พี่สาวเกาหลีหลายคนต่างเทคะแนนให้ NEEDLY Daily toner pad เป็นสกินแคร์ติดบ้าน ที่ควรมีไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งตอนที่บิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีอย่างคุณ Arang ออกมารีวิวความปังของเจ้าตัวนี้ ก็มีหลายคนรีบไปซื้อตามกัน 

NEEDLY Daily toner pad สกินแคร์กระชับรูขุมขนที่พี่สาวเกาหลีแนะนำ เหมือนยาสามัญประจำบ้านที่ขาดไม่ได้!

พี่สาวเกาหลีหลายคนต่างเทคะแนนให้ NEEDLY Daily toner pad เป็นสกินแคร์ติดบ้าน ที่ควรมีไว้ให้อุ่นใจ ยิ่งตอนที่บิวตี้บล็อกเกอร์เกาหลีอย่างคุณ Arang ออกมารีวิวความปังของเจ้าตัวนี้ ก็มีหลายคนรีบไปซื้อตามกัน หรือถ้าเป็นฝั่งไทย คุณโมเมพาเพลิน ก็เคยแนะนำตัวนี้ไว้เหมือนกันนะ ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งคนที่ซื้อโปรดักต์นี้มาลองใช้ตั้งแต่เขาเป็นกระแสแรกๆ และหลังจากที่ใช้หมดไปหลายกระปุก จนนับนิ้วไม่ได้ วันนี้จึงได้ฤกษ์เขียนถึงมันกันสักหน่อย<img src="https://media.thairath.co.th/image/MPcQaZH7fSxRw5fep1V2fRXmUVBUrFjQJC72b5CRZPvBp1V2Ie9vA1.png" data-id="101225" data-url="https://media.thairath.co.th/image/MPcQaZH7fSxRw5fep1V2fRXmUVBUrFjQJC72b5CRZPvBp1V2Ie9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">What is this :&nbsp;NEEDLY Daily toner pad เป็นแผ่นเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า ที่เคลมไว้ว่าช่วยกระชับรูขุมขน เติมความชุ่มชื้น และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ให้ผิวหน้าของเราดูเรียบเนียน แลดูกระจ่างใสมากขึ้น ซึ่งปกติแล้วเราอาจจะคุ้นเคยกับโทนเนอร์ที่เป็นขวด แล้วเราต้องเทใส่สำลีมาเช็ดกันเอง แต่แบรนด์นี้เขาคิดมาให้แล้ว เพราะทำเป็นแผ่นคอตตอนที่อัดแน่นไปด้วยสกินแคร์ฉ่ำๆ ใช้งานง่าย บำรุงครั้งละ 1 แผ่น ก็รู้เรื่องเลย ความปังของโปรดักต์นี้ คือเขาผ่านการทดสอบจาก P&amp;K Skin Clinical Research Center โดยแพทย์ผิวหนัง และแบรนด์เคลมว่าสามารถเติมความชุ่มชื้นในชั้นผิว 10 ชั้น โดยผิวจะชุ่มชื้นทันทีและฟื้นฟูรูขุมขน 4 เท่าในทันทีเช่นกัน ที่สำคัญเขายังใส่ใจที่จะทดสอบกับสถาบันโรคผิวหนังเกาหลี ซึ่งพบว่า NEEDLY Daily toner pad 1 แผ่น สามารถเปลี่ยนแปลงขนาดรูขุมขน จำนวนรูขุมขน พื้นที่รูขุมขน และความลึกของรูขุมขนได้ ทีนี้บางคนอาจจะสงสัยว่าพอแบรนด์พูดว่า ‘ช่วยผลัดเซลล์ผิว’ แต่ดันใช้ได้ทุกวัน มันจะไม่แรงไปกับใบหน้าเราใช่ไหม คำตอบคือ ใช่แล้ว มันไม่ได้แรงไป เพราะ NEEDLY มีการคิดค้นสูตรผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วย BHA ที่มีส่วนผสมหลักคือกรดซาลิไซลิก ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิวหัวดำ และ PHA ที่มีส่วนผสมหลักคือ กลูคูโรแลคโตน ช่วยทำความสะอาดผิว และมอบความกระจ่างใส โดยได้ผ่านการทดสอบแล้วว่าสบายผิว เพราะเป็นสูตรเป็นกรดอ่อนๆ ในค่า pH ระดับ 5 เท่านั้น บวกกับสารเติมความชุ่มชื้นอื่นๆ อย่างโซเดียมไฮยาลูโรเนต กลีเซอริล และกลูโคไซด์ รวมถึงส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างใบโกฐจุฬาลัมพา อัลลานโทอิน สารสกัดจากใบบัวบก และสารสกัดจากใบชา Brand story : เรื่องราวของแบรนด์ก็เรียบง่าย ไม่ได้มีอะไรหวือหวา NEEDLY มาจาก NEED + LY ที่เชื่อในการผลิตสกินแคร์ที่ ‘จำเป็น’ ต่อผิวผู้คนมาให้ใช้กัน ด้วยการใช้ส่วนผสมที่คลีนและเชื่อถือได้ ซึ่งเราคงไม่ต้องอธิบายมากมาย เพราะจากที่ยกตัวอย่างส่วนผสมของโทนเนอร์แพดตัวนี้ ก็คงได้เห็นว่าเขาใส่ใจส่วนผสม และการทดลองมาก และแน่นอนว่าในทุกๆ โปรดักต์ก็มีรายละเอียดความใส่ใจเหล่านี้ที่น่าสนใจอยู่ทุกตัว Performance โดยรวม : จากที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกว่าใช้หมดไปหลายกระปุก ก็คงไม่ต้องเดาว่าเราชอบมันหรือเปล่า เพราะถ้าไม่ชอบคงไม่ซื้อซ้ำ ซึ่งเรามองว่านี่ถือเป็นสกินแคร์กันตายของใครหลายๆ คนได้เลย อารมณ์แบบ คิดอะไรไม่ออก ก็ให้พกสิ่งนี้ไว้ สิ่งที่เราชอบคือการที่เขาทำแผ่นคอตตอนมาใหญ่สะใจ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 มม. ทำให้เราใช้เวลาในการเช็ดหน้าเร็วมาก ไม่ถึง 2 นาทีก็เสร็จ ที่สำคัญน้ำโทนเนอร์ที่เขาใส่เข้ามาคือชุ่มฉ่ำมาก นางมี 60 แผ่น แต่ว่าตั้งแต่แผ่นแรก ยันแผ่นสุดท้าย คือน้ำยังเหลือเยอะเหมือนเดิม ชุ่มชื้นครบทุกแผ่น ไม่เคยมีแผ่นไหนแห้งเลยสักนิดเดียว และฟินิชลุคที่ใช้คือมันซึมไว ซึมเข้าผิว ไม่ได้ทิ้งความเหนอะหนะอะไรไว้เลยสักนิดเดียว จึงเหมาะกับการใช้ก่อนแต่งหน้าที่ไม่ต้องการความหนักของสกินแคร์มารบกวนเมคอัพ แต่ละแผ่นจะเป็นสำลีที่มี 2 ด้าน คือด้านผิวนูน และผิวเรียบ วิธีใช้คือให้ใช้ผิวนูนผลัดเซลล์ผิวก่อน และเช็ดอีกครั้งด้วยด้านเรียบ จากนั้นให้ใช้นิ้วแตะเบาๆ เพื่อให้ซึมเข้าผิว ผลลัพธ์ที่ได้อย่างแรกเลยคือ สบายผิว มันช่วยให้ผิวเราเย็นขึ้น เหมือนปลอบประโลมวันยมๆ ที่ไปเจอมลภาวะมาได้อย่างดี ส่วนตัวเราจะชอบเน้นถูที่จมูกที่มีสิวเสี้ยนเยอะที่สุด และรูขุมขนกว้าง ซึ่งก็พบว่ามันกระชับขึ้นจริง จับจมูกแล้วไม่ขรุขระเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เลิศมาก แต่ถ้าถามถึงสิวอักเสบ หรือสิวตุ่มนูนแดง ใช้อันนี้ไป ก็ไม่ได้จะหายวับไปกับตานะ มันอาจจะต้องใช้เวลากับมันหน่อย เพื่อให้มันค่อยๆ ยุบลงไป ส่วนเรื่องความกระจ่างใส ก็เห็นผลในระดับที่ดูสดใสขึ้น ดูเฟรช ดูตื่น แต่ไม่ได้ทำให้ขาวขึ้นอะไรมากมายนะ สำหรับเรา มองว่าการที่ทำให้หน้าดูอิ่มเอิบ และสดใส ก็ถือเป็นข้อดีของมันแล้ว พอยต์การเปลี่ยนเฉดสีผิวอาจไม่ใช่คีย์หลักของโปรดักต์นี้น้า อีกความประทับใจที่ชอบคือ แม้แบรนด์จะไม่ใส่น้ำหอมสังเคราะห์มาเลยสักนิด แต่ตัวโทนเนอร์กลับมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากส่วนผสมธรรมชาติของเขาที่เวลาใช้ทีไรก็รู้สึกได้ถึงความสดชื่น ช่วยทำให้เราผ่อนคลาย แต่ก็ยังมีสิ่งที่ไม่ชอบอยู่บ้าง คือพอมันมี 60 แผ่น แล้วเราใช้เช้าเย็น เท่ากับว่าเราจะใช้ได้แค่ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับราคา 500-790 บาท แล้วแต่เขามีโค้ดส่วนลด หรือจัดโปรโมชัน ก็ถือว่าต้องซื้อซ้ำบ่อย และอาจจะแพงไปได้สำหรับบางคนที่ต้องเสียเงินทุกเดือนให้ใช้ได้อย่างต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะกับใคร :&nbsp;คนที่มีปัญหาเรื่องรูขุมขน เราว่าเป็นทาร์เก็ตที่เหมาะที่สุด เพราะถือว่าเป็นการทำงานของสกินแคร์ที่เห็นผลที่สุดแล้วหลังจากที่ได้ลองใช้มา ไม่เหมาะกับใคร :&nbsp;นางอาจจะไม่ได้เหมาะกับคนที่ต้องการพกพาสกินแคร์ไปเที่ยวเท่าไหร่นัก เพราะหนึ่งเลยคือ กระปุกใหญ่และเป็นทรงกลมที่กว้าง ยัดใส่กระเป๋าทีคือมีกระเป๋าตุงกันได้ ที่สำคัญคิดว่าไม่ได้ง่ายต่อการแบ่งเอาไปใช้ด้วย เพราะมันจะชุ่มชื้นที่สุดตอนอยู่ในกระปุกของมันนั่นแหละค่ะ ซึ่งถ้าใครมีโทนเนอร์ที่ใช้อยู่แล้วชอบ และเป็นแพ็กเกจจิ้งทรงยาวเรียวน่าจะเหมาะกับการพกพามากกว่า

Hai ในภาษาจีนแมนดารินแปลว่าทะเล Tessa Vermeulen ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Hai เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า หากพูดถึงทะเล เธอนึกถึงการเคลื่อนตัวอันงดงามแต่แข็งแกร่งของเกลียวคลื่น

Hai แบรนด์ชุดไหมชื่อจีนจากอังกฤษ 
ที่ใส่แล้วไม่ป้าแต่น่ารักเฉย

Skims แบรนด์เชปแวร์และชุดชั้นในจากคนดังอย่าง Kim Kadashian มีโปรดักต์ที่น่าจดจำที่สุดคือ ‘บราหัวนม’ ซึ่งทางแบรนด์ตั้งใจจะลบความน่าอับอายออกไปจากหัวนมผู้หญิง แต่ด้วยการให้ความรู้สึกถึงการมีหัวนมนี่เอง ทำให้มันบังเอิญไปตอบโจทย์ผู้หญิงที่ผ่าตัดจากการเป็นมะเร็งเต้านมด้วย และในปีนี้ ทางแบรนด์ก็ได้เน้นย้ำจุดยืนนี้ด้วยการดึงเอา Olivia Munn มาร่วมแคมเปญด้วยกัน

Skims ไปต่อกับจุดยืนเรื่อง ‘มะเร็งเต้านม’ โดยชวน Olivia Munn นักแสดงสาวผู้เคยผ่านการผ่าตัด มาสวมบราหัวนมและเผยรอยแผลเป็น


เนคไทผมเปียสุดซ่านี้เป็นชิ้นงานจาก Schiaparelli แบรนด์แฟชั่นที่มักจะนำหนึ่งก้าวเรื่องความแปลกแหวกแนวแบบ Surrealism ให้คนยืนงง ซึ่งสร้างเรื่องอีกครั้งบนรันเวย์ Ready-to-Wear FALL-WINTER 2024/25

ใส่เนคไทเส้นนี้ ใครไม่อึ้ง ให้มันรู้ไป!เนคไทผมเปีย จาก ‘Schiaparelli’ แบรนด์สไตล์ Surrealism อายุเกือบ 100 ปี ที่เติมความม่วนจอยให้ชีวิตคนจนถึงปัจจุบัน

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Beauty

NEEDLY Daily toner pad สกินแคร์กระชับรูขุมขนที่พี่สาวเกาหลีแนะนำ เหมือนยาสามัญประจำบ้านที่ขาดไม่ได้!

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS