การแต่งหน้าบนเครื่องบินที่มีความกดอากาศที่แตกต่างจากพื้นดิน อาจจะทำให้หน้าแคร็ก แห้ง ซีด แต่งหน้าไม่ค่อยติด ดูไม่สดใสเหมือนปกติ และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้าก็ออกมาแนะนำว่า ทางที่ดี ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ขอให้เลี่ยง

แต่งหน้าบนเครื่องบิน อาจไม่สวยเท่าแต่งบนพื้นดิน เมื่อผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ความกดอากาศและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ผิวหน้าแห้งกว่าที่ควรจะเป็นและใช้ ‘สกินแคร์’ จะดีกว่าใช้เมคอัพบนเครื่องฯ

บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า จริงๆ การ<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2" rel="noopener noreferrer" target="_blank">แต่งหน้า</a>บนเครื่องบินมันส่งผลกับผิวหน้าเรากว่าที่คิด! เราเชื่อว่าต้องมีผู้อ่านหลายคนแน่ๆ ที่เวลาวิ่งวุ่นกับการเตรียมตัวไปต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ แล้วไม่มีเวลาที่จะแต่งหน้าก่อนขึ้นเครื่องบิน จึงคิดว่าแบกเครื่องสำอางไปแต่งบนเครื่องบินก็ได้ ไม่มีปัญหา และผลลัพธ์ก็คงออกมาสวยเหมือนกัน แต่จริงๆ ไม่เหมือนนะคะคุณน้า เพราะการแต่งหน้าลอยฟ้าบนเครื่องบินที่มีความกดอากาศที่แตกต่างจากพื้นดิน อาจจะทำให้หน้าแคร็ก แห้ง ซีด แต่งหน้าไม่ค่อยติด ดูไม่สดใสเหมือนปกติ และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้าก็ออกมาแนะนำกันว่า ทางที่ดี ถ้าเลี่ยงไม่แต่งหน้าบนเครื่องบินได้ ก็ขอให้เลี่ยงดร.ฟรานเซส เพรนนา โจนส์ (Frances Prenna Jones) แพทย์ด้านเวชสำอาง กล่าวกับ Bazaar ว่า “ไม่ใช่ว่าการแต่งหน้าจะมีปัญหา 100% หรอกค่ะ…แต่มันเป็นเพราะปัจจัยหลายอย่างรวมกันที่เกิดขึ้นเมื่อเราขึ้นเครื่องบินต่างหาก” เธออธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปจะส่งผลต่อการทำงานของตัวรับ (receptor) ภายในต่อมไขมัน หมายความว่า ตอนเราอยู่บนเครื่องบิน เราจะสูญเสียความชุ่มชื้นจากผิวหนัง และมีภาวะขาดน้ำ ซึ่งเมคอัพที่เราทาขณะอยู่บนเครื่องอาจมีบางส่วนผสมที่ไปบล็อกต่อมไขมันนั้นอีกทางหนึ่งด้วยเช่นเดียวกับเชน คูเปอร์ (Shane Cooper) ผู้เป็น aesthetician กล่าวว่า “บนความสูง 30,000 ฟุต ความชื้นในห้องโดยสารจะลดลงถึง 20% ขณะที่ความชื้นของผิวที่สบายต่อผิวควรอยู่ที่ 40-70% หมายความว่า แม้จะเป็นเที่ยวบินระยะสั้นๆ แต่ผิวหน้าและผิวกาย ก็สามารถขาดน้ำได้อย่างไม่น่าเชื่อ” จนอาจทำให้เกิดความมันส่วนเกิน สิวเห่อขึ้น และบวม เพื่อชดเชยความแห้งนอกจากนี้ อินฟลูเอนเซอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสกินแคร์อย่าง เดวิด คิม (David Kim) ก็ได้ออกมาแชร์ถึงปัญหาของการแต่งหน้าบนเครื่องบินผ่านช่อง TikTok ในชื่อ @dthekorean ของเขา โดยเขาแนะนำว่า “อย่าแต่งหน้าบนเครื่องบินกันเลย เพราะจะทำให้ผิวของคุณแห้งผาก และผิวของคุณก็จะผลิตความมันออกมาเพื่อทดแทนความแห้งที่เกิดขึ้น การแต่งหน้าของคุณก็จะดูซีดเซียวไปหมด” ซึ่งจะทำให้เมคอัพของเรา ที่แม้จะแต่งเหมือนตอนใช้ชีวิตประจำวันเป๊ะๆ แต่เมื่ออยู่บนเครื่องกลับได้ลุคที่ดูหมอง ดูไม่มีสีสันสักเท่าไร เนื่องจากการ “อยู่ในที่สูงๆ จะขัดขวางการไหลเวียนของเลือดบนใบหน้าของเรา”รู้แบบนี้แล้ว หากเป็นไปได้ ค่อยลงไปแต่งหน้าตอนถึงที่หมายแล้วอาจจะเวิร์กกว่า เพื่อเซฟผิวเรา (ยกเว้นว่าเดินทางไปติดต่อดีลงานใดๆ ที่ต้องเป๊ะตั้งแต่ลงจากเครื่องจริงๆ) ขณะเดียวกัน เมื่อจะเกิดปัญหาผิวตอนเราอยู่บนเครื่องบินแบบนี้ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้เราหันมาให้ความสำคัญกับ ‘การดูแลผิว’ แทน สำหรับ เชน คูเปอร์ เธอแนะนำเรื่องง่ายๆ อย่างการดื่มน้ำก่อนขึ้นเครื่องบินประมาณ 2 ลิตร และดื่มน้ำระหว่างเที่ยวบิน เพื่อรักษาร่างกายให้ชุ่มชื้น โดยอาจจะดื่มน้ำประมาณ 1 แก้วในทุกๆ ชั่วโมงที่อยู่บนท้องฟ้า กระทั่งการทาสกินแคร์ประเภทไฮยาลูโรนิกที่ให้ความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นโมเลกุลที่สามารถกักเก็บน้ำได้มาก หรือบางคนอาจทาเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีร่วมด้วย ที่สกินแคร์สำคัญมากๆ ก็เพราะการอยู่บนห้องโดยสารจะทำให้เลือดและสารอาหารถูกส่งไปยังผิวของเราน้อยลงนั่นเองหรือบางคนอาจใช้สกินแคร์ประเภทไนอาซินาไมด์ ซึ่ง ดร.บาร์บารา สตอร์ม (Barbara Sturm) แพทย์ด้านความงาม แนะนำเนื่องจากทำได้ทั้งควบคุมความมันส่วนเกิน ช่วยลดรูขุมขน และยังช่วยริ้วรอยร่องตื้น และร่องลึกดูเรียบขึ้น ที่สำคัญยังป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิว&nbsp;ส่วนใครขี้เกียจแบกสกินแคร์หลายตัวขึ้นเครื่อง หรือบางคนก็กะไม่ถูก กลัวของเหลวจะเกินที่สนามบินกำหนด เอาให้ง่าย และสะดวกที่สุด จะใช้เป็นแผ่นมาสก์หน้าก็ได้เหมือนกัน โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวหน้า เคธี่ อิงแลนด์ (Katie England) กล่าวว่า “เมื่อเราขึ้นเครื่องบิน ความชุ่มชื้นก็จะถูกดึงออกจากผิวของเรา เมื่อผิวของเรามีความชื้นน้อยลง ทำให้เกิดการกระหายน้ำได้ ทีนี้เมื่อคุณวางแผ่นมาสก์บนใบหน้า ก็จะช่วยลดการระเหยของน้ำ ซึ่งส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นนี้จะถูกดูดซึมได้ดีขึ้น”แน่นอนว่าบางครั้งบางคนอาจจะต้องรีบทำเวลา เพื่อที่จะได้ลงจากเครื่องบินปุ๊บ ก็สามารถไปทำธุระต่อปั๊บ แต่ถ้าวันไหนรู้สึกว่าไม่ได้รีบขนาดนั้น หรือเผื่อเวลาได้อยู่ ลองพักหน้าบนเครื่อง แล้วค่อยลงมาแต่งข้างล่าง อาจจะช่วยให้เมคอัพและผิวออกมาปังมากขึ้นก็ได้ ใครเคยมีประสบการณ์แต่งหน้าบนเครื่อง หรือมีทริกการเตรียมผิวบนเครื่องอย่างไรบ้าง มาแชร์ให้อ่านกันได้น้า เตรียมจด!อ้างอิง:<a href="https://www.manchestereveningnews.co.uk/news/real-life/you-should-never-wear-make-29334993" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.manchestereveningnews.co.uk/news/real-life/you-should-never-wear-make-29334993</a><a href="https://www.harpersbazaar.com/uk/beauty/skincare/a20896589/make-up-on-flights-bad-for-skin/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.harpersbazaar.com/uk/beauty/skincare/a20896589/make-up-on-flights-bad-for-skin/</a><a href="https://www.glamourmagazine.co.uk/gallery/skincare-for-flight" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.glamourmagazine.co.uk/gallery/skincare-for-flight</a>&nbsp;

“เสื้อผ้าแบบไหนที่นักกีฬาพาราลิมปิกไทยอยากสวมใส่ก่อนแข่งขัน?” เป็นคำถามตั้งต้นที่แบรนด์ PIPATCHARA ไปหาคำตอบ จนเกิดเป็นการดีไซน์ชุดร่วมพิธีเปิดพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ให้กับทัพนักกีฬาไทย

ชุดพิธีเปิดพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส โดยแบรนด์ PIPATCHARA ที่เริ่มทำงานด้วยการถามความต้องการของนักกีฬาผู้พิการ ว่าอยากใส่แบบไหนมากที่สุด?

ต้องบอกว่าแค่ชื่อลิปกลอสแต่ละสีก็ทำเอาคนอึ้ง และนี่คือโปรดักต์ไลน์แรกของแบรนด์ NORTHSIDE PRINCESS โดย Sexyy Red หรือ Janae Nierah Wherry แร็ปเปอร์สาวชาวอเมริกันที่ไม่เคยยั้งมือเรื่องการใช้คำหยาบหรือพูดเรื่องเซ็กซ์อย่างตรงไปตรงมา

แร็ปเปอร์สุดแซ่บ Sexyy Red เปิดตัวไลน์ลิปกลอสสุดเสียว ตั้งแต่สีชมพูรูกี สีน้ำตาลรูทวาร สีเหลืองตกขาว จนถึงสีหนองใน!

ตัวแม่ผู้เริ่มหยิบไอเดียการอัปไซเคิลชุดเจ้าสาวมาทำอย่างเป็นรูปธรรมก็คือ THE OWN STUDIO สตูดิโอตัดชุดเจ้าสาวและอีฟนิ่งกาวน์ในลอนดอน ที่เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจจะไม่ให้ชุดออกงานทั้งหลายถูกใส่แค่ครั้งเดียวแล้วจบแค่นั้น

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

PR-NEWS

Beauty

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS