แค่วิชวลของผู้หญิง 40 คนที่มารวมตัวกันบนปก Vogue British ก็ดึงดูดสายตามากแล้ว ยิ่งเมื่อเราลองไล่ดูดีๆ ว่ามีใครบ้าง ก็พูดได้เลยว่าโปรเจกต์นี้น่าสนใจสุดๆ เพราะทั้ง 40 คนล้วนแต่เป็นคนดังระดับตำนานทั้งสิ้น

40 ผู้หญิงระดับตำนาน บนปก Vogue British ฉบับอำลาตำแหน่ง บก.บห.ของ Edward Enninful ที่ตั้งใจอุทิศ Vogue ฉบับสุดท้ายของเขาให้ “ผู้หญิง”

แค่วิชวลของผู้หญิง 40 คนที่มารวมตัวกันบนปก Vogue British ฉบับเดือนมีนาคม 2024 ก็ดึงดูดสายตามากแล้ว ยิ่งเมื่อเราลองไล่ดูดีๆ ว่ามีใครบ้าง ก็พูดได้เลยว่าโปรเจกต์นี้น่าสนใจสุดๆ เพราะทั้ง 40 คนล้วนแต่เป็นคนดังระดับตำนานจากหลายเจเนอเรชัน หลายสาขาอาชีพในวงการบันเทิงและแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์โมเดลอย่าง Kate Moss, Naomi Campbell จนถึงนางแบบรุ่นใหม่อย่าง Gigi Hadid, Karlie Kloss, Cara Delevingne พิธีกรชื่อดังอย่าง Oprah Winfrey นักแสดงดาวรุ่งอย่าง Anya Taylor-Joy, Gemma Chan นักร้องดังอย่าง Dua Lipa, Miley Cyrus, Rina Sawayama เจ้าของแบรนด์คอสเมติกอย่าง Pat McGrath จนถึงนักเทนนิสระดับโลกอย่าง Serena Williams ฯลฯVogue ฉบับนี้คือฉบับอำลาตำแหน่งของ เอ็ดเวิร์ด ไอน์นินฟูล (Edward Enninful) ในฐานะบรรณาธิการบริหารของ Vogue British โดยเขาได้ก้าวเข้ามาสู่ตำแหน่งนี้ตั้งแต่ปี 2017 ก่อนจะประกาศเมื่อกลางปีที่ผ่านมาว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่งบรรณาธิการบริหารของ Vogue British และขยับไปเป็นที่ปรึกษาด้านงานสร้างสรรค์และวัฒนธรรมที่ Condé Nast บริษัทแม่ของ Vogue รวมถึงนิตยสารชั้นนำอีกหลายๆ ฉบับแทนไอน์นินฟูลคือเกย์ผิวดำคนแรกที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งนิตยสารแฟชั่นอันดับต้นของอังกฤษ ทั้งยังได้รับการขนานนามให้เป็นชาวผิวดำที่ทรงพลังที่สุดของอังกฤษ ตลอดการทำงานของเขาเต็มไปด้วยปกสุดสวยงามและสร้างสรรค์ และใน Vogue ฉบับอำลาตำแหน่ง เขาก็ตั้งใจอุทิศเนื้อหาทั้งหมดให้กับ “ผู้หญิง” เพราะ “แน่นอนว่าผู้หญิงได้เป็นผู้กำหนดแนวทางของ Vogue British มากว่า 108 ปีแล้ว”&nbsp;“สิ่งที่เราต้องการคือกลุ่มผู้หญิง (มาอยู่บนปกนี้) เพื่ออาศัยพลังของพวกเธอในการนำเสนอชีวิตชีวาของ Vogue ที่ทั้งกล้าหาญ เล่นกับระบบ และวิวัฒนาการมาตลอดเวลา พวกเธอล้วนแต่ทรงพลัง ทรงอิทธิพล ทั้งยังเต็มไปด้วยบุคลิกภาพและสไตล์ที่โดดเด่น ทั้งหมดนี้ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงมากไปกว่าแค่โลกของแฟชั่นและวัฒนธรรม แต่พวกเธอยังมีส่วนในการเปลี่ยนโครงสร้างของสังคม ทั้งแง่มุมเล็กๆ จนถึงแง่มุมใหญ่ๆ และส่งพลังบวกออกไปเสมอ” ไอน์นินฟูลกล่าวถึงนางแบบผู้ขึ้นปกทั้ง 40 คนของเขาในบทบรรณาธิการที่เผยแพร่เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา&nbsp;และสำหรับตัวงานที่เกิดขึ้น ไอน์นินฟูลกล่าวว่า นี่คือเซตถ่ายที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของเขา (เพราะแค่การนัดผู้หญิงที่งานยุ่งกว่า 40 ให้มารวมกันในวันเดียวให้ได้ก็ยากแล้ว!) ทั้งยังต้องอาศัยทีมงานจำนวนมากสำหรับสเกลงานระดับมหึมานี้ที่มีทั้งงานสัมภาษณ์เป็นวิดีโอและภาพนิ่ง โดยมีช่างภาพที่เคยถ่ายปกโว้กมาแล้วไม่รู้กี่ฉบับอย่าง สตีเฟน ไมเซล (Steven Meisel) มาทำงานร่วมกับไอน์นินฟูลที่ทำหน้าที่ดูแลสไตลิ่งทั้งหมดด้วยตัวเอง&nbsp;แค่งานปกก็ชวนให้ติดตามแล้วว่า เนื้อหาภายในเล่มจะเป็นอย่างไร ซึ่งไอน์นินฟูลยังทิ้งท้ายอีกว่า ในการทำงานเล่มสุดท้ายนี้ เขายังได้นึกถึงแม่ผู้ล่วงลับไปแล้ว เขานึกถึงความฉลาดเฉลียวของแม่และวิธีที่แม่แนะนำแนวทางในชีวิตให้กับเขา เขายังนึกถึงผู้หญิงทุกคนที่เคยทำงานร่วมกันมาตลอดหลายปี ตั้งแต่ที่ i-D Magazine จนถึง Vogue Italy ดีไซเนอร์หญิงทั้งในปารีสและมิลาน บรรณาธิการ Vogue ทั้งฝั่งอังกฤษและอเมริกา รวมถึงนางแบบรุ่นใหม่ๆ บนรันเวย์ และตัวแม่ที่ปล่อยพลังให้โลกเห็นมาแต่ก่อนกาล&nbsp;และอย่างที่เขาเน้นย้ำ งานนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเขาหรือเพื่ออำลาตำแหน่งของเขาแต่เพียงคนเดียว แต่นี่คือผลงานของทุกคนในทีมตั้งแต่ฝ่ายประสานงาน ช่างหน้า ช่างผม ช่างไฟ ช่างกล้อง นักสัมภาษณ์ คนทำโพสต์ โปรดักชัน ฯลฯ&nbsp;ดังนั้นภายใต้เนื้อหาที่อุทิศให้กับผู้หญิง กระบวนการทำงานทั้งหมดก็เกิดขึ้น “เพื่อทีมงานทุกคน” นั่นเองอ้างอิง<a href="https://edition.cnn.com/2024/02/09/style/british-vogue-edward-enninful-final-issue/index.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://edition.cnn.com/2024/02/09/style/british-vogue-edward-enninful-final-issue/index.html</a>&nbsp;<a href="https://www.independent.co.uk/life-style/fashion/edward-enninful-british-vogue-replacement-naoimi-campbell-b2492946.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.independent.co.uk/life-style/fashion/edward-enninful-british-vogue-replacement-naoimi-campbell-b2492946.html</a> &nbsp;<a href="https://www.vogue.co.uk/gallery/british-vogue-march-2024-cover-shoot" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.vogue.co.uk/gallery/british-vogue-march-2024-cover-shoot</a> &nbsp;

The Row สะท้อนความหรูหราแบบไม่ตะโกนได้อย่างเด่นชัดด้วยความมินิมอลที่ไร้ซึ่งโลโก้ ไม่ใช้ลายโมโนแกรมใดๆ ไม่ใช้เทรนด์มาแรงของปีนั้นๆ ในการออกแบบ แต่เลือกดีไซน์โดยมองเรื่องศิลปะและฟังก์ชันเป็นสำคัญ

The Row แบรนด์ของสองแฝด Olsen ที่ก้าวเข้าสู่กระแสหลักด้วยความมินิมอล กับกระเป๋า Margaux ที่แทบจะมาแรงเท่า Birkin

‘Dove’ แบนการใช้ AI และสัญญาว่าจะไม่มีทางใช้ AI สร้างภาพผู้หญิงเพื่อการโฆษณาเด็ดขาด จนกลายเป็นแบรนด์ความงามแบรนด์แรกของโลกที่แสดงจุดยืนนี้อย่างตั้งมั่น 

Dove แบรนด์ความงามแบรนด์แรกที่แบน
การใช้นางแบบ AI ในโฆษณา เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความงามที่แท้จริงของผู้หญิงทุกคน ที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับมาตรฐานความงามจาก AI

“เกษรวิลเลจ” (Gaysorn Village) Placemaking Destination แห่งแรกและแห่งเดียวใจกลางกรุงเทพฯ เผยโฉมปฐมบทครั้งใหม่ เกษรอัมรินทร์ (Gaysorn Amarin)  ภายในคอนเซ็ปต์ “Blooming Legacies” 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Fashion

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS