หลังจากที่เกิร์ลกรุ๊ปคอนเซปต์ชัดอย่าง (G)I-DLE ปล่อยบทเพลง WIFE ออกมา เนื้อหาของเพลงก็กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างมากในบรรดาแฟนเพลงทั้งในและนอกประเทศเกาหลีใต้

WIFE เพลงใหม่จาก (G)I-DLE ที่เสียดสีความเป็น ‘เมีย’ ในแบบที่สังคมคาดหวัง ว่าต้องเก่งทั้งงานบ้านและงานบนเตียง แต่ไม่วายมีดราม่าเพราะเนื้อเพลง ที่ไม่ถูกใจผู้ฟังหลายคน 

หลังจากที่เกิร์ลกรุ๊ปคอนเซปต์ชัดอย่าง (G)I-DLE ปล่อยบทเพลง WIFE ออกมา เนื้อหาของเพลงก็กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างมากในบรรดาแฟนเพลงทั้งในและนอกประเทศเกาหลีใต้ ขณะที่หลายคนมองว่าเพลงนี้กำลังเสียดสีความเป็นเมียในแบบที่สังคมคาดหวัง หลายคนก็รู้สึกไม่ดีกับภาพที่เพลงสื่อออกมา ไม่เพียงเท่านั้น บ้างก็ว่าเพลงนี้สื่อสารเรื่องเซ็กซ์มากเกินไปซึ่งไม่เหมาะกับเยาวชน หรือไม่ก็มองว่าเพลงนี้เขียนเนื้อเพลงไม่ได้เรื่องได้ราว จับใจความไม่ได้ ฯลฯ เรียกได้ว่าท่ามกลางความชื่นชมในความปังของเพลง ก็มีคอมเมนต์แง่ลบมากกว่าที่คิดทีเดียวเพลง WIFE เขียนเนื้อเพลงและโปรดิวซ์โดยโซยอน (Soyeon) ผู้เป็นหัวหน้าวง และท่อนฮุกในภาษาอังกฤษก็ร้องว่า “ฉันทำครีมซุปที่รสชาติสุดยอดไปเลยล่ะ อยากได้ฉันเป็นเมียใช่มะ? แต่เธอ (she) ก็ อืม อืม อืม ฉันทำความสะอาดห้องให้เธอได้อย่างเนี้ยบเลยล่ะ อยากได้ฉันเป็นเมียใช่มะ? แต่เธอก็ อืม อืม อืม ฉัน” ส่วนเนื้อเพลงภาษาเกาหลีในส่วนที่เหลือก็พูดถึงการ ‘ปรนเปรอ’ อีกฝ่ายด้วยอาหาร พร้อมชวนให้เขากินให้อิ่มหนำสำราญใจ ซึ่งตรงนี้นี่เองที่หลายคนตีความว่าสื่อไปในเรื่องเซ็กซ์อย่างไม่ต้องสงสัย&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/uXNFJgwv1nNL0UpRzWRWtQoMaG64mOsNOIp1V2Fl4lPwywe9vA1.png" data-id="101409" data-url="https://media.thairath.co.th/image/uXNFJgwv1nNL0UpRzWRWtQoMaG64mOsNOIp1V2Fl4lPwywe9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการตีความของคนฟังล้วนๆ โดยเนื้อเพลงแล้ว ไม่ได้มีการระบุชัดเจนว่าตัวเพลงคิดเห็นอย่างไรกับการเป็นเมีย หรืออยากสื่อสารอะไรมากไปกว่านี้หรือไม่ รวมถึงท่อนที่บอกว่า “อืม อืม อืม” ก็ชวนให้ตีความกันได้อย่างอิสระว่ามันหมายถึงความรู้สึกอย่างไรกันแน่ แต่สิ่งหนึ่งที่พอจะช่วยไกด์ความรู้สึกคนฟังได้ก็คือตัวมิวสิกวิดีโอที่ 5 เมมเบอร์แต่งชุดสีขาวกับวิกผมสีมินต์ทรงเดียวกันหมด ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็สื่อสารถึงการถูกจับยัดในแพตเทิร์นเดียวกัน จนหากไม่ได้มองให้ชัดก็แทบจะระบุไม่ได้ว่าตัวตนของใครเป็นอย่างไร นั่นก็อาจหมายบทบาทของการเป็น ‘เมีย’ ที่ถูกคาดหวังให้ต้องทำอาหารเก่ง ต้องทำงานบ้านเก่ง และขณะเดียวกันก็ต้องมีความเย้ายวนทางเพศ สามารถตอบสนองเรื่องเซ็กซ์ให้กับสามีอย่างเต็มที่ ขณะที่ตัวตนด้านอื่นๆ ของพวกเธอกลับถูกกลบไว้ด้วยบทบาทเหล่านี้จนเกือบหมดแน่นอนว่าหลังปล่อยเพลงออกไป รีแอ็กชันที่ชาวเน็ตมีต่อเพลงก็ผสมปนเป เช่นคอมเมนต์หนึ่งที่มองว่าเนื้อเพลง WIFE เป็นการเสนอภาพการเป็นเมียในแง่ลบจนเกินไป “ฉันเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และเนื้อเพลงนี้ก็ทำให้ฉันหงุดหงิด ฉันอยากรู้ว่าวงนี้มองภาพการเป็นภรรยาแบบไหนเหรอ? ถ้าลองเปลี่ยนชื่อเพลงเป็น (G)I-DLE ล่ะ แฟนๆ ไม่โกรธกันแย่แล้วรึ”&nbsp;ทั้งยังมีคอมเมนต์ที่ดูเหมือนจะมองว่าเพลงนี้สื่อสารได้ไม่ดีพอ โดยกล่าวว่า “นี่คือเพลงที่เกี่ยวกับการเป็นเมียเหรอ? แบบนี้สิทธิสตรีพังแน่” ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีคอมเมนต์ที่มองว่าเนื้อหาของเพลง “ไม่เหมาะสม” และแม้ว่าวง (G)I-DLE จะมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ใหญ่ แต่เด็กๆ ก็ยังสามารถได้ยินเพลงนี้และอาจซึมซับเข้าไปโดยไม่รู้ตัว&nbsp;ขณะเดียวกันก็มีแฟนๆ หลายคนที่เห็นภาพว่า (G)I-DLE ต้องการเสียดสีภาพจำของการเป็นเมียที่สังคมเกาหลีใต้ ซึ่งชัดเจนเรื่องชายเป็นใหญ่กำลังคาดหวัง เพียงแต่ด้วยเนื้อเพลงที่ปะติดปะต่อได้ยาก สารที่ต้องการจะสื่อเลยไม่ชัดเจนอย่างน่าเสียดาย เช่น “ฉันรู้สึกว่าเพลงนี้กำลังเสียดสีให้เราเห็นว่าการเป็นเมียตามรูปแบบเดิมๆ นั้นเป็นเรื่องตลก แต่พอเนื้อเพลงมันตัดไปตัดมา สารเลยออกมาไม่ชัดเท่าไร” หรือ “ฉันเก็ตน้ำเสียงเสียดสีของเพลงนี้ แต่ขอโทษนะ เนื้อเพลงมันก็ห่วยอยู่ดี”&nbsp;หากตัดเรื่องเนื้อเพลงที่จับใจความได้ยากออกไป น่าสนใจที่ความคิดเห็นต่อการพูดเรื่องความเป็นเมียนั้นแตกต่างหลากหลาย ขณะที่เราสามารถมองว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องจำกัดตัวเองให้อยู่ในฐานะภรรยาที่เก่งงานบ้านงานเรือน (แถมเต็มที่เรื่องเซ็กซ์) อีกต่อไป แต่ขณะเดียวกัน เราก็ไม่สามารถเหยียดหยามคนที่เลือกเป็นเมียหรือเป็นแม่บ้านตราบใดที่นั่นคือทางเลือกของพวกเธอ ในยุคที่หลายวิธีคิดในสังคมกำลังปะทะกัน เพลง WIFE จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการสื่อสารเรื่องสิทธิสตรี ที่ผู้สื่อสารทั้งหลายจำเป็นต้องทำการบ้านกันต่อ &nbsp;สำหรับ (G)I-DLE นับเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ค่อนข้างชัดเจนในเรื่องการสนับสนุนเสรีภาพของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นเพลง TOMBOY ที่ว่าด้วยภาพความเป็นหญิงที่ต่างไปจากขนบ เพลง Nxde ที่ว่าด้วยสายตาที่มองมายังเรือนร่างผู้หญิง หรือ Queencard ที่มากับการเสริมสร้างพลังความมั่นใจให้กับผู้หญิง ฯลฯ หากว่ากันที่ความตั้งใจแล้ว ผลงานเพื่อนหญิงพลังหญิงของพวกเธอนั้นล้วนแต่น่าสนใจ และแม้จะมีดราม่า แต่ในทางหนึ่งมันก็เป็นการเรียนรู้และทำความเข้าใจร่วมกันของคนในสังคมได้ดีทีเดียวใครที่สนใจ สามารถรับชมเอ็มวีได้ที่ <a href="https://www.youtube.com/watch?v=baaNwRAhHBo" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=baaNwRAhHBo</a>&nbsp;อ้างอิง<a href="https://www.kpopstarz.com/articles/317187/20240122/gidle-lyrics-wife-mixed-reactions-reason-starting-hate-them.htm" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.kpopstarz.com/articles/317187/20240122/gidle-lyrics-wife-mixed-reactions-reason-starting-hate-them.htm</a><a href="https://genius.com/Genius-english-translations-gi-dle-wife-english-translation-lyrics" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://genius.com/Genius-english-translations-gi-dle-wife-english-translation-lyrics</a>&nbsp;

สำหรับการรีเมคหนังในสมัยนี้ คนดูมีความคิดเห็นอยู่ 2 อย่าง แบบแรกคือ ทำตามต้นฉบับเป๊ะที่ดูแล้วก็เพลินตา ที่รู้อยู่แล้วว่าเริ่มต้นและจบอย่างไร แบบสองคือเปลี่ยนทุกอย่างจนไม่เหลือแฟนตาซีภาพจำในวัยเด็กให้ฟินกันต่อ ไม่ว่าจะเป็นการนำความหลากหลายมาใส่จนเกินธรรมชาติ ที่ดูแล้วก็นับว่าเป็นโจทย์ยากของคนทำหนังว่าคนดูสมัยนี้ต้องการอะไรจากหนังรีเมคกันแน่

30 ปีผ่านไป หนังเรื่อง Clueless 
จะต่อยอดต่อไปอย่างไร? กับนางเอก
คุณหนูคนเดิม Alicia Silverstone

โคลอี้ ไฟน์แมน (Chloe Fineman) คอเมเดี้ยนสาวเจ้าประจำแห่งรายการ Saturday Night Life ชวนเพื่อนสาวมาบอกเล่าอินไซต์วัยสามสิบกันแบบฮาๆ ในสเก็ตช์ ‘Forever 31’

Forever 31 สเก็ตช์จาก Saturday Night Life ที่ได้ใจสาวๆ วัย 30s เพราะรวมทุกอินไซต์ในชีวิตแบบครบจบเว่อร์ 

Common People คือเอพิโสดแรกซึ่งอาจเรียกได้ว่าปวดใจที่สุดอีกเอพิโสดหนึ่งของมหากาพย์ Black Mirror ซีรีส์ว่าด้วยด้านมืดของเทคโนโลยี ที่สร้างต่อเนื่องมาหลายปีจนมาถึงซีซั่นที่ 7 และมันก็ยังคงยืนยันที่จะพูดเรื่องผลร้ายของโลกอนาคตอันใกล้กับเทคโนโลยีสุดล้ำต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ แถมเล่นกับประเด็นมืดหม่นไม่แผ่ว ตามสไตล์ผู้สร้างทีมเดิมอย่าง Charlie Brooker 

Common People : ที่สุดแล้วความเหลื่อมล้ำจะตามเราเจอ ตอนหนึ่งของซีรีส์ Black Mirror ที่ว่าด้วยความเหลื่อมล้ำของเทคโนโลยี ซึ่งไม่ว่าจะอยู่หรือตาย ก็ทำให้มนุษย์ไม่มีวัน ‘เท่ากัน’ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Music

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS