Love wins all เพลงใหม่จาก IU ที่พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 บนหลายชาร์ตเพลงอย่างรวดเร็ว กับเรื่องราวอันเข้มข้นในเอ็มวี ที่ผู้กำกับเอ็มวีเฉลยออกมาแล้วว่าเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ ‘ถูกเลือกปฏิบัติ’ ในสังคม

Love wins all เพลงใหม่จาก IU กับ
เรื่องราวความรักของหญิงสาวที่ไร้สิทธิ์ ไร้เสียง และชายหนุ่มที่ถูกกันไม่ให้มองเห็นโลกกว้าง จากการ ‘เลือกปฏิบัติ’ ในสังคม

นิยามคำว่า ‘ทำถึง’ ก็ต้องยกให้เธอคนนี้จริงๆ กับการคัมแบ็กซิงเกิล Pre-Release ของพี่ลี่ หรือ ไอยู (IU)&nbsp;ในเพลง Love wins all ที่พุ่งทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 บนหลายชาร์ตเพลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะ Melon, iTunes, Genie หรือ Bugs จนหลายคนมักจะแซวเธอเสมอว่า เธอเกิดมาเพื่อเป็นตำนานการล้างชาร์ตในทุกคัมแบ็ก และนอกจากเพลงรักเพลงนี้จะกินใจผู้คนมหาศาล อีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมากไม่แพ้กัน คือเรื่องราวอันเข้มข้นในเอ็มวี ที่ถูกหยิบไปวิเคราะห์เนื้อเรื่องกันในทันทีที่ปล่อยออกมา และผู้กำกับเอ็มวีก็เฉลยออกมาแล้วว่าเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ ‘ถูกเลือกปฏิบัติ’&nbsp;ในสังคม “ที่คนนึงไม่สามารถพูดได้ และอีกคนมองเห็นโลกได้ด้วยตาซ้ายเพียงข้างเดียว”นอกจากฝีมือการแสดงที่สุดยอดของไอยูแล้ว เอ็มวีนี้ยังได้ วี (V) หรือ แทฮยอง จากบอยกรุ๊ปชื่อดัง BTS มาร่วมแสดงเป็นพระเอกเอ็มวี ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม ขณะที่ผลงานการกำกับเป็นของ ออมแทฮวา (Uhm Tae-hwa) ผู้กำกับภาพยนตร์แนวแฟนตาซีดราม่า Vanishing Time: A Boy Who Returned และภาพยนตร์แนวดราม่าระทึกขวัญ Concrete Utopia ที่เพิ่งคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมบนเวที Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 44 นั่นทำให้เนื้อเรื่องใน Love wins all มีฉากหลังเป็นโลกดิสโทเปียตามแบบฉบับผู้กำกับ ที่คู่รักคู่นี้จะต้องหนีจากการถูกไล่ล่าจากกล่องปริศนาที่เปรียบเหมือน ‘กรอบทางสังคม’ บางอย่าง โดยมี ‘ความรัก’ เป็นสิ่งเดียวที่ประครองให้ยังยิ้มออกได้บ้าง ท่ามกลางการหลบหนีจากการถูกกดขี่<img src="https://media.thairath.co.th/image/bLaKUYEinldqhK7wp1V2h0clEmxDvLf5F8KO6agUUUxq7Me9vA1.png" data-id="101414" data-url="https://media.thairath.co.th/image/bLaKUYEinldqhK7wp1V2h0clEmxDvLf5F8KO6agUUUxq7Me9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">หญิงสาวที่ไร้สิทธิ์ ไร้เสียง กับชายหนุ่มที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มองโลกกว้าง - “Dearest, darling, my universe เธอจะพาฉันไปด้วยใช่ไหม? ในสถานที่ฉันไม่กล้าจะฝันถึงเลย” เสียงร้องหวานละมุนของไอยูดังขึ้น ท่ามกลางฉากของคู่รักที่หลบหนีจากกล่องปริศนา ที่ออมแทฮวากล่าวว่า หมายถึงการเลือกปฏิบัติต่อพวกเขา และอาจตีความได้ถึงการถูกกดขี่ประเภทต่างๆ ในชีวิตประจำวันก็ได้ ผ่านตัวละครที่ไอยูมีโซ่เส้นเล็กๆ คล้ายเจาะปาก ซึ่งผู้กำกับเน้นย้ำถึงความยากลำบากในการสื่อสารของเธอ ส่วนวีก็ตาบอดข้างหนึ่ง ทำให้เขามองโลกได้เพียงข้างเดียว โดยผู้กำกับก็เปิดโอกาสให้ตีความเป็นปลายเปิดว่าจะหมายถึงการเลือกปฏิบัติในรูปแบบไหนได้บ้าง สำหรับเราแล้ว เรามองเห็นหลากหลายภาพ ภาพแรกเราเห็น ‘ผู้พิการ’ ที่ไม่สามารถได้รับสิทธิเทียบเท่าผู้ไม่พิการอยู่ในปัจจุบัน และหลายครั้งเมื่อผู้พิการจะมีความรัก ก็จะถูกการตั้งคำถามว่า จะมีความรักได้อย่างไรกัน ซึ่งนั่นล้วนมาจากอคติที่มีต่อผู้พิการ ว่าไม่ได้มองพวกเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไป&nbsp;ภาพที่สอง เราเห็น ‘คู่รักที่ถูกกีดกันทางสังคม’ หากพูดให้ใกล้กับสังคมเกาหลีใต้มากที่สุด ก็อาจจะเป็นความรักของ ‘ไอดอล’ ที่ต้องเผชิญกับคอมเมนต์แรงๆ จากชาวเน็ตบางคนที่ไม่ได้ยินดีกับความรักของพวกเขา บางคนไม่มีสิทธิ์ออกมาพูดอะไร เพราะต้องแบกความคาดหวังของแฟนคลับ บางคนต้องคบกันอย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพราะกลัวกระแสสังคมโจมตี และบางคนต้องพยายามปิดตาข้างหนึ่ง ลดความเป็นตัวเอง เพื่อเป็นในแบบที่ ‘คนอื่น’ อยากเห็น ซึ่งเหตุการณ์การถล่มด่าไอดอลเพราะผิดหวังที่มีแฟน ก็เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ในอุตสาหกรรมไอดอล และถือเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่ไอดอลหลายคนต้องเผชิญกับปัญหานี้ที่ส่งผลต่อสุขภาพจิต แต่ในบางคู่ ‘ความรัก’ ของกันและกันเนี่ยแหละ ที่เยียวยาใจพวกเขาจากเรื่องร้ายๆ ในสังคมภายนอก และอาจจะไม่ใช่แค่กับไอดอล แต่กับคู่รักที่ถูกกีดกันโดยครอบครัว ที่คาดหวังให้ลูกได้คบกับคนที่อยู่ตามกรอบบางอย่าง ที่พ่อแม่คาดหวัง หลายคู่จึงต้องฝ่าฟันปัญหานี้ไปด้วยกันอย่างหนักก็มีเหมือนกันผู้หญิงเข้มแข็งได้ เช่นเดียวกับผู้ชายที่มีมุมอ่อนไหวได้ - “วิ่งหนีไปจากโลกใบนี้กันเถอะ run on ไปให้สุดทางกับฉันนะ my lover” แม้จะไม่รู้ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร แต่เนื้อเพลงของไอยูก็จะย้ำถึงการไม่ปล่อยมือกันแม้เจอเหตุการณ์ร้ายๆ และสิ่งหนึ่งที่เด่นชัดมากที่สุดคือการวางคาแรกเตอร์ให้ไอยูเป็นหญิงสาวที่เข้มแข็ง เธอมาในลุคเท่ๆ และมีความเป็นผู้นำ เราจะเห็นว่าเธอเป็นคนที่จูงมือวีไปในทุกๆ ที่ และวางแผนการหลบหนีอยู่เสมอ แถมยังมีฉากที่เช็ดปากให้น้อนแทที่มาในคาแรกเตอร์ผู้ชายนุ่มนิ่ม น่ารัก ภาพลักษณ์อ่อนโยน ซึ่งก็ถือเป็นด้านกลับของนอร์มสังคมที่คาดหวังให้ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายนำผู้หญิงตลอดมา เช่นเดียวกับการฉายภาพให้วีเป็นผู้ชายที่มีความกลัว มือสั่น แต่ก็ถูกปลอบประโลมโดยไอยู แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่ปกป้องคนรักของเขาเลย เพราะแม้จะมีความกลัว แต่ความรักก็ชนะความกลัวไปได้ ในฉากที่เขาเลือกจะหยิบอาวุธมาจัดการกับกล่องปริศนาแทนไอยู ซึ่งก็ทำให้เห็นว่า ผู้ชายทุกคนควรถูกอนุญาตให้มีมุมอ่อนไหว อ่อนแอได้ โดยไม่ต้องยึดติดกับบทบาททางเพศกันมากนัก เพราะทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ที่มีอารมณ์ที่หลากหลาย ซึ่งก็มีแฟนคลับหลายคนก็รู้สึกชอบสารเล็กๆ นี้ที่สื่อออกมาผ่านเอ็มวี&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/bLaKUYEinldqhK7wp1V2h0clDoaQTMp1V2G5XjXSt6fvD21Lwe9vA1.png" data-id="101414" data-url="https://media.thairath.co.th/image/bLaKUYEinldqhK7wp1V2h0clDoaQTMp1V2G5XjXSt6fvD21Lwe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">ความรักเยียวยาเราได้ ในโลกที่คนใจร้ายล้อมเราอยู่ - แม้ว่าภาพความรักที่เป็นไปตามจินตนาการของทั้งคู่ จะมองเห็นได้ผ่านโลกจินตนาการที่พวกเขาดูได้ผ่านกล้องวิดีโอเพียงเท่านั้น โลกที่ไอยูกับวีได้แต่งงานกัน แม้จะอยู่ท่ามกลางคนไร้หน้าชุดดำที่คอยชี้มาที่พวกเขา ซึ่งก็สื่อถึงเสียงแอนตี้ภายนอก แต่พวกเขาก็ยังได้มีสิทธิ์ที่จะรักกัน โลกที่ไอยูได้ร้องเพลง ซึ่งก็คงสื่อถึงการมีเสียงของตัวเองสักที หรือโลกที่วีได้มองเห็นภาพทุกอย่างชัดเจน ซึ่งก็คงหมายถึงการได้กำหนดชีวิตตัวเองอย่างเต็มที่ ทว่าสุดท้ายโลกความเป็นจริงอันโหดร้ายก็ปะทะเข้ามา เขาทั้งคู่หนีไม่พ้นจุดจบ แต่ก็ปกป้องกันและกันจนนาทีสุดท้าย ที่ไอยูปิดตาของวีไว้หนึ่งข้างเพื่อไม่ให้เขาต้องมองไม่เห็นอีกเลย และลอยสลายหายไปเหลือเพียงแต่ชุดบ่าว-สาว ที่ร่วงโรยลงมา ซึ่งผู้กำกับบอกว่า แม้ฉากความเป็นจริงจะเศร้าเพียงใด แต่ภาพที่ปรากฏในกล้องวิดีโอที่ยังคงบันทึกเหตุการณ์นั้น ก็ฉายให้เห็นว่าพวกเขาได้รับอิสรภาพจากการกดขี่และแรงกดดันทุกรูปแบบแล้ว ซึ่งมันคงจะดีตั้งแต่แรกถ้าสังคมไม่กดดันให้พวกเขาต้องเลือกจากไปเพื่อพบความสุขในโลกหน้า แต่ทำให้พวกเขาได้อยู่อย่างมีความสุขบนโลกใบนี้ตั้งแต่วินาทีนี้ไม่เพียงเท่านั้น ภาพการแต่งงานท่ามกลางซากปรักหักพังของไอยูและวี ทำให้เรานึกถึง การแต่งงานของผู้คนในชีวิตจริงในสงคราม เช่น ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่แม้จะเกิดการสูญเสียมหาศาล แต่หลายคู่รักก็ยืนหยัดในความรัก และเลือกจะแต่งงาน อย่างในปี 2022 รัฐบาลยูเครนก็ได้ออกมาเผยว่ามีคู่รักเกือบ 4,000 คู่แต่งงาน เพื่อยืนหยัดถึงชีวิตที่ต้องเดินต่อ และ วิตาลี คลิทช์โก (Vitali Klitschko) นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ก็ได้กล่าวว่า “ชีวิตยังคงต้องเดินต่อ และผู้คนยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งความรักของพวกเขาจะมีส่วนช่วยเหลือสงคราม” หรืออย่างสถานการณ์ความรุนแรงที่กาซาเอง ก็มีคู่รักชาวปาเลสไตน์เลือกจะแต่งงาน โดยเจ้าบ่าวคนหนึ่งที่ชื่อ โมฮัมเหม็ด ซูรับ (Mohammed Zourab) กล่าวว่า “ผมกำลังเฉลิมฉลองงานแต่งงานที่นี่ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าเรากำลังรอคอยชีวิตที่มีศักดิ์ศรีและความสงบสุข”Love wins all จึงเป็นอีกเพลงที่สามารถตีความความรักท่ามกลางสถานการณ์แย่ๆ รอบตัวได้อย่างดี และความรักที่ต่างฝ่ายต่างปกป้องกันและกันจนสุดทาง จะทำให้ช่วงชีวิตของพวกเขา พบความสุขได้บ้างในสถานการณ์อันคับขัน และนั่นคือนิยามของประโยคที่หลายคนคงได้ยินกันบ่อยๆ จนชินแล้วว่า “ความรักชนะทุกสิ่ง” ซึ่งสำหรับบางคู่ มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ&nbsp;สามารถดูเอ็มวี Love wins all ได้ที่ <a href="https://youtu.be/JleoAppaxi0?si=KYtcBR_UEB5vnjzw" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://youtu.be/JleoAppaxi0?si=KYtcBR_UEB5vnjzw</a>&nbsp;อ้างอิง:<a href="https://kbizoom.com/director-uhm-tae-hwa-explains-ius-music-video-love-wins-all-i-welcome-various-interpretations/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://kbizoom.com/director-uhm-tae-hwa-explains-ius-music-video-love-wins-all-i-welcome-various-interpretations/</a><a href="https://www.businessinsider.com/couples-married-in-ukraine-during-war-with-russia-2022-3" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.businessinsider.com/couples-married-in-ukraine-during-war-with-russia-2022-3</a>&nbsp;<a href="http://www.news.cn/english/2020-03/02/c_138833238.htm" rel="noopener noreferrer" target="_blank">http://www.news.cn/english/2020-03/02/c_138833238.htm</a>&nbsp;

‘สี่สาวชาวกี’ (The Ki Sisters) เขียนและวาดโดย bumbae กำลังเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของครอบครัวหญิงล้วนที่ผู้หญิงลุกขึ้นมาดูแลบ้านกันเอง เป็นหัวหน้าครอบครัว และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผ่านคาแรกเตอร์ 4 สาวที่หลากหลาย

การเดินทางออกจากโลกหญิงล้วนของ ‘กีเจนนี’ ในเว็บตูน ‘สี่สาวชาวกี’ จากมีม Queen never cry เพื่อเรียนรู้ว่าผู้ชายในสังคมมีอยู่หลายแบบ และอาจไม่ได้น่ารักหรือใจดีเหมือนพ่อทุกคน

Anika Leila สาวผู้รังสรรค์อายแชโดว์ ลิปไลเนอร์ บลัชออน รองพื้น มาสคาร่า และเครื่องสำอางหมดอายุแทบจะทุกประเภทให้กลายเป็นพาเลตสีสุดเก๋ ที่เอามาใช้วาดลวดลาย และระบายสีจากเครื่องสำอางทั้งหมดนี้ เป็นงานศิลปะ

ภาพเพนต์จาก ‘เครื่องสำอางหมดอายุ’ ของ Anika Leila สาวบริติช-อินเดียน ที่หยิบไอเท็มใกล้ทิ้งหรือต้องทิ้งในกระเป๋าเมคอัพมาทำงานศิลปะ

Wicked มีครบรส ตั้งแต่ตลก สนุก ตื่นตาตื่นใจ ลุ้น ซึ้ง เศร้า น้ำตาแตก เขิน จริงจัง และหดหู่ เพราะท่ามกลางความแฟนตาซีที่ปรากฏในหนังแม่มดฟอร์มยักษ์ หลายซีนก็สะท้อนค่านิยมสังคมที่จริงเสียจนรู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Music

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS