ต่อให้ในสองสามปีที่ผ่านมาเทรนด์ Quiet Luxury จะมาแรงขนาดไหน แต่ที่สุดแล้วโลกแฟชั่นก็ยังคงโหยหาอะไรที่มัน More is more อย่างสไตล์ Maximalism กันวันยังค่ำ เพราะในแง่หนึ่งมันทั้งสนุกกว่าและท้าทายกว่า ไม่มีการเพลย์เซฟ และถ้าจะลงเล่น คุณก็จงทำให้ถึง! 

แต่งมากได้มาก แถมยั่งยืน Maximalism X Sustainable Fashion ชวนดูทิปส์ในการรับบทเป็นชาวแม็กซิมัลลิสต์ ที่พร้อมสนับสนุนแฟชั่นแบบไม่บริโภคนิยม

ต่อให้ในสองสามปีที่ผ่านมาเทรนด์ Quiet Luxury จะมาแรงขนาดไหน แต่ที่สุดแล้วโลกแฟชั่นก็ยังคงโหยหาอะไรที่มัน More is more อย่างสไตล์ Maximalism กันวันยังค่ำ เพราะในแง่หนึ่งมันทั้งสนุกกว่าและท้าทายกว่า ไม่มีการเพลย์เซฟ และถ้าจะลงเล่น คุณก็จงทำให้ถึง!&nbsp;แม็กซิมัลลิสต์ไม่ใช่แค่การประโคมอะไรก็ได้ให้เยอะๆ เข้าไว้ แต่มันคือการเลือกสรรไอเทมแต่ละชิ้นอย่างมีเรื่องมีราว และต้องอาศัยสกิลการแมตช์ที่แม่น ให้ทั้งลุคดูโดดเด่นสะดุดตา ทว่าทั้งหมดก็ต้องไปด้วยกันได้ ไม่ว่าจะสีชนสี ลายชนลาย แพตเทิร์นปะทะแพตเทิร์น เล่นกับเลเยอร์ให้ฉ่ำ ซิลลูเอทสะดุดตา เติมเต็มด้วยแอคเซสซอรี่ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ผ่านการคิดมาแล้วทั้งนั้น และนอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศของวันนั้นๆ ให้มีชีวิตชีวา ยังเป็นการประกาศคาแรกเตอร์ของเราได้อย่างทรงพลังด้วย (ดูอย่างคุณ ‘น้องหญิง’ เป็นตัวอย่าง สไตล์ของเธอวันนี้ไม่ใช่แค่แต่งมาให้คนกดขำ แต่ถ้าลองดูกันอย่างจริงจัง นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการเลือกสไตล์ให้ตัวเองแบบไม่แคร์กรอบสังคมที่แท้จริง แถมเติมความเก๋ให้คาแรกเตอร์ได้มากเสียด้วย)&nbsp;ในปีสองปีให้หลังมานี้ เทรนด์ Maximalism ก็กลับมาทวงพื้นที่บนรันเวย์ด้วยเช่นกัน หลายแบรนด์แฟชั่นมากับคอนเซปต์ที่ไม่เรียบง่ายเอาเสียเลย คล้ายเหล่าดีไซเนอร์ทั้งหลายอยากใส่พลังให้สุดเป็นการบูสต์เอเนอร์จี้วงการ ทั้งชุดดอกไม้สุดตระการตาของ Marni ที่ต่อยอดความโดดเด่นบนรันเวย์ปี 2023 มาสู่ชุดดอกไม้สีเหลืองสุดป๊อปของ นิกกี้ มินาจ ในงาน MET Gala ประจำปีนี้ สร้อยคอล็อบสเตอร์ตัวเขื่องจาก Schiaparelli ผลงานของ Kevin Grmanier ที่แคมป์ได้ใจอย่างไม่มีประนีประนอม หรือจะไอเทมจาก Duran Lantink ที่ใช้รูปแบบของบับเบิ้ลมาโบลด์ทรวดทรงของคนใส่ให้ดูประหลาดตาแต่ชิคสุดๆ ฯลฯ&nbsp;หากแต่ความน่าสนใจของ Maximalism ก็ไม่ได้อยู่แค่เรื่องของไอเทมใหม่ๆ ที่ดีไซเนอร์ปล่อยออกมา หรือเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมตามเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ เพราะที่สุดแล้วแฟชั่นสายนี้แตะไปถึงเรื่องของศิลปะ-วัฒนธรรมอย่างแยกกันไม่ขาด ภายใต้การสร้างสรรค์แต่ละลุค การใช้เรื่องราวของแฟชั่นแต่ละยุค ใช้ความเข้าใจในต้นทางของมัน วัฒนธรรมความเชื่อบางอย่างที่หล่อหลอมแฟชั่นนั้นๆ ขึ้นมา จนถึงการแฝง statement บางอย่างลงไปในการมิกซ์แอนด์แมตช์ สามารถช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ลุคที่สร้างได้อย่างไม่น่าเชื่อ&nbsp;ที่สำคัญ Maximalism ยังไปด้วยกันกับ Sustainable Fashion ได้ด้วย การเป็นชาวแม็กซิมัลลิสต์ที่เชื่อมั่นในเรื่องความยั่งยืน ก็ทำได้ไม่ยากขนาดนั้น ซึ่งจะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย1. ใส่ความตระหนักรู้เรื่องความยั่งยืนเข้าไปสักนิด เวลาเลือกไอเทมใดๆ : การจะเลือกไอเทมมาประกอบในลุคหนึ่งๆ ของเรามันก็ต้องมีเหตุผลเบื้องหลังของมัน และการให้คุณค่าเรื่อง ‘ที่มา’ ของมันก็เป็นเหตุผลที่น่าดูชม เช่นว่าไอเทมนี้มาจากแหล่งผลิตแบบไหน ใช้วัสดุแบบใด มาจากแบรนด์ที่ให้คุณค่ากับความยั่งยืนบ้างหรือเปล่า2. เฟ้นหาไอเทมจากแหล่งมือสอง : แน่นอนว่าการคอยแต่จะมองหาไอเทมใหม่ส่งตรงจากรันเวย์ก็อาจไม่สนุกเท่าการได้ลองมองหาของดีจากแหล่งอื่นๆ อย่างเสื้อผ้ามือสอง เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นการลดการบริโภคแบบครั้งเดียวทิ้ง แต่มันยังสนุกที่การตามได้ลองหาสิ่งที่ไม่ซ้ำ แถมบางคนอาจได้ความวินเทจ ความหลากหลายของสไตล์ที่ช่วยเพิ่ม storytelling ในลุคนั้นๆ อีกด้วย&nbsp;3. วางแผนการ reuse ให้ใส่ซ้ำได้แต่ไม่น่าเบื่อ : แม็กซิมัลลิสต์ไม่ได้แปลว่าต้องมีแต่ของใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาจนล้นตู้จนต้องทิ้งของเก่า เพราะไอเทมชิ้นเดียวก็อาจสามารถหยิบไปมิกซ์ใหม่ได้ไม่รู้จบ และการครีเอตลุคใหม่ภายใต้ไอเทมที่เรามีอยู่แล้ว ก็เป็นทั้งเรื่องท้าทายและน่าสนุกในเวลาเดียวกัน4. DIY : อีกหนึ่งวิธีการที่เราจะสร้างลุคที่ไม่เหมือนใคร ก็คือการทำมันขึ้นมาเอง และของเก่าที่เรามีนั่นแหละ ก็คือวัสดุที่ง่ายและใกล้ตัวที่สุด ดังนั้นการหยิบมันมาสร้างอะไรใหม่ๆ ให้เข้าทางความเป็นแม็กซิมัลลิสต์ ก็เป็นเรื่องเดียวกับ sustainable fashion อย่างแยกกันไม่ขาด5. ลองมองหางานคราฟต์จากท้องถิ่น : ผ้าพื้นเมือง ผ้าไทย หรืองานคราฟต์จากท้องถิ่นใดๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในพื้นที่ของแฟชั่นเชยๆ หรือเดิมๆ เพราะคนรุ่นใหม่ก็สามารถเล่นสนุกกับไอเทมเหล่านี้ได้แบบแม็กซิมัลลิสต์ แถมยังเป็นการเปิดโอกาสให้งานจากพื้นบ้านได้เฉิดฉายในโลกแฟชั่นได้ด้วยที่สุดแล้ว การจะลองเป็นแม็กซิมัลลิสต์ มันก็เริ่มได้จากตัวเราเอง เราสนุกแบบไหน สะดวกอย่างไร เราย่อมทำได้โดยไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องบัดเจ็ตมาจำกัด เพราะท้ายที่สุดมันก็คือการนำเสนอตัวตนของเราผ่านการแต่งตัวในแต่ละวัน ที่ไม่จำเป็นต้องเฟ้นหาแต่ของแพงเสมอไป การเพิ่มโจทย์เรื่องความยั่งยืนเข้าไปก็เหมาะกันอย่างยิ่งกับการแต่งมากให้ได้มาก และก็คงคล้ายอย่างที่คุณยายไอริส แอปเฟล (Iris Apfel) แฟชั่นไอคอนผู้ล่วงลับได้เคยบอกเอาไว้ “ฉันรักแฟชั่นไฮเอนด์นะ แต่การใส่ดีไซเนอร์แบรนด์ตั้งแต่หัวจรดเท้ามันน่าเบื่อสุดๆ ฉันใส่ทุกอย่างผสมกันเสมอน่ะแหละ”&nbsp;อ้างอิงhttps://www.elle.com/fashion/trend-reports/a46343709/extreme-clothes-trend-2024/https://www.forbes.com/sites/nadjasayej/2024/07/12/jacqui-de-jong-on-making-your-summer-closet-more-maximalist/https://www.instyle.com/iris-apfel-style-quotes-8603596&nbsp;<a href="https://ecoclubofficial.com/how-to-dress-like-a-conscious-maximalist/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://ecoclubofficial.com/how-to-dress-like-a-conscious-maximalist/</a>

เทรนด์ ‘Heat Stroke Makeup’ และ ‘Tan Lines Makeup’ ที่มาแรงตีคู่กัน โดยเป็นการแต่งหน้าให้สีผิวเราไหม้ๆ แดงๆ เหมือนอุณหภูมิร่างกายสูงปรี๊ดจากการอยู่ในที่ร้อนจัดนานๆ พร้อมกับการสร้าง Tan Lines ปลอม

‘Heat Stroke Makeup’ เทรนด์แต่งหน้าผิวไหม้แดด ที่มาพร้อมการสร้าง ‘Tan Lines’ แต่ไม่ได้บอกว่าให้ไปตากแดดจริงๆ!

‘Demure’ กลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ใหม่ของสาวๆ ที่ไวรัลไปทั่วติ๊กต่อก ซึ่งในบริบทนี้ก็หมายถึงจริตแบบเบาๆ น้อยๆ สวยแบบมีสติ สวยที่การวางตัว เน้นเผยความงามจากภายใน ไม่ตะโกน 

Very Demure : สวยแบบมีสติ สวยที่การวางตัว เทรนด์ใหม่สุดไวรัล ที่กำลังบอกสาวๆ ว่า เราไม่ต้องหวือหวาหรือแสบซ่าตลอดเวลาก็ได้

หลังจากที่คิมเยจี (Kim Yeji) นักกีฬายิงปืนจากเกาหลีใต้วัย 31 ปี ได้สร้างตำนานความเท่ในการแข่งขันโอลิมปิก ล่าสุด นิตยสารแฟชั่น W Korea คว้าตัวเธอไปถ่ายแบบด้วยให้รู้แล้วรู้รอด!

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

PR-NEWS

Fashion

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS