วย พวกเขาเริ่มต้ังคำถามถึงกรอบกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่สังคมมอบให้ และสิ่งนี้เองที่ส่งผลให้ความเชื่อในศาสนาของผู้คนเริ่มสั่นคลอน  

การเมือง / ปิตาธิปไตย / กับความเป็นหญิง ชวนมองหนัง ‘ซาตาน’ ที่สะท้อนความไม่มั่นคงทางสังคม และมีผลต่อบทบาทของผู้หญิงตั้งแต่ยุค 70s จนถึงปัจจุบัน

Soup Stock Tokyo คือร้านซุปสุดอบอุ่นขวัญใจสาวญี่ปุ่น ที่โดดเด่นด้วยเซ็ตเมนูจากศิลปะ
อย่าง ‘ซุปหัวหอมของแวนโก๊ะ’ และ ‘ซุปสาวรีดนมวัวของเฟอร์เมร์’ ที่เป็นเมนูประจำฤดูใบไม้ผลิปี 2024

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

PR-NEWS

Music

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS