คัลเจอร์เซ็กซ์ครู-นักเรียน ประเด็นที่สังคมเรายังขาดการตระหนักรู้ และเกิดเป็นอาชญากรรม

ปัญหาของเอ็มวีเพลง TUTOR จากวง LUSS ที่เลือกใช้คอนเซปต์หนังโป๊แบบครู-นักเรียน ท่ามกลางอาชญากรรมทางเพศในโรงเรียนไทย

เอ็มวีเพลง TUTOR จากศิลปินดูโอ้ไทย ‘LUSS’ จากค่าย Wayfer Records เพิ่งปล่อยออกมายังไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับการหยิบยืมมู้ด และคอนเซปต์ของหนังโป๊ญี่ปุ่น หรือ AV มาถ่ายทำประกอบเพลง จริงอยู่ที่การดูหนังโป๊ในยุคนี้ควรเป็นเรื่องที่พูดได้ และไม่ควรเป็นเรื่องที่ผิด เรื่องที่แปลกอีกต่อไป เพราะเซ็กซ์เป็นเรื่องปกติ แต่ที่เอ็มวีนี้ยังพบรอยรั่วของปัญหาที่ขัดเกลาไม่ดีพอ นั่นเป็นเพราะการผลิตซ้ำคัลเจอร์เซ็กซ์ของ ‘ครู-นักเรียน’ มาทำให้เป็นเรื่องโรแมนติก หรือเรื่องรสนิยมส่วนตัว ซึ่งในประเทศเรานั้นถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงอย่างหนึ่งที่แทบจะเกิดขึ้นในไทยแทบทุกเดือน ในมิวสิกวิดีโอตัวนี้จำลองการถ่ายทำ AV ด้วยกัน 3 เรื่อง ได้แก่ “หลอกให้ครูติว นัดดิวที่ห้องเรียน”, “บอสหยุดเวลา เลขาชะตาพลิก” และ “3 สาวนักบินอยากฟินกับเอเลี่ยน” โดยพาร์ตที่มีปัญหาที่สุดคงเป็นพาร์ตแรก ที่เปิดมาด้วยป้ายห้องเรียนชื่อ 3-AV ซึ่งการกำกับแบบนี้ก็ถือเป็นการย้ำกับผู้ชมว่านี่คือคอนเซปต์ AV อย่างแน่นอน ภายในห้องเรียนมีครูหนุ่มหล่อ และนักเรียนสาว (นักร้องนำวง LUSS) ที่พยายามจะจีบครู และด้วยมุมกล้องกดๆ ซูมเข้าใกล้หน้า ใครที่เคยดูหนังโป๊อาจจะคุ้นเคยมุมกล้องทำนองนี้อยู่แล้ว แถมท่อนฮุก “รับติวป่าวคะ ก็มันงง งง งง งง ง๊ง งง” ที่พอฟังปั้น นักร้องนำร้องในเพลง มันก็ชวนให้คิดไปไกล เพราะละม้ายคล้ายคำว่า ‘ติ้ว’ แทน ยิ่งไปอ่านคอมเมนต์ในยูทูบที่ผู้ใช้รายหนึ่งคอมเมนต์ว่า “รับติ้วป่าวคะ? งง งง งง งง ง๊งงง” แล้วทางแอ็กเคานต์ของ Wayfer Records ไปตอบกลับว่า “ไปเติมไม้โท ทำไม๊ ปัดโธ่” และผู้ใช้รายนั้นก็เสริมต่อว่าตนร้องแบบในเพลง ทาง Wayfer Records ก็ไม่ได้ปฏิเสธ และตอบโต้เป็นนัยว่าคิดถูกว่า “เอาไปเลย Top Comment of the day 555” ที่เราไม่เห็นด้วยกับการนำเสนอเซ็กซ์ในหนังโป๊ของคู่ครู-นักเรียน นั่นเป็นเพราะสถิติที่น่าตกใจของไทยซึ่งทำให้เราควรคิดเยอะๆ กับประเด็นนี้ อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา ออกมาเผยว่า ปัจจุบันคุรุสภามีคดีที่เกี่ยวข้องกับการทำผิดจรรยาบรรณครู ที่อยู่ระหว่างดำเนินการกว่า 1,200 คดี โดยมาจากการร้องเรียนมาที่คุรุสภาโดยตรง และกรณีเกิดเป็นข่าวที่รับรู้ในสังคม จำนวน 1,200 คดี แบ่งเป็น คดีที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามกฎหมาย และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับการประกอบวิชาชีพ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคดีเกี่ยวกับ ‘การล่วงละเมิดทางเพศ’ และการประพฤติผิดทางจรรยาบรรณ หากอิงจากข้อมูลนี้ นี่จึงเป็นเพียงตัวเลขที่มีคนเข้ามาร้องเรียน และเกิดเป็นข่าวใหญ่โตเท่านั้น นั่นแปลว่ายังมีอีกหลายคดีที่ถูกซุกซ่อนอยู่ทั้งจากการที่โรงเรียนปิดข่าว เหยื่อถูกปิดปาก หรือเหยื่อไม่กล้าออกมาเรียกร้องความยุติธรรม หรือถ้าย้อนไปให้ไกลอีกหน่อย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก็เคยออกมากางสถิติการล่วงละเมิดทางเพศ ตั้งแต่ 2556-2562 พบว่า มีทั้งหมด 1,186 เคส มากที่สุด คือ บุคคลอื่นกระทำกับเด็ก 482 เคส รองลงมา คือ เด็กกระทำกับเด็กด้วยกัน 464 เคส คนในครอบครัวทำกับเด็ก 135 เคส และ ‘ครู/บุคลากรการศึกษา’ กับเด็ก 105 เคส ดังนั้นการที่จะอ้างว่านี่เป็นเพียงภาพของสื่อที่ทำขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ก็อาจจะไม่สมเหตุสมผล และอาจดูไม่สมควรหากยังมีเด็กที่ถูกครูล่อลวงทางเพศในชีวิตจริงจำนวนมาก นอกจากนี้การนำชุดนักเรียนมาดัดแปลงให้เป็นสิ่งยั่วยุทางเพศก็ดูจะเป็นภัยต่อเด็กทุกคน อย่างในญี่ปุ่นเอง ก็มีการปราบปรามธุรกิจ JK หรือ Joshi Kosei ซึ่งเป็นการออกเดต และการมีเซ็กซ์กับสาวมัธยมปลายในชุดนักเรียนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แต่ปัญหานี้ก็ยังไม่การันตีว่าหมดไป เนื่องจากกฎหมายการแบนยังไม่ได้ควบคุมทุกจังหวัดในญี่ปุ่น (ใครอยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหานี้สามารถอ่านได้ที่ <a href="https://www.mirrorthailand.com/culture/100430" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.mirrorthailand.com/culture/100430</a>) มากกว่าปัญหาเซ็กซ์ของครู-นักเรียนแล้ว อีกพาร์ตที่เรามองว่าพื้นฐานของการยินยอมพร้อมใจนั่นหายไป คือพาร์ต “บอสหยุดเวลา เลขาชะตาพลิก” ที่บอกเล่าเซ็กซ์ของเจ้านาย-ลูกน้อง ที่ฝ่ายเจ้าชายที่เป็นผู้ชายมีเครื่องหยุดเวลา และเขาเลือกจะหยุดเวลาเพื่ออุ้มเลขาสาวไปที่โซฟา และลูบหน้า จัดผม ซึ่งก็เป็นท่าทางของการกำลังจะมีเซ็กซ์นั่นแหละ หากฉากนี้เปลี่ยนเป็นการที่เลขายินยอมจะมีเซ็กซ์ด้วย นั่นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากเป็นการมีเซ็กซ์โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้สติแบบที่เอ็มวีนี้ฉายภาพให้เห็น มันก็อาจนำไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศ และการข่มขืนได้ในชีวิตจริง<img src="https://media.thairath.co.th/image/6pfIecjejn3x0hFb0nthuXSg3DqONwHcwuVlGYlIVoYe9vA1.jpg" data-id="100698" data-url="https://media.thairath.co.th/image/6pfIecjejn3x0hFb0nthuXSg3DqONwHcwuVlGYlIVoYe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">เราไม่อาจแน่ใจถึงเจตนาของคนทำเอ็มวีนี้ได้ เขาอาจจะอยากทำให้เรื่องของ AV เป็นเรื่องปกติที่พูดได้เฉยๆ โดยไม่ทันได้ตระหนักถึงปัญหาของเนื้อเรื่องที่แทรกเข้ามาก็ได้ แต่เนื้อหาในเอ็มวีนั้นไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่เป็นปัญหา เพราะดันเป็นประเด็นที่สังคมเรายังขาดการตระหนักรู้ และเกิดเป็นอาชญากรรมในทุกๆ วันอยู่ อ้างอิง: <a href="https://www.matichonweekly.com/column/article_623098" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.matichonweekly.com/column/article_623098</a> <a href="https://www.thairath.co.th/scoop/1988528" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.thairath.co.th/scoop/1988528</a> เอ็มวีเพลง TUTOR <a href="https://www.youtube.com/watch?v=mN3O-XUOFw0" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=mN3O-XUOFw0</a>&nbsp;

ในยุคแห่ง Diversity & Inclusion ที่โลกต่างโอบรับความแตกต่างหลกหลาย ‘ยืดเปล่า’ (YUEDPAO) แบรนด์เสื้อผ้าที่เกิดขึ้นภายใต้บริษัท เริ่มใหม่ จำกัด ที่ขับเคลื่อนโดยคนรุ่นใหม่มาโดยตลอด จึงขอ Embrace ความหลากหลายผ่านภาพยนตร์สารคดีสั้น ‘รักเรา…ยืดแต่ไม่ย้วย’ นำเสนอเรื่องจริงของความรักแห่งยุคจากคู่รัก 7 คู่ที่เต็มไปด้วยความแตกต่างผ่านหลากหลายมุมมอง รวมถึงแง่มุมของการข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ที่สะท้อนความสัมพันธ์ ‘ยิ่งยืด ยิ่งพอดี’ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับความรักเท่าเทียม จากกฎหมายสมรสเท่าเทียมที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆ นี้ 

‘รักเรายืดแต่ไม่ย้วย’ ภาพยนตร์สารคดีสั้นบอกเล่าความรักหลากเฉดสีของ 7 คู่รักในยุคแห่งความหลากหลาย จากแบรนด์ ‘ยืดเปล่า’

คงไม่เกินจริงเลยหากจะบอกว่าตอนที่หนังเรื่อง Joker ถูกจับมาอาบน้ำแต่งตัว ตีความใหม่ผ่านการเล่าด้วยมุมมองของผู้กำกับ Todd Phillips เมื่อปี 2019 เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่แฟนหนังทั่วโลกจะหลงรักตัวละครสักตัวที่เป็น Antihero หรือพระเอกที่ขาดความเป็นพระเอกได้มากมายขนาดนี้ อาจเพราะ Joker ในเวอร์ชั่นของ Todd Phillips นั้นมีความเป็น ‘มนุษย์’ มากกว่า Joker ในเวอร์ชั่นไหนๆ ที่เราเคยรู้จัก 

Harley Quinn เวอร์ชั่น Joker : Folie à Deux ลบภาพวายร้ายสาวสุดวายป่วงและกวนประสาท เพราะเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่ฝันสลายจากโลกเน่าๆ 

ขณะที่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่รู้สึกเชื่อมโยงกับขนมโบราณอย่างวากาชิไม่ได้ ร้านขายวากาชิเจ้าดั้งเดิมเลยเกิดแนวคิดว่า "ถ้าเราเปลี่ยนวรรณกรรมชื่อดังให้กลายเป็นวากาชิได้ แม้แต่คนที่ไม่คุ้นเคยกับวากาชิก็อาจจะสนใจลองชิม"

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Music

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS