ร้านอาหารอิซากายะ Shachihoko-ya ในเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ที่ลูกค้า ‘เต็มใจ’ รอต่อคิวกันมาโดนตบหน้ากันอย่างท่วมท้น

Shachihoko-ya ร้านอิซากายะที่เคยมีบริการ ‘ตบหน้า’ ลูกค้าก่อนกินข้าว ที่ฮิตจนคนแห่ไปโดนตบคลายเครียด และร้านต้องยกเลิกบริการ เพราะไม่สามารถรองรับความต้องการถูกตบได้

เป็นไวรัลบนโลกอินเทอร์เน็ตและเรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากกับคลิปฯ พนักงานสาวตบหน้าลูกค้าดังปั๊ก! หน้าสั่น หน้าหันกันเลยทีเดียว ซึ่งอย่าเข้าใจผิด นี่ไม่ใช่การใช้ความรุนแรงคุกคามคนอื่นแต่อย่างใด แต่เป็นบริการแบบใหม่ แบบสับ อย่างบริการ ‘ตบหน้า’ ลูกค้า ในร้านอาหารอิซากายะ Shachihoko-ya ในเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ที่ลูกค้า ‘เต็มใจ’ รอต่อคิวกันมาโดนตบหน้ากันอย่างท่วมท้นด้วยความสมัครใจของตัวเองล้วนๆ ซึ่งเมื่อคลิปฯ ดังกล่าวในอดีตของทางร้านกลับมาเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากอีกครั้ง ทางร้านจึงออกมาขอบคุณสำหรับความสนใจ แต่ก็ได้ย้ำว่า ปัจจุบันยกเลิกบริการนั้นไปแล้ว เพราะไม่สามารถรองรับความต้องการถูกตบหน้าของลูกค้าทุกคนได้Shachihoko-ya เป็นร้านอิซากายะที่ตั้งอยู่ในย่านสถานบันเทิง Nishiki Sanchome เปิดมาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งเคยมีสถานการณ์ไม่สู้ดีในการทำธุรกิจจนเกือบจะต้องปิดตัวลง แต่กลับพลิกสถานการณ์ได้และทำให้ธุรกิจกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง ด้วยบริการตบหน้าลูกค้าจากพนักงานหญิง ที่ฟีดแบ็กถล่มทลายจนต้องจ้างพนักงานหญิงเพิ่มเพื่อมาตบหน้าลูกค้าก่อนลูกค้าจะเริ่มมื้ออาหาร<img src="https://media.thairath.co.th/image/obp1V2vNeX0q8h9s1a2hLF4ohuHBRi86xHAVq25p1V2FwlmjMiNWge9vA1.jpg" data-id="101352" data-url="https://media.thairath.co.th/image/obp1V2vNeX0q8h9s1a2hLF4ohuHBRi86xHAVq25p1V2FwlmjMiNWge9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">บางคนอาจจะงงว่า คนเราจะอยากโดนตบกันไปทำไม? จริงๆ แล้วลูกค้าส่วนมากที่มารับบริการนั้น ล้วนแต่ต้องการที่จะผ่อนคลายหรือปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเอง และล้วนเป็นรสนิยมส่วนตัวของพวกเขาที่ความเจ็บนี้ อาจทำให้อารมณ์ดีขึ้นจากวันเครียดๆ ได้ ซึ่งแน่นอนว่าหนทางในการคลายเครียดของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน หากจะเลือกวิธีนี้ ตราบใดที่เป็นความยินยอมพร้อมใจของทั้งฝ่ายคนตบ และคนโดนตบ นี่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล&nbsp;โดยบริการค่าตบหน้านี้ จะทำการตบช่วงก่อนรับประทานอาหาร ซึ่งมีค่าบริการ 300 เยน แต่ถ้าใครมาโดนตบ แล้วรู้สึกถูกใจฝ่ามือของพนักงานคนไหนแล้วล่ะก็ สามารถรีเควสพนักงานที่อยากให้มาตบโดยเฉพาะก็ได้เหมือนกัน แต่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเป็น 500 เยนนะแต่อย่างที่บอกว่าเมื่อคลิปฯ เป็นกระแสมาก ทางร้านก็เลยออกมาชี้แจงว่า “ปัจจุบัน Shachihoko-ya ไม่มีบริการตบหน้าแล้ว พวกเราซึ้งใจสำหรับความสนใจในบริการนี้ แต่เราไม่สามารถรองรับการมาเยือน ด้วยความต้องการที่จะมาขอรับบริการตบหน้าได้ เราไม่ได้คาดคิดเลยว่าวิดีโอเก่าๆ จะเป็นไวรัลเช่นนี้ ดังนั้น ได้โปรดทำความเข้าใจก่อนที่จะมาที่นี่”แม้ว่าบริการนี้จะไม่มีแล้วในปัจจุบัน แต่ก็ทำให้เห็นว่ามีผู้คนจำนวนมากที่อยากโดนตบด้วยความเต็มใจ เพราะอยากคลายเครียด หรืออารมณ์ดีมากขึ้น ซึ่งฟังดูอาจจะแปลกๆ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งชอยส์แก้เครียดของผู้คนบนโลกนี้ที่ควรได้รับการรับฟัง เพราะวิธีนี้ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครเลยอ้างอิง:<a href="https://www.dailymail.co.uk/news/article-12824583/slap-meal-waitresses-Japanese-restaurant-charge-slap-face.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.dailymail.co.uk/news/article-12824583/slap-meal-waitresses-Japanese-restaurant-charge-slap-face.html</a><a href="https://x.com/shachihokoya/status/1729825550015869294?s=20" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://x.com/shachihokoya/status/1729825550015869294?s=20</a>&nbsp;

Divana แบรนด์สกินแคร์เครื่องหอมและสปาของไทย ได้ครีเอท Perfume Oil กลิ่น ‘Sunrise’ ได้แรงบันดาลใจจากตะวันทอแสงในเช้าวันใหม่ ที่จะมาช่วยเซ็ตอารมณ์ เติมพลังบวก ปลุกความสดใสในทุกๆ วัน ด้วยโน้ตที่ให้ความกระปรี้กระเปร่า ผ่านน้ำมันซูเปอร์ฟู้ด 6 ชนิด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในการบำรุงผิว พร้อมกลิ่นหอมๆ ของ ซีดาร์วูด จัสมิน และพริกไทยดำ

แรงบันดาลใจจากแสงแรกยามเช้า 
ที่แบรนด์เครื่องหอม ‘Divana’ ตั้งใจครีเอท ‘Perfume Oil’ กลิ่น ‘Sunrise’ เพื่อผิวหอมนุ่ม พร้อมผ่อนคลายอารมณ์ทุกเช้าวันใหม่

บางทีเล็บสั้นๆ หรือความยาวเล็บตามธรรมชาติ อาจดูจืดชืดสำหรับใครหลายคน เพราะการมีเล็บยาวๆ นั้นให้ความรู้สึกเริ่ดกว่าเป็นไหนๆ ซึ่งแน่นอนว่าบางทีมันก็ไม่ได้กระทบเฉพาะเงินในกระเป๋า แต่ยังส่งผลต่อการใช้ชีวิตและสุขภาพเล็บด้วย 

เล็บสั้น VS เล็บยาว : Ashley Shim ติ๊กตอกเกอร์ผู้สร้างบทสนทนาไวรัลว่าด้วยความยาวของเล็บ

ตอนนี้เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ซาบรีน่า คาร์เพนเตอร์ (Sabrina Carpenter) นักร้องวัย 25 ปีกับเพลงฮิตติดหูที่ทำให้คนไทยต้อง ‘หน๊าวฮีส์’ อย่าง Espresso หรือวลี have you ever try this one? ของเพลง Juno ซึ่งรู้หรือไม่ว่า กว่าจะดังเป็นพลุแตกกับอัลบั้ม Short ‘n’ Sweet ได้นั้น เธอใช้เวลาและความพยายามไม่น้อยกว่า 10 ปีเลย ในการค้นพบตัวตนทั้งในด้านแนวเพลง รวมถึงภาพลักษณ์ใหม่กับลุคสาวบอมเชลล์ ที่ใครเห็นเธอก็ต้องนึกถึงในบอดี้สูทระยิบระยับ กับรอยจูบสีแดง ที่เราจะมาวิเคราะห์สูตรผสมของซิกเนเจอร์ที่นำไปสู่ความ ‘ดัง’ และ ‘ปัง’ ของเธอกันเลย

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Lifestyle

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS