เป็นไปได้ยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะหาคนรักที่ได้ดั่งใจเรา 100% และหลายครั้งความคาดหวังที่สูงเกินไปเหล่านี้ก็สร้างความวุ่นวายใจในความสัมพันธ์หรือบางครั้งก็นำไปสู่การแตกหักทั้งที่จริงอาจยังมีจุดที่ต่างฝ่ายต่างปรับเข้าหากันได้ 

สร้างความสัมพันธ์ที่เฮลตี้ ไปกับหลัก 80/20คาดหวังสิ่งที่เราต้องการ
จากอีกฝ่าย 80% ส่วนอีก 20% 
เราต้องดีลกับตัวเอง

เป็นไปได้ยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะหาคนรักที่ได้ดั่งใจเรา 100% และหลายครั้งความคาดหวังที่สูงเกินไปเหล่านี้ก็สร้างความวุ่นวายใจในความสัมพันธ์หรือบางครั้งก็นำไปสู่การแตกหักทั้งที่จริงอาจยังมีจุดที่ต่างฝ่ายต่างปรับเข้าหากันได้ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์จำนวนหนึ่งจึงเลือกแนะนำหลักการ 80/20 ที่ให้เราเว้นที่ว่างความคาดหวังเอาไว้ ปล่อยให้มีบางส่วนที่ไม่ได้ดั่งใจบ้าง ซึ่งในส่วนนั้น เราก็ต้องดีลกับตัวเอง หลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับหลัก 80/20 มาก่อนในแวดวงธุรกิจ ซึ่งมีที่มาจาก ‘กฎของพาเรโต’ นักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาเลียน ที่ค้นพบว่า 80% ของผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นผลมาจากปัจจัยสำคัญจริงๆ เพียง 20% ดังนั้นเบื้องต้นเขาจึงแนะนำให้โฟกัสตัวแปรให้ถูกจุด ให้โดนตรง 20 เปอร์เซ็นที่ส่งผลมากๆ แทนการโฟกัสและลงแรงเต็มข้อกับทุกอย่างทุกรายละเอียด สรุปอย่างง่ายๆ ก็คือเขาแนะนำให้เราทำน้อยเพื่อจะได้มาก เพียงแต่ต้องเลือกทำให้ถูกจุด อย่างไรก็ตาม ในการหยิบเอาหลัก 80/20 มาใช้ในเรื่องความสัมพันธ์ ไม่ได้เป็นไปตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์ของพาเรโตเสียทีเดียว แต่เป็นการหยิบเอาสัดส่วน 80/20 นี้มาประยุกต์อีกทีหนึ่ง เพื่อให้เราได้ลองโฟกัสสิ่งที่สำคัญจริงๆ ในความสัมพันธ์ และสร้างความสัมพันธ์ที่เฮลตี้สำหรับทุกฝ่าย ซึ่งเราสามารถใช้สัดส่วนตัวเลขนี้ในหลายแง่ทีเดียว เช่น1) คาดหวังจากคนรัก 80% อีก 20% เราต้องดีลกับตัวเอง : อย่างที่กล่าวไปด้านบนสุด และเป็นวิธีที่ป๊อปปูลาร์ที่สุด นั่นคือลองหยุดคาดหวังว่าคนรักจะต้องถูกใจเรา 100% แล้วไปกดดันให้เขาต้องเปลี่ยนเพื่อเรา เพราะการที่อีกฝ่ายเป็นไปตามความคาดหวังของเราได้ 80% ก็เพียงพอแล้ว และอีก 20% คือสิ่งที่เราต้องจัดการตัวเองล้วนๆ เช่น มองหาวิธีที่จะอยู่กับ 20% ที่เหลือนี้ให้ได้ หรือลองสื่อสารถึงความอึดอัดใจใน 20% นั้นอย่างสมเหตุสมผลและไม่พยายามฝืนตัวตนใครมากไป หรือทำใจยอมรับใน 20% นี้ ว่ามันจะไม่เปลี่ยนแล้วหันไปโฟกัสส่วนที่ตรงใจเรา 80% แทน ซึ่งประเด็นสำคัญคือ คุณเองคือคนเดียวที่จะตอบได้ว่าเรื่องไหนที่สำคัญกับความสุขของคุณจริงๆ และควรมีน้ำหนักมากถึง 80% เพราะถ้าคุณจัดเอาข้อดี-ข้อเสียของเขาไปวางไว้ผิดฝั่ง เช่นเอาสิ่งที่คุณรับไม่ได้จริงๆ เช่น การนอกใจ การทำร้ายร่างกาย การใช้ยาเสพติด ฯลฯ ไปอยู่ในฝั่ง 20% ก็อาจกลายเป็นการปล่อยตัวเองไว้กับปัญหาใหญ่ที่ไม่มีทางแก้ได้แทน2) คาดหวังจากความสุขความสัมพันธ์ 80% อีก 20% ที่ทะเลาะกันคือเรื่องธรรมชาติ : หลายคนคาดหวังว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้ต้องมีความสุขในทุกๆ วัน การมีอุปสรรคหรือความไม่เข้าใจกลายเป็นสิ่งรบกวนจิตใจจนพานมีเรื่องให้ทะเลาะเพิ่ม และมีแต่จะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลายไปเรื่อยๆ ดังนั้นหลักการนี้จึงเป็นการบอกว่าความสัมพันธ์ที่เฮลตี้นั้นไม่ได้หมายถึงการมีความสุขด้วยกันตลอดเวลา แต่การมีช่วงเวลาแฮปปี้ด้วยกัน 80% ก็เรียกว่าเฮลตี้แล้ว และการทะเลาะกัน 20% ก็ไม่ได้หมายถึงสัญญาณความระหองระแหงที่รอวันแตกเสมอไป แต่มันอาจหมายถึงการได้เคลียร์ใจกันเป็นระยะๆ เพื่อให้ 80% ที่มีความสุขนั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเหมือนเดิมต่างหาก3) เต็มที่กับความรัก 80% อีก 20% ลองเว้นที่ให้กับตัวเอง : สำหรับบางคนอาจรู้สึกความรักคือทั้งหมดของชีวิต และการทุ่มเททุกอย่างให้กับความสัมพันธ์นี้ 100% ทั้งตัวและใจ อาจทำให้คุณเผลอละเลยตัวตนหรือความต้องการของตัวเอง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเว้นพื้นที่ให้กับตัวเองอย่างน้อยก็ 20% เช่นเดียวกับที่อีกฝ่ายก็จะได้มีพื้นที่ของเขาด้วยเช่นกัน ซึ่งการเว้นที่ให้ตัวเองนี้ไม่ได้หมายถึงการเว้นที่ให้กับการ ‘ทำผิด’ ต่อคนรัก แต่หมายถึงการดูแลใส่ใจตัวเอง ทำอะไรเพื่อตัวเอง สำรวจตัวเอง ทำความเข้าใจตัวเอง และรักตัวเอง และเมื่อข้างในตัวเราเองมั่นคงเพียงพอแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องเรียกร้องอะไรจากคนรักหรือความสัมพันธ์มากจนเกินควร4) สันดานที่แก้ไม่หาย 20% อาจส่งผลกับปัญหา 80% ในความสัมพันธ์ : ลิงค์กลับไปที่ข้อ 1) ที่ว่าหากคุณวางปัญหาบางอย่างในตัวคนรักเอาไว้ผิดฝั่ง ก็อาจกลายเป็นการจมอยู่กับปัญหาที่แก้ไม่ได้และไม่จบไม่สิ้น เพราะนิสัยฝังลึกเพียง 20% ของคนรักหรือของเรา อาจส่งผลกับปัญหากว่า 80% ในความสัมพันธ์ครั้งนี้ ดังนั้น ในแง่การปรับแก้ปัญหา อาจต้องโฟกัสที่นิสัยซึ่งเป็นตัวการสำคัญ 20% นี้ก่อน ว่าเราพอจะแก้ไขร่วมกันได้ไหม เพราะหากแก้ไม่ได้ อย่างไรเสียมันก็จะนำมาซึ่งปัญหาในอนาคตอีกกว่า 80% ทีเดียว&nbsp;นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการหยิบเอาหลัก 80/20 ของพาเรโต้มาใช้ในความสัมพันธ์ คุณเองมีวิธีการไหนที่ใช้อยู่หรือสนใจ ลองมาแชร์กันได้เลย อ้างอิง<a href="https://www.forbes.com/sites/traversmark/2024/09/30/a-psychologist-shares-loves-8020-principle-for-an-evergreen-bond/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.forbes.com/sites/traversmark/2024/09/30/a-psychologist-shares-loves-8020-principle-for-an-evergreen-bond/&nbsp;</a><a href="https://hellodivorce.com/relationships/what-is-the-80-20-rule" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://hellodivorce.com/relationships/what-is-the-80-20-rule&nbsp;</a><a href="https://hellodivorce.com/relationships/what-is-the-80-20-rule" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.psychologytoday.com/intl/blog/social-instincts/202411/how-to-protect-your-relationship-with-the-8020-principle&nbsp;</a>

‘ดอกไม้’ ไม่เพียงเป็นสิ่งที่อยู่ในทุกช่วงเวลาของมนุษย์ ตั้งแต่ช่วงเวลาแห่งความสุข จนถึงช่วงเวลาของความโศกเศร้าสูญเสีย เป็นส่วนหนึ่งที่ผสมรวมอยู่ในทุกวัฒนธรรมและพิธีกรรม ดอกไม้ยังสามารถพาเรากลับมาเชื่อมต่อกับ ‘ภายใน’ และ ‘ใจ’ ของเราเองได้อย่างน่ามหัศจรรย์ 

‘Flower Mandala with Sound Healing’ เปิดประสบการณ์เวิร์กช็อปที่ชวนเรากลับมาโฟกัส ‘ใจ’ ด้วยดอกไม้บำบัด จากงาน Dragonfly H.E.A.L Summit 2024

“My clothes are pajamas, straight from the cold plunge” อีกหนึ่งท่อนที่คุ้นหูใครหลายคนจากเพลง Mantra ของ Jennie Kim ชวนให้เรานึกถึงไลฟ์สไตล์ของใครหลายคนโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกที่เลือกจะดูแลตัวเองด้วย Cold Plunge หรือ ‘การแช่น้ำเย็นจัด’ เหมือนที่เจนนี่บอกเอาไว้ในเพลงว่าตอนกลางวันเธอจะสวมชุดพาจามาสบายๆ เพราะเพิ่งไปแช่น้ำเย็นมา นั่นก็เพื่อเตรียมร่างให้พร้อมสำหรับค่ำคืนอันสุดเหวี่ยงแบบสาวแอลเอชิคๆ

Cold Plunging like Jennie Kim! 
การแช่น้ำเย็นจัด เพื่อบูสต์อารมณ์และร่างกายกิจกรรมที่หลายคนหลงรัก รวมทั้งเจนนี่ คิม


เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่คนเราจะจัดการกับอารมณ์ใดๆ ที่เจอมาทั้งวันได้อย่างง่ายดายเหมือนกับปิดสวิตช์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมอารมณ์ของเรามักจะไปถึงจุด ‘Overwhelm’ เอ่อล้น ท่วมท้นไปหมดในช่วงท้ายของวัน

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Relationship

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS