แคมเปญพิเศษอย่าง NIGAO x Smile Club ก็นับเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น และร้านทำผมที่มีคาแรกเตอร์และสไตล์ที่จัดจ้านอันดับต้นของไทย ในการนำเสนอสไตล์และภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของสีผมและแฟชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น

Nigao x Smile Club 2 แบรนด์ดังระดับประเทศกับปรากฏการณ์ Hair Fashion Trend ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น

สำหรับหลายๆ คน การทำสีผมคือการนำเสนอความเป็นตัวเองผ่านการทดลองสิ่งใหม่ๆ ทั้งยังเป็นการพาตัวเองไปสนุกกับแฟชั่นโดยไม่ต้องจำกัดอยู่กับสไตล์เดิมๆ และการจะเปลี่ยนสีผมสักครั้งหนึ่ง เราจำเป็นต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยดูแล เพราะการจะได้สีผมที่ใช่ สไตล์ที่ช่วยขับเน้นคาแรกเตอร์ และผมที่ยังคงสุขภาพดีนั้น ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแฮร์สไตลิสต์และคุณภาพของตัวโปรดักต์ที่ใช้ล้วนๆ&nbsp;และแคมเปญพิเศษอย่าง NIGAO x Smile Club ก็นับเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่างผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น และร้านทำผมที่มีคาแรกเตอร์และสไตล์ที่จัดจ้านอันดับต้นของไทย ในการนำเสนอสไตล์และภาพลักษณ์ใหม่ๆ ของสีผมและแฟชั่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่งเต็มไปด้วยความเท่และความขบถอยู่ในตัว โดยต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง ได้มาตรฐาน และปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานด้วย &nbsp; &nbsp;“ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น เรื่องของแฟชั่นทรงผมและการทำสีผม เขาสุดยอดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มีอิสระ ไม่มีแบบแผนมากครอบ เราจะเห็นการทำงานแบบ Freehand ที่ไม่มี Pattern ตายตัว เทรนด์หลายๆ อย่างเกิดมาจากประเทศนี้ ส่วนเรื่องสีนี่มีทุกสี ทุกแบบ ตามที่คนจะจินตนาการได้ โทนร้อน โทนเย็น คือมีหมด ยอมรับครับว่าวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรามากๆ”&nbsp;ซัน-เมธัส เทพนวล ผู้ก่อตั้ง Smile Club กล่าว พร้อมย้ำว่าหน้าที่สำคัญของแฮร์สไตลิสต์ นอกจากการออกแบบทรงผมให้เหมาะกับคาแรกเตอร์ของลูกค้า ก็คือการเลือกและคัดสรรผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมาอย่างดีที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการและ NIGAO (นิกาโอะ) คือแบรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่โดดเด่นด้วยคุณภาพระดับพรีเมียมและความปลอดภัยอย่างสูงสุดต่อผู้ใช้ ด้วยนวัตกรรมด้านส่วนผสมและกระบวนการผลิตขั้นสูง ที่มีความประณีต ละเอียดอ่อน ใส่ใจ และทุ่มเทในทุกๆ ขั้นตอน และถ้าจะว่ากันที่งานเปลี่ยนสีผม ผลิตภัณฑ์ครีมเปลี่ยนสีผมของนิกาโอะก็ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อให้สีสวยสดชัด แบบไม่มีแอมโมเนีย ไม่มีกลิ่นฉุน และไม่ระคายเคืองหนังศีรษะ ผสานด้วยพลังแห่ง Crodafos HCE ลิขสิทธิ์แท้จากอเมริกาที่ช่วยเพิ่มความคงทนของเม็ดสี และ Squalane ที่ช่วยให้ผมชุ่มชื้น ป้องกันการแตกหักและความเสียหายของเส้นผมได้เป็นอย่างดี ทุกคนจึงสามารถสนุกไปกับการเปลี่ยนสีผมได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพเส้นผมอีกต่อไป&nbsp;สำหรับทิศทางของเทรนด์การทำสีผมในยุคนี้ ซัน-เมธัส ก็ได้บอกเล่าเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ค่อนข้างเปิดกว้าง กล้าทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน และเป็นตัวของตัวเอง เนื่องจากสถานการณ์โควิดฯ คนต้องกักตัว ทำให้คนเสพโซเชียลมีเดียค่อนข้างเยอะ เรียกได้ว่าเป็นกันทั้งโลก จึงทำให้พวกเขาสามารถติดตามเทรนด์แฟชั่นใหม่ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทำให้เทรนด์แฟชั่นแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวนี้มันรวมกันหมด ทั้งแฟชั่น เพลง อนิเมะ การแต่งตัว เสื้อผ้าของแต่ละคนมันจะลิงก์กับเรื่องราวประวัติของแฟชั่นต่างๆ ค่อนข้างชัดเจน มันอาจจะไม่ใช่แค่แฟชั่นฮิปฮอปอย่างเดียว แต่มันอาจจะเป็นการเอาฮิปฮอปผสมกับร็อค หรือเอาร็อคมาผสมกับป๊อป ซึ่งก็เป็นความท้าทายของช่างทำผมของ Smile Club ทุกคนที่ต้องตามเทรนด์ให้ทัน และต้องคอยศึกษาเทรนด์ใหม่ๆ ที่หลากหลายและทันสมัย เพื่อให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ แต่มันก็เป็นเรื่องที่สนุกนะ สนุกทั้งช่างที่ทำและลูกค้า”พร้อมทิ้งท้ายสำหรับใครที่อยากลองอะไรใหม่ๆ ว่า“สุดท้ายนี้ก็อยากฝากถึงคนที่อยากจะเปลี่ยนทรงเปลี่ยนสีผม ทำเลยครับ ไม่ต้องรอ เราได้เปลี่ยนบุคลิกหน้าตาตัวเอง เปลี่ยนความรู้สึก ได้ความสดชื่น ได้แต่งตัวแบบใหม่ ทุกวันนี้คุณเดินอยู่บนท้องถนนก็จะเห็นคนทำสีผมเยอะแยะไปหมด มันเป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ สีมันไม่ใช่เรื่องของความสุภาพหรือไม่สุภาพอีกต่อไป แค่อยากให้มั่นใจ หรือถ้าคุณกลัวผมเสีย เดี๋ยวนี้เขามีนวัตกรรมใหม่ๆ เยอะกว่าเมื่อก่อนมาก ไม่ต้องใช้เวลาทำนาน มีความเป็นออร์แกนิก สำหรับลูกค้าที่แพ้ง่าย อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ และสีผมมันช่วยให้เราดูสุขภาพดีขึ้นด้วย ลองเปิดใจแล้วสนุกกับตัวเอง เราอาจจะได้ค้นพบอะไรใหม่ๆ จากการเปลี่ยนสีผมก็ได้ครับ” อ่านเรื่องราวจาก Nigao ได้ที่<a href="https://www.nigao-brand.com/story/be-a-color-trendsetter" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.nigao-brand.com/story/be-a-color-trendsetter</a>&nbsp;

Y/Project ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2010 และตลอด 14 ปีที่ผ่านมา ทางแบรนด์ก็ได้ฝากความจึ้งความถึงเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะใน 11 ปีให้หลัง ที่ Glenn Martens เข้ามารับตำแหน่งดีไซเนอร์ที่แบกแบรนด์เอาไว้อย่างเต็มภาคภูมิ

Y/Project กับความจึ้งที่โลกแฟชั่นต้องจดจำ ตั้งแต่ต่างหูชูนิ้วกลาง เสื้อกล้ามไร้สาย ยีนส์ทรงประหลาด และความ deconstruct

แม้หน้าหนาวเมืองไทยจะไม่ค่อยหนาวสักเท่าไรโดยเฉพาะในเมือง แต่อากาศที่เริ่มแห้ง ไหนจะไอความร้อนจากแสงแดด ลม และมลภาวะต่างๆ ที่ถึงอากาศจะไม่หนาว ก็ทำให้ปากเราแห้งแตกเลือกซิบได้ไม่น้อยไปกว่ากัน ซึ่งเราแนะนำว่าไม่ควรประมาทอย่างยิ่ง เพราะพอปากแตกระแหงแล้วจะกู้คืนได้ยากกว่า

มัดรวมลิปบาล์มและลิปมาส์กกู้ชีพ
ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแบบเอาอยู่จริงในฤดูอากาศแห้ง

‘Zero’ โดย Balenciaga รองเท้าที่ใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลย สไตล์ Hyper-Minimalist ซึ่งสร้างความฮือฮาและทำให้คนงงว่า แล้วจะใส่ทำไมล่ะนั่น?! แต่บางคนก็มองว่า มันก็เก๋ เท่ คูล ดีนะ!

คู่นี้ เรียกรองเท้าได้แน่นะวิ?! ‘Zero’ รองเท้าคอลฯ ใหม่จาก Balenciaga ที่ชวนมนุษย์กลับคืนสู่สามัญ สัมผัสธรรมชาติ มาใส่รองเท้าที่ใกล้เคียง ‘เดินเท้าเปล่า’ อีกครั้ง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Trends

Nigao x Smile Club 2 แบรนด์ดังระดับประเทศกับปรากฏการณ์ Hair Fashion Trend ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมญี่ปุ่น

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS