‘Meta’ เปิดตัว AI ที่ใช้หน้าตาและภาพลักษณ์ของเหล่าเซเลบริตี้คนดัง 28 คน ไว้พูดคุยกับผู้คนในลักษณะแชตบอต แถมยังเปิดอินสตาแกรมส่วนตัวให้พวกเขา ที่ดูแล้วอึ้ง เพราะมันเหมือนเซเลบริตี้ตัวจริงมาพูดคุยด้วย

จะว่าล้ำก็ล้ำ จะว่าน่ากังวล ก็น่ากังวล เมื่อ Meta สร้าง AI เซเลบริตี้ ด้วยคาแรกเตอร์ใหม่ ชื่อใหม่ แต่หน้าเหมือนตัวจริงเป๊ะๆ 

นับวันความก้าวล้ำของเทคโนโลยีบนโลกเรามีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการนำเทคโนโลยีมามีส่วนช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้คนง่ายขึ้น หรือปรับใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ก็นับว่ามีข้อดีอยู่หลายข้อ แต่ก็มีเรื่องน่ากังวลอยู่เหมือนกัน อย่าง ChatGPT แชตบอต AI ที่ใช้ตอบคำถามที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก็ถูกติติงเรื่องข้อมูลที่บางครั้งก็ไม่ได้อัปเดตให้เป็นปัจจุบันขนาดนั้น หรือแม้แต่ในวงการนักวาดที่ออกมาเรียกร้องเรื่องที่โดน AI เอาผลงานตัวเองไปประมวลผลเป็นรูปภาพใหม่บนแอปฯ Loopsie ยังมีถึงการใช้ AI ในหลากหลายแอปฯ หลากหลายเว็บไซต์ ที่สามารถใส่รูปหรือวิดีโอของตัวเอง หรือจะของใครก็ได้ลงไป ที่หากมองเป็นเรื่องสนุกๆ ที่เราเล่นกันเองก็ดูจะล้ำๆ ดี หากมันไม่ได้เดือดร้อนใคร แต่ก็มีหลายคนที่ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาถูกเอา ‘หน้า’ ตัวเองไปใช้ในทางที่ไม่ดี เช่น ถูกเอารูปไปทำเป็นภาพเปลือย หรือการที่ศิลปินหลายคนถูกเอาหน้าไปทำเป็นคลิปวิดีโอต่างๆ ที่มันเนียน เหมือนจริง จนน่าขนลุก เห็นได้ชัดว่าเราอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านที่ทั้งโลกกำลังลองผิดลองถูกไปด้วยกัน อย่างล่าสุดเมื่อ&nbsp;‘Meta’ เปิดตัว <a href="https://mirrorthailand.com/tags/AI" rel="noopener noreferrer" target="_blank">AI</a> ที่ใช้หน้าตาและภาพลักษณ์ของเหล่าเซเลบริตี้คนดัง 28 คน ไว้พูดคุยกับผู้คนในลักษณะแชตบอต แถมยังเปิดอินสตาแกรมส่วนตัวให้พวกเขาทั้ง 28 คน มีการอัดคลิปฯ พูดคุยกับผู้คนต่างๆ ที่ดูแล้วอึ้ง เพราะมันเหมือนจริง จนใครๆ ก็คิดว่านั่นคือเซเลบริตี้ตัวจริงมาพูดคุยด้วย ซึ่ง Meta จ่ายเงินจำนวนหลายล้านเหรียญสหรัฐให้กับเหล่าเซเลบริตี้ นั่นแปลว่า พวกเขาเต็มใจที่จะให้ใช้หน้าของพวกเขา เพียงแต่ต้องทำให้มั่นใจว่าภาพลักษณ์ของพวกเขาจะไม่ไปสร้างปัญหา แต่ถึงอย่างนั้น คนในสังคมบางส่วนก็รู้สึกเป็นกังวล และรู้สึกว่ามันแปลกๆ และดูอันตรายอยู่ดี กับการทำ AI ลักษณะนี้ นางแบบสาว Kendall Jenner รับบทเป็น Billie มาด้วยภาพลักษณ์ ‘The Big Sis’ พี่สาวที่ให้คำแนะนำ นักกีฬา Tom Brady รับบทเป็น Bru มาด้วยภาพลักษณ์ ‘The Sports Brain’ แชตบอตที่ชวนโต้วาทีเรื่องกีฬา ตัวแม่อย่าง Paris Hilton รับบท Amber มาด้วยภาพลักษณ์ ‘The Detective’ นักสืบสาว! Charli D’Amelio รับบทเป็น Coco มาด้วยภาพลักษณ์ ‘Dance Enthusiast’ สาวนักเต้น หรือ Snoop Dogg รับบทเป็น Dungeon Master มาด้วยภาพลักษณ์ ‘The Guide to Games’ ที่เน้นคุยเรื่องเกมกับแฟนๆ ฯลฯ เมื่อโลกของ AI เบลนด์เข้าหาโลกแห่งความจริงผ่านความตั้งใจให้ ‘เหมือน’ คนเป๊ะๆ มันทำให้ผู้คนรู้สึกเชื่อว่าเรากำลังคุยกับคนจริงๆ อยู่ และหลายคนมองว่านั่นอาจเกิดปัญหาตามมา เพราะท้ายที่สุด เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลที่มาจากปาก AI นั้น ถูกต้อง และนำไปปรับใช้ได้จริงๆ? และแม้จะมีคนที่สามารถแยกแยะ หรือมีวิจารณญาณในการเล่นกับ AI ได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่าหลายครั้ง ก็ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถรู้เท่าทันเทคโนโลยีได้ Ibo van de Poel ศาสตราจารย์ด้านจริยธรรมและเทคโนโลยีจาก Delft University of Technology แสดงความกังวลว่า “ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมีแนวโน้มที่จะเชื่อสิ่งที่ AI เหล่านี้พูด” ซึ่งความอันตรายที่เกิดขึ้นก็เคยเกิดเป็นรูปธรรมมาแล้ว จากข่าวที่ชายคนหนึ่งในเบลเยียมตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากพูดคุยประเด็น global warming กับ AI เจ้าหนึ่ง เป็นเวลา 6 สัปดาห์ ซึ่งยิ่ง Meta ใช้ความเป็นมนุษย์ มาทำให้คนรู้สึกอินว่ากำลังคุยกับคนจริงๆ อยู่ ก็มีแนวโน้มที่บางคนอาจจะเชื่อในสิ่งที่พวกเขาพูด และบางอย่าง เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันถูกต้อง “ฉันคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าพยายามอธิบายขีดจำกัดของผู้สนทนาเหล่านี้ (AI) แทนที่จะพยายามทำให้พวกเขาดูเหมือนเป็นมนุษย์มากขึ้น” Ibo van de Poel กล่าว ซึ่งในความคิดเห็นของเขา ก็มองว่า Meta ตั้งใจให้ผู้คนรู้สึกเหมือนคุยกับคน เพราะ “พวกเขาจะรู้สึกสบายใจมากขึ้น พวกเขาจะคุยได้นานขึ้น และมีแนวโน้มที่จะกลับมาคุยอีก” เพราะว่ามันเหมือนได้คุยกับเพื่อนจริงๆ ซึ่งหากจะมองในเรื่องแง่ของความสบายใจ หากไม่ใช่ตัวแทนที่เอาเซเลบริตี้มาคุย แต่เป็นคาแรกเตอร์ใหม่ที่สร้างขึ้นมา ก็อาจจะดูไม่น่ากังวลขนาดนี้หรือเปล่า? แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่น่ากังวลมากที่สุดก็คงเป็นเรื่องของข้อมูลที่ใช้พูดคุยกับผู้ใช้นั่นแหละ ว่ามันโอเคจริงไหม “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้คนพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อให้ได้คุยและมีความสัมพันธ์โดยตรงกับ Paris Hilton หรือเซเลบริตี้คนอื่นๆ” Anna Strasser นักปรัชญาชาวเยอรมัน กล่าว และถ้าเป้าหมายของ Meta คือการทำให้คนรู้สึกใกล้ชิดกับคนดังที่ชอบ เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าผู้ใช้ที่เข้าไปคุยกับพวกเขา จะไปพิมพ์อะไรแปลกๆ หรือในเชิงคุกคาม หรือทำให้เสื่อมเสียหรือเปล่า? ก็ไม่อาจคาดเดาได้จริงๆ เพราะแม้จุดประสงค์ของการทำ AI จะทำมาเพื่อช่วยให้ชีวิตของผู้คนง่ายขึ้นในมิติต่างๆ แต่สิ่งที่คาดเดาไม่ได้จากการเติบโตของเทคโนโลยี ก็มีตั้งแต่ความปลอดภัยของเจ้าของหน้าตาที่ถูกเอาไปใช้ และเราไม่รู้ได้เลยว่า ถ้ามีบางคนอินกับการคุยกับเซเลบริตี้รูปแบบ AI มากๆ จะนำไปสู่อะไรบ้าง หากแยกแยะตัวจริงกับ AI ออกจากกันไม่ได้ หรือแม้แต่การมองในภาพของการที่เทคโนโลยีมันล้ำจนทำให้ ‘เหมือน’ ตัวจริงได้มากขนาดนี้ ก็นับว่ายังเป็นเรื่องน่ากังวลมากเลยทีเดียว ที่ยังมีบางคนถูกเอาภาพของตัวเองไปใช้โดยไม่เต็มใจในโลกภายนอก แล้วทุกคนล่ะ คิดเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้? ลองมาแชร์กันได้นะ อ้างอิง: <a href="https://www.businessinsider.com/meta-paying-celebrity-faces-of-ai-chatbots-as-much-as-5-million-2023-10" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.businessinsider.com/meta-paying-celebrity-faces-of-ai-chatbots-as-much-as-5-million-2023-10</a> <a href="https://www.france24.com/en/technology/20230930-counterfeit-people-the-dangers-posed-by-meta-s-ai-celebrity-lookalike-chatbots" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.france24.com/en/technology/20230930-counterfeit-people-the-dangers-posed-by-meta-s-ai-celebrity-lookalike-chatbots</a> <a href="https://www.foxnews.com/tech/tom-brady-paris-hilton-snoop-dogg-kendall-jenner-change-names-ai" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.foxnews.com/tech/tom-brady-paris-hilton-snoop-dogg-kendall-jenner-change-names-ai</a>

แอนน์ แฮทธาเวย์ และ เจสสิกา แชนเทส โคจรมาพบกัน ที่ต่างฝ่ายต่างรับบทเป็น ‘แม่’ ของลูก ในภาพยนตร์ดราม่า ระทึกขวัญ ที่สุดแสนจะปั่นประสาทคนดู อย่าง Mothers’ Instinct หรือ สันดานแม่

Mothers’ Instinct : สันดานแม่ เรื่องของผู้หญิงที่ต้องสู้กันเอง เพื่อพิสูจน์ความเป็นแม่ที่ดี และกล่าวโทษกันเองว่าใครเป็นแม่ที่แย่

คริสเตน ดันสต์ (Kirsten Dunst) คือนักแสดงหญิงอีกหนึ่งคนที่อาจพูดได้เต็มปากว่าเกิดและโตมาในอ้อมแขนของฮอลลีวูด ทว่าตั้งแต่เธอเริ่มแสดงหนังเรื่องแรกในวัย 6 ขวบ หนึ่งปัญหาที่เธอยืนยันว่ามีมาตลอดก็คือความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ระหว่างนักแสดงหญิงกับนักแสดงชาย

คริสเตน ดันสต์ (Kirsten Dunst) อีกหนึ่งนักแสดงที่ยืนยันถึงรายได้ที่ไม่เคยมีคำว่า ‘เท่าเทียม’ ระหว่างนักแสดงหญิงกับนักแสดงชายในฮอลลีวูด

สำหรับเราที่ลองหยิบ Buffy The Vampire Slayer มาดูอีกครั้งด้วยเลนส์ของยุคสมัยปัจจุบันก็พบว่ามันเป็นซีรีส์ที่ ‘Woke’ มาก่อนกาล ในความพยายามส่งเมสเสจพลังหญิงด้วยการสร้างเฟมินิสต์ไอคอนสักคนเพื่อต่อสู้กับแนวคิด ‘Misogynist’ ในแง่มุมต่างๆ

27 ปี ‘Buffy The Vampire Slayer’ มือปราบแวมไพร์ผู้ต่อสู้กับแนวคิด Misogynist ผ่านมุมอ่อนแอในตัวเอง และยืนยันเรื่องพลังหญิงผ่าน ‘ทางเลือก’ ที่มีต่อเรื่องเซ็กซ์

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Trends

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS