‘Dove’ แบนการใช้ AI และสัญญาว่าจะไม่มีทางใช้ AI สร้างภาพผู้หญิงเพื่อการโฆษณาเด็ดขาด จนกลายเป็นแบรนด์ความงามแบรนด์แรกของโลกที่แสดงจุดยืนนี้อย่างตั้งมั่น 

Dove แบรนด์ความงามแบรนด์แรกที่แบน
การใช้นางแบบ AI ในโฆษณา เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความงามที่แท้จริงของผู้หญิงทุกคน ที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับมาตรฐานความงามจาก AI

เราอยู่ในยุคที่การใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้ามาช่วยหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในด้านต่างๆ ถือเป็นเรื่องปกติที่เห็นกันได้ทั่วไป เช่นเดียวกับการใช้ ‘<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/AI" rel="noopener noreferrer" target="_blank">AI</a>’ ทั้งในภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม ที่ก็มีการสร้าง AI ขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ทางการตลาด หรือบ้างก็ใช้ AI เป็นเครื่องมือเพื่อลดกำลังแรงของคน แน่นอนว่าแม้จะมีข้อดีอยู่ แต่หากว่ากันด้วยการใช้ AI สร้างภาพ ‘คน’ ที่เป็นที่นิยมในวันนี้ เพื่อนำไปใช้ในการโฆษณา การทำงาน หรือแม้แต่ภาพที่หลายคนลองใช้คำสั่ง AI สร้างขึ้นมาเล่นๆ หลายครั้งก็ถูกตั้งคำถามถึงความงาม โดยเฉพาะภาพ ‘<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ผู้หญิง</a>’ ที่ AI-generated ว่ามันไม่หลากหลายมากพอหรือเปล่า? หรือมีค่านิยมความงามที่คับแคบเกินไปไหม? สวนทางกลับผู้คนในชีวิตจริงที่มีอยู่หลากหลายหน้าตา หลากหลายชาติพันธุ์ หลากหลายหุ่น และหลากหลายจุดเด่นเพื่อแสดงจุดยืนว่าความงามที่แท้จริงของผู้หญิงนั้นมีหลากหลาย ไม่ได้มีลักษณะแบบใดแบบหนึ่งตายตัว ‘<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/Dove" rel="noopener noreferrer" target="_blank">Dove</a>’ จึงออกมาแบนการใช้ AI และสัญญาว่าจะไม่มีทางใช้ AI สร้างภาพผู้หญิงเพื่อการโฆษณาเด็ดขาด จนกลายเป็นแบรนด์ความงามแบรนด์แรกของโลกที่แสดงจุดยืนนี้อย่างตั้งมั่น โดย Dove ได้เห็นถึงปัญหาของภาพ AI ในปัจจุบันที่สร้างความกังวลให้กับผู้หญิงหลายๆ คน ต่อความงามอันไร้ที่ติที่ AI สร้างขึ้นจนทำให้ self-esteem ของพวกเธอลดลง เพราะพวกเธอรู้สึกกดดันที่จะต้องเปลี่ยนตัวเองไปตามค่านิยม บ้างก็อดไม่ได้ที่จะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับความงามในอุดมคติบนโลกออนไลน์ที่ดูเหมือนจะยังเข้มข้นอยู่ แม้จะมีการพูดถึงความหลากหลายของความงามในปัจจุบันแล้วก็ตามDove ได้ทำการศึกษาใหม่เมื่อสิ้นปี 2023 โดยสำรวจผู้หญิงอายุ 10-64 ปี จำนวนมากกว่า 33,000 คน รวม 20 ประเทศทั่วโลก พบว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงรู้สึกกดดันที่จะต้องปรับเปลี่ยนลักษณะภายนอกของตนตามสิ่งที่เห็นในโลกออนไลน์ แม้ว่าพวกเธอจะรู้ดีว่านั่นเป็นภาพ AI ก็เถอะ อีกทั้ง ผู้หญิง 24% และเด็กผู้หญิง 41% ในอเมริกา เห็นพ้องต้องกันว่า ถ้าได้สร้าง AI ของตัวเองในหลากหลายเวอร์ชัน จะถือเป็นการ empowering พวกเธอในทางหนึ่งได้ ดังนั้นการสร้าง AI ให้มีความครอบคลุมทางรูปลักษณ์ หน้าตา และลักษณะภายนอกต่างๆ จึงเป็นจุดที่น่าพูดถึงอย่างยิ่งเพราะแม้ว่าเรื่องของ Beauty Standard จะมีทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้คนในหลายประเทศเปิดกว้างมากขึ้นเรื่องเพศ เชื้อชาติ รูปร่าง และทำให้หลายๆ คนได้มีพื้นที่ของตัวเองมากขึ้น ถึงอย่างนั้น การศึกษาของ Dove กลับพบข้อมูลที่น่าสนใจ เพราะการยึดติดเรื่องของรูปลักษณ์ในอุดมคติของผู้คนก็ยังมีจำนวนที่มากอยู่ดีในปัจจุบัน เช่น 81% มองว่าต้องดูเฮลตี้ 72% มองว่าต้องหุ่นบาง 69% มองว่าต้องเอวเล็ก และ 59% มองว่าต้องมีส่วนเว้าส่วนโค้ง ซึ่ง 2 ใน 3 ของผู้อยู่ในแบบสำรวจก็เชื่อว่าผู้หญิงในปัจจุบันยังถูกคาดหวังให้มีรูปร่างที่ ‘น่าดึงดูด’ มากกว่ารุ่นแม่ของพวกเธอเสียอีก! และ 9 ใน 10 กล่าวว่า พวกเธอยังพบเห็นคอนเทนต์เกี่ยวกับความงามที่เป็นอันตรายในโลกออนไลน์อยู่“Dove พยายามแสวงหาอนาคตที่ผู้หญิงจะได้ตัดสินใจและกล้าเปิดเผยว่าความงามที่แท้จริงของตัวเองมีหน้าตาเป็นอย่างไร ไม่ใช่ให้อัลกอริทึมทำ” Alessandro Manfredi ผู้เป็น Chief Marketing Officer กล่าวถึงจุดยืนครั้งนี้ และเน้นย้ำถึง ‘Real Beauty’ ที่ควรถูกปกป้องและถูกส่งเสริมมากขึ้น ว่า “เราจะไม่หยุดทำสิ่งนี้จนกว่าความงามจะเป็นแหล่งรวมความสุขของผู้หญิงและเด็กผู้หญิงทุกคน ไม่ใช่กลายเป็นความวิตกกังววลให้พวกเธอ”อย่างไรก็ตาม Dove ก็ไม่ได้กล่าวร้ายว่าคนใช้ AI ทุกคนเป็นคนไม่ดี หรือมองว่า AI เป็นภัยร้ายที่ไร้ประโยชน์อะไรเลย เพียงแต่อยากเน้นย้ำว่าตอนนี้ภาพ AI ที่สร้างขึ้นมายังครอบคลุมความงามที่หลากหลายไม่พอ Dove จึงได้สร้าง ‘Real Beauty Prompt Guidelines’ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI โดยเฉพาะ ซึ่งเป็นคู่มือวิธีการสร้าง AI ให้ได้ภาพผู้หญิงที่ ‘เหมือนจริง’ และ ‘มีความงามที่หลากหลาย’ ซึ่งในคู่มือก็จะมีทริกการป้อนคำสั่งหรือ Prompt เพื่อให้ได้ AI ผู้หญิงในรูปแบบต่างๆ โดยความตั้งใจนี้เป็นหนึ่งในแคมเปญที่ชื่อว่า The Code ของ Doveในแคมเปญนี้ คุณจะได้เห็นภาพ AI generated ของผู้หญิงลักษณะต่างๆ บางคนมีสิว มีกระ มีตีนกา บางคนหน้าเป็นด่างขาว มีปาน มีรูขุมขน มีขนอ่อนบนหน้า มีผมหงอก ผมหยิกบ้าง ผมตรงบ้าง หรือมีทรงผมตามแบบเฉพาะของกลุ่มชาติพันธุ์ ฟันยื่นบ้าง ฟันเกบ้าง มีผู้หญิงหลากหลายหุ่น ทั้งอ้วน ผอม เตี้ย สูง แขนใหญ่ มีเซลลูไลต์ ผิวแตกลาย เป็นคนพิการ หน้าอกใหญ่ หน้าอกเล็ก มีรอยสัก ใส่แว่น เจาะจมูก แต่งตัวต่างกันแต่เหมือนผู้คนที่เดินอยู่บนท้องถนนจริงๆ ประกอบอาชีพต่างกัน มีกิจกรรมที่ทำต่างกัน ฯลฯ ซึ่งสะท้อนถึงความงามที่ดูจริงที่สุดของผู้หญิงในทุกวันนี้นั่นเองใครอยากเข้าไปอ่านคู่มือการสร้าง AI สามารถเข้าไปได้ที่ <a href="https://assets.unileversolutions.com/v1/125422237.pdf" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://assets.unileversolutions.com/v1/125422237.pdf</a>&nbsp;อ้างอิง:<a href="https://www.forbes.com/sites/virgietovar/2024/04/18/dove-becomes-first-beauty-brand-to-ban-ai-generated-women-in-ads/?sh=6cf735ad7b8f" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.forbes.com/sites/virgietovar/2024/04/18/dove-becomes-first-beauty-brand-to-ban-ai-generated-women-in-ads/?sh=6cf735ad7b8f </a><a href="https://www.dove.com/us/en/stories/campaigns/keep-beauty-real.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.dove.com/us/en/stories/campaigns/keep-beauty-real.html </a>

Maschinenmensch หรือ machine human เกิดจากความตั้งใจของดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Thierry Mugler ที่อยากทำการคารวะคาแรกเตอร์โรบ็อตสาวจากนิยายดิสโทเปียนอย่าง Metropolis (1925) ของ Thea Von Harbou ซึ่งถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์โดย Fritz Lang ในปี 1927 โดยตอนแรกนั้น มูแกลร์แค่อยากทำบราจากโลหะหลังจากได้ดูหนัง Metropolis แต่ไปๆ มาๆ คล้ายจะยิ่งทำยิ่งสนุก มันได้กลายเป็นชุดบอดี้สูทเต็มตัวที่ใช้เวลาทำมือถึง 6 เดือนเต็ม

Maschinenmensch ชุดเฟมบ็อตโอต์กูตูร์จาก Mugler ที่เล่นกับความเป็น sex object แต่กลับทำให้ผู้หญิงรู้สึกถึงอำนาจและการเป็นเจ้าของร่างกายตัวเอง

เนคไทผมเปียสุดซ่านี้เป็นชิ้นงานจาก Schiaparelli แบรนด์แฟชั่นที่มักจะนำหนึ่งก้าวเรื่องความแปลกแหวกแนวแบบ Surrealism ให้คนยืนงง ซึ่งสร้างเรื่องอีกครั้งบนรันเวย์ Ready-to-Wear FALL-WINTER 2024/25

ใส่เนคไทเส้นนี้ ใครไม่อึ้ง ให้มันรู้ไป!เนคไทผมเปีย จาก ‘Schiaparelli’ แบรนด์สไตล์ Surrealism อายุเกือบ 100 ปี ที่เติมความม่วนจอยให้ชีวิตคนจนถึงปัจจุบัน

Destiny Pinto ดีไซเนอร์ผู้เปลี่ยนอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็น 
‘แอคเซสซอรี่’ เติมเซนส์แฟชั่นลงไปในวันป่วยๆ เพื่อช่วยชุบชูใจคนที่ต้องใส่เครื่องช่วยเหลือติดตัว

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Beauty

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS