Dyson Supersonic ไดร์เป่าผมสุดปังที่หลายคนพูดเหมือนกันหมดว่า ‘แพงจริง’ แต่ก็ ‘ดีจริง’ และ ‘คุ้มจริง’ ซึ่งเราที่ลองใช้เองมาแล้วก็ต้องขอเป็นอีกเสียงที่ยืนยันอย่างนั้น

Dyson Supersonic ไดร์เป่าผมที่ช่วยเซฟสุขภาพผมและเวลาชีวิต ตำนานความแพงกับเทคโนโลยีที่ “คุ้มจริง”

Dyson Supersonic ไดร์เป่าผมสุดปังที่หลายคนพูดเหมือนกันหมดว่า ‘แพงจริง’ แต่ก็ ‘ดีจริง’ และ ‘คุ้มจริง’ เราในฐานะคนที่เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมานาน ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจสอยมาใช้ เพราะอยากถนอมสุขภาพผมที่ใกล้พังทลายเพราะฟอกสีมาหนักมาก ซึ่งจากที่ใช้มาร่วม 3 เดือน ก็ต้องขอเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่า ดีจริง คุ้มจริง และก็ยังคงแพงจริง (เราซื้อตอนที่ไดสันเขาออกเอดิชันใหม่กับหัวเป่าแบบใหม่พอดี สินค้าเอดิชันเดิมกับหัวเป่าเซตเดิม เลยได้ราคาลดลงมาที่ 14,xxx บาท–ในเนื้อหาจะอธิบายถึงหัวเอดิชันใหม่อีกที)ดังนั้นวันนี้เราเลยอยากมาเล่าความปังของไดร์เป่าผมไดสันให้ฟัง แถมแอบกระซิบว่าราคาขนาดนี้ ใครบ้างที่ “ยังไงก็ควรซื้อ” เพราะมันคุ้มกับการลงทุน หรือใครบ้างที่ “ไม่ต้องซื้อก็ได้” เพราะมันอาจไม่ได้จำเป็นสำหรับคุณขนาดนั้นBrand story&nbsp;: ก่อนอื่นแวะมารู้จัก Dyson กันอีกสักหน่อย เขาคือแบรนด์จากประเทศอังกฤษที่ขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพสุดๆ ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุคที่ตั้งใจคิดค้นเพื่อแก้ปัญหาน่ารำคาญใจในผลิตภัณฑ์แบบเดิมๆ ในท้องตลาด ดังนั้นไดร์เป่าผม Dyson Supersonic ที่เรากำลังจะพูดถึง ก็ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาไดร์เป่าผมทั่วไปที่ขาดสมดุลเรื่องความแรง ความร้อน ความเร็ว และความเรียบ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเขาทำได้ดีจริงๆ&nbsp;Product : Dyson Supersonic คือไดร์เป่าผมที่ไม่ใช้ความร้อนสูงแต่แห้งเร็ว มาพร้อมระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะที่ช่วยให้ไดร์ผมได้เงางามขึ้น ทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมเป็นหัวเป่าแบบต่างๆ มาให้ด้วย ใช้สำหรับการจัดการผมในแบบต่างๆ ได้แก่&nbsp;1) หัวเป่าแบบนุ่มนวล สำหรับผมเส้นเล็กและหนังศีรษะที่บอบบาง&nbsp;2) หัวเป่าจัดแต่งทรง สำหรับจัดแต่งผมทีละส่วนด้วยกระแสลมที่ควบคุมได้อย่างแม่นยำ&nbsp;3) หัวสำหรับเป่าเรียบ เป่าแห้ง และจัดทรงให้เรียบได้พร้อมๆ กัน&nbsp;4) หัวเป่าสำหรับผมหยักศกหรือผมดัด ให้แรงลมที่เหมือนการปล่อยแห้งธรรมชาติ คงความ curl ของผมไว้ได้เป็นอย่างดี&nbsp;5) หัวเป่า flyaway ช่วยลดผมชี้ฟู เก็บเนี้ยบพวกลูกผมหรือปอยผมทั้งหลายได้แบบกริบๆ&nbsp;Performance&nbsp;: หลังจากที่ใช้มากว่า 2 เดือน พบว่าสามารถเป่าผมให้แห้งเร็วขึ้นได้กว่า 1 เท่าตัวประหยัดเวลาได้เยอะ และถนอมสุขภาพผมได้มากถึงมากที่สุด อธิบายเพิ่มเติมคือเราเป็นคนผมน้อย ผมเส้นเล็ก ไม่มีน้ำหนัก และดันไปฟอกสีผมมาจนผมเริ่มขาด ปลายผมก็แอบชี้ฟู จัดทรงยาก พอใช้ไดสันแล้วพบว่าเมื่อผมแห้งเร็วขึ้นและโดนความร้อนน้อยลง สุขภาพผมก็เริ่มดีขึ้น ที่สำคัญคือเราไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องหนีบผมอย่างที่เคยต้องใช้มาตลอด เพราะแค่ไดร์ตัวนี้ก็ไดร์ได้เรียบอย่างที่ใจต้องการแล้ว แถมยังดูเป็นธรรมชาติอีกต่างหาก&nbsp;เหมาะกับใคร :&nbsp;1) คนที่สุขภาพผมย่ำแย่ ไม่ควรโดนความร้อนเยอะไปกว่านี้อีกแล้ว โดยเฉพาะคนที่ฟอกสีผมหรือดัดผม ควรอย่างยิ่ง เพราะมันมีส่วนช่วยถนอมผมได้จริงๆ2) คนที่ปกติแล้วขี้เกียจเป่าผม ไม่ว่าจะแห้งยากหรือใดๆ ก็ตาม จนอาจทำให้เกิดรังแค3) คนที่รีบๆ และต้องการประหยัดเวลาก่อนออกจากบ้าน อย่างน้อยน่าจะลดเวลาจากเดิมได้ 5-10 นาที4) คนที่ต้องการการจัดแต่งทรงผมบ่อยๆ และขยันเรียนรู้วิธีการจัดแต่งทรงผมไม่จำเป็นก็ได้ :&nbsp;1) คนที่สุขภาพผมโอเคอยู่แล้ว แค่บำรุงตามปกติและใช้ไดร์ธรรมดาก็มีสุขภาพผมที่ดีได้2) คนที่จัดสรรเวลาตัวเองได้ลงตัวแล้ว ไม่ต้องรีบร้อนอะไรมาก3) คนที่ขี้เกียจเรียนรู้วิธีจัดแต่งทรงผม อาจจะใช้หัวเป่าทั้งหมดได้ไม่คุ้มนักNoted: เอดิชันล่าสุดของ Dyson Supersonic มีการปรับจากหัวเป่า flyaway ให้ล้ำสมัยขึ้นอีกหนึ่งเลเวล กลายเป็น ‘หัวเป่า Coanda’ ที่มาในรูปแบบหัวเป่าพร้อมแปรงในตัว ลดผมชี้ฟูได้อีกเนี้ยบขึ้นไปอีกขั้น (ซึ่งจำได้ว่าตอนลองที่บูท ยังไม่เห็นความต่างกับหัว flyaway มากนัก–อาจเพราะฝีมือเรายังไม่ถึงก็ได้)

จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อ ‘Prada’ แฟชั่นเฮ้าส์จากอิตาลีมา #กระทำการหว่อง ด้วยการแปลงโฉมคฤหาสน์ Rongzhai Villa ในกรุงเซียงไฮ้ ประเทศจีน ให้เป็นร้านอาหาร ‘Mi Shang Prada Rong Zhai’ ที่ยกเฟรมสุดไอคอนิกสุดคลาสสิกของผู้กำกับชาวฮ่องกง หว่อง กา ไว (Wong Kar-Wai) มาไว้ในสเปซแห่งนี้ได้อย่างงดงาม 

หลุดเข้าไปในโลกของ หว่อง กา ไว และหนัง In the Mood for Love ใน ‘Mi Shang Prada Rong Zhai’ ร้านอาหารสแตนด์อโลนแห่งแรกในเอเชียของ Prada ณ กรุงเซียงไฮ้ 

Unrecognizable Makeup หลบไปเมคอัพธรรมชาติๆ เพราะฉันจะแต่งหน้าให้คนตะลึงจน ‘จำไม่ได้’ เท่านั้น! นี่คือเทรนด์การแต่งหน้าแบบเปลี่ยนลุคขั้นสุดให้คนงงว่า นี่ใช่คนเดียวกับคนที่เคยเจอหรือเปล่า เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังของเครื่องสำอาง

Unrecognizable Makeup การแต่งหน้าให้คนจำไม่ได้ ที่ทั้งสนุกและบูสต์ความมั่นใจ เมื่อเราเลิกกดดันหรือกลัวจะถูกวิจารณ์ว่า “หน้าสดไม่ตรงปก”

ตอนนี้เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ซาบรีน่า คาร์เพนเตอร์ (Sabrina Carpenter) นักร้องวัย 25 ปีกับเพลงฮิตติดหูที่ทำให้คนไทยต้อง ‘หน๊าวฮีส์’ อย่าง Espresso หรือวลี have you ever try this one? ของเพลง Juno ซึ่งรู้หรือไม่ว่า กว่าจะดังเป็นพลุแตกกับอัลบั้ม Short ‘n’ Sweet ได้นั้น เธอใช้เวลาและความพยายามไม่น้อยกว่า 10 ปีเลย ในการค้นพบตัวตนทั้งในด้านแนวเพลง รวมถึงภาพลักษณ์ใหม่กับลุคสาวบอมเชลล์ ที่ใครเห็นเธอก็ต้องนึกถึงในบอดี้สูทระยิบระยับ กับรอยจูบสีแดง ที่เราจะมาวิเคราะห์สูตรผสมของซิกเนเจอร์ที่นำไปสู่ความ ‘ดัง’ และ ‘ปัง’ ของเธอกันเลย

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Beauty

Dyson Supersonic ไดร์เป่าผมที่ช่วยเซฟสุขภาพผมและเวลาชีวิต ตำนานความแพงกับเทคโนโลยีที่ “คุ้มจริง”

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS