แทบทุกครั้งเวลามีคำถามว่าช่วงวัยไหนของผู้หญิงเหมาะสำหรับการมีลูกมากที่สุด ด้วยทั้งปัจจัยเรื่องสุขภาพและค่านิยมของสังคม ทำให้หลายคนเชื่อว่าการมีลูกในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผู้หญิงคือตอนที่อายุยังน้อย หรือยิ่งมีลูกเร็วเท่าไรได้ยิ่งดี แต่นั่นอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับผู้หญิงทุกคนเสมอไป และการเลือกจะเป็นแม่ในวัยที่อาจจะ “ช้าไป” สำหรับบางคน ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ หากเธอคนนั้นตั้งใจจริงๆ

Eva Mendes เปิดใจถึงการเป็น ‘แม่’ วัย 50s ที่การมีลูกคนแรกตอนอายุ 40 ไม่นับว่าช้าไป เมื่อช่วงชีวิตนี้ เธอพร้อมอยู่บ้านและเป็นแม่เต็มตัว

แทบทุกครั้งเวลามีคำถามว่าช่วงวัยไหนของผู้หญิงเหมาะสำหรับการมีลูกมากที่สุด ด้วยทั้งปัจจัยเรื่องสุขภาพและค่านิยมของสังคม ทำให้หลายคนเชื่อว่าการมีลูกในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผู้หญิงคือตอนที่อายุยังน้อย หรือยิ่งมีลูกเร็วเท่าไรได้ยิ่งดี แต่นั่นอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับผู้หญิงทุกคนเสมอไป และการเลือกจะเป็นแม่ในวัยที่อาจจะ “ช้าไป” สำหรับบางคน ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ หากเธอคนนั้นตั้งใจจริงๆหนึ่งในผู้หญิงที่ยืนยันสิ่งนี้คือนักแสดง อีวา เมนเดส (Eva Mendes) ที่เพิ่งออกมาอัปเดตชีวิตล่าสุดกับเว็บไซต์ The People ว่าเวลานี้เธอกำลังเป็นคุณแม่ที่เฟียซที่สุดในวัย 50 ผู้ไม่แคร์กับคำวิจารณ์และคำปรามาสจากใครหน้าไหนทั้งนั้น โดยเธอมีลูกคนแรกในปี 2014 ตอนที่เธออายุ 40 ปี และถัดมาในปี 2016 ก็มีอีกคนหนึ่ง&nbsp;“ตอนฉันอายุ 40 แล้วมีลูกสาวคนแรก คนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่โตสำหรับเขา แต่ไม่ใช่สำหรับฉันหรอกนะ แล้วพอฉันท้องลูกอีกคนตอน 42 คนพูดกันว่า ‘พระเจ้า! เธอต้องเหนื่อยมากแน่ๆ รู้หรือยังว่าทำไมคนถึงมีลูกกันตั้งแต่ 20 ฉันแบบ… ขอโทษนะ เป็นอะไรที่งี่เง่าที่สุดที่เคยได้ยินมาเลย” อีวา เมนเดส เปิดใจแบบมันๆ กับ The People Beautiful Issue เมื่อเร็วๆ นี้จากสถิติในสหรัฐอเมริกา โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงจะมีลูกคนแรกเมื่ออายุ 27 ปี และโดยส่วนใหญ่ ช่วงอายุที่เหมาะจะมีลูกที่สุดคือไม่เกิน 35 ปี เพราะเมื่ออายุเกินกว่านั้นแล้ว ไข่ของผู้หญิงก็จะมีจำนวนลดลง และความเสี่ยงด้านสุขภาพทั้งของแม่ละเด็กจะเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าการมีลูกเมื่ออายุเกินกว่านั้นจะเป็นเรื่องต้องห้าม ผู้หญิงหลายคนสามารถให้กำเนิดเด็กที่สุขภาพแข็งแรงได้หลังวัย 35 เพียงแต่อาจต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษทั้งระหว่างตั้งครรภ์ ตอนคลอด และการเลี้ยงลูกวัยแบเบาะ ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับบางคน อายุที่มากขึ้นนั่นหมายถึงวุฒิภาวะและสถานะทางการเงินที่มั่นคง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการสร้างครอบครัว&nbsp;นั่นหมายถึง ความพร้อมและจังหวะชีวิตของแต่ละคนย่อมต่างกัน เมนเดสเองบอกว่าในช่วงชีวิตวัยรุ่น สิ่งที่เธอไม่เคยคิดอยากจะทำเลยในชีวิตคือการมีลูก&nbsp;“ตอนอายุ 20 ฉันไม่สมควรต้องข้องเกี่ยวอะไรกับเด็กๆ เลยด้วยซ้ำ เพราะฉันทั้งเป็นพวกปากร้าย ทั้งสูบบุหรี่จัด นึกภาพไม่ออกเลยว่าตอนแก่ฉันจะเป็นอย่างไร ถ้ามีคนถามฉัน ฉันคงบอกเขาว่าปล่อยให้ฉันสูบต่อไป ใช้ชีวิตไม่เฮลตี้ต่อไปเถอะ ไม่เคยมีความคิดอยากมีลูกหรืออะไรในตอนนั้นเลยค่ะ” เธอกล่าวแต่ในปัจจุบันเธอกำลังพิสูจน์ว่าผู้หญิงในวัย 40 ก็ยังสามารถฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับการเป็นแม่ได้เสมอ แถมการเป็นแม่ที่มีลูกเล็กๆ ในวัย 50 สำหรับเธอก็ไม่มีคำว่า ‘แก่เกินไป’ เสียด้วย เธอตัดสินใจพักงานแสดงเพื่อทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำหน้าที่แม่ และนั่นเป็นการตัดสินใจที่เธอบอกว่าแทบไม่ต้องคิดและไม่เคยรู้สึกกดดันเลยสักนิด แต่เป็นความรู้สึกที่เรียกว่า ‘แจ่มชัด’ ที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง&nbsp;“งาน… เป็นอะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้วก็ผ่านเลยไป แต่ลูกๆ ไม่ใช่อย่างนั้น สำหรับฉันเรื่องนี้จึงไม่ต้องหยุดคิดเลย พวกเขาจะเป็นเด็กแค่เพียงช่วงสั้นๆ และฉันอยากจะเป็นแม่ที่อยู่ตรงนั้นกับพวกเขาทุกช่วงเวลาถ้าทำได้” เมนเดส กล่าว“ฉันรู้สึกซาบซึ้งนะ เพราะฉันรู้ว่ามีผู้หญิงอีกหลายคนที่อยากจะอยู่บ้าน คอยดูแลลูกๆ เหมือนอย่างฉันทำ แต่ด้วยปัจจัยอะไรต่างๆ มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำแบบนั้นได้ แม่ของฉันเองก็ด้วยค่ะ มันหนักหนามากในเวลานั้น แต่แม่ก็พยายามมากๆ แล้วเมื่อไรก็ตามที่แม่อยู่บ้าน ฉันจำได้ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่ามากที่สุดในชีวิตฉันเลย”&nbsp;“สำคัญมากนะคะเวลาที่มีตัวจิ๋วเล็กๆ 2 คนติดหนึบอยู่กับคุณทั้งวัน มันทำให้ฉันอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นให้ได้ในทุกๆ วันค่ะ”&nbsp;ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 อีวา เมนเดส และสามี ไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling) นักแสดงหนุ่มวัย 43 สปาร์กรักกันในกองถ่ายหนังเรื่อง The Place Beyond the Pines ที่ทั้งคู่แสดงนำ จนกระทั่งมีลูกสาวน่ารัก 2 คน คือ อมาลดา ลี (Amada Lee) และ เอสเมอรัลดา (Esmeralda) ชีวิตส่วนตัวของทั้งคู่เงียบกริบ เพราะทั้งเมนเดสและกอสลิงแทบไม่เปิดเผยเรื่องราวในครอบครัวต่อสาธารณะ แม้แต่การโพสต์รูปลูกๆ ในโซเชียลฯ ซึ่งครั้งหนึ่งเมนเดสเคยให้สัมภาษณ์ว่า สามีและลูกๆ เป็นหนึ่งใน ‘โซนส่วนตัว’ ที่ต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก และนั่นสำคัญมากสำหรับเธอ“ฉันค่อนข้างมี Boundary ชัดเจนมากเวลาเป็นเรื่องสามีกับลูกๆ” เมนเดส กล่าว “ฉันพูดถึงพวกเขาบ้าง แต่แบบมีลิมิตมากๆ นะ ที่สำคัญคือฉันจะไม่โพสต์ ไม่แชร์เรื่องราวอะไรในชีวิตประจำวันของพวกเราเลย” เมนเดส กล่าวถึงการรักษาชีวิตส่วนตัวของเธอกับครอบครัวตลอดหลายปีของชีวิตแต่งงาน &nbsp;“ลูกของฉันยังเด็กมากๆ พวกเขาไม่รู้หรอกว่าการโพสต์รูปมันคืออะไร แล้วฉันก็ไม่ได้รับความยินยอมให้ทำแบบนั้นด้วย ฉันตั้งใจว่าจะไม่โพสต์อะไรจนกว่าลูกๆ จะโตพอที่จะบอกได้ว่าพวกเขายินยอมหรือเต็มใจที่จะให้โพสต์ค่ะ” เธอกล่าวอ้างอิง&nbsp;<a href="https://people.com/eva-mendes-is-glad-shes-an-older-mom-beautiful-issue-exclusive-8641623" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://people.com/eva-mendes-is-glad-shes-an-older-mom-beautiful-issue-exclusive-8641623</a><a href="https://people.com/parents/eva-mendes-wont-post-photos-daughters-until-can-give-consent/" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://people.com/parents/eva-mendes-wont-post-photos-daughters-until-can-give-consent/</a><a href="https://www.healthline.com/health/womens-health/childbearing-age#benefits-andrisks" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.healthline.com/health/womens-health/childbearing-age#benefits-andrisks</a>

การให้อภัยมีประโยชน์มากมายก็จริง ทว่าในทางจิตวิทยา มันไม่ได้เป็นการจบปัญหา ลบล้าง เยียวยาให้บาดเเผลหรือประสบการณ์เลวร้ายนั้นบรรเทาลงได้เสมอไป เพราะบางครั้งความเจ็บปวดบางอย่างไม่จำเป็นต้องอาศัยการให้อภัย และต้องอาศัย ‘เวลา’ เท่านั้นเพื่อในการรักษาเยียวยาตัวมันเอง

เราอาจไม่ต้องบีบตัวเองว่าต้อง ‘ให้อภัย’ เดี๋ยวนี้ เมื่อการเยียวรักษาบาดแผลทางใจที่ได้ผลในระยะยาวกว่า คือการปล่อยให้ความโกรธหรือความเสียใจได้ทำงาน

หากลองเสิร์ชว่า ‘ไม่ตอบแชต แต่ดูสตอรี่’ ก็จะพบว่าพฤติกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การบ่นไปเรื่อยเปื่อย แต่มันคือ Pain Point ที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่เฮลตี้ต่อใจเอาเสียเลย และสามารถอธิบายในทางจิตวิทยาว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการแสดงท่าทีของความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องการ ‘ผูกมัด’ ได้เหมือนกัน 

‘ไม่ตอบแชต แต่ดูสตอรี่’ สัญญาณของความสัมพันธ์แบบ Orbiting โคจรใกล้ๆ ให้รู้ว่ามีอยู่ แต่ไม่อยากผูกมัด Pain Point ระดับชาติที่อธิบายได้ในทางจิตวิทยา

Girl Dad หรือพ่อที่สนิทกับลูกสาว ซึ่งคอยมอบความรัก ความเข้าใจให้ลูกสาว และเลี้ยงดูลูกสาวในทุกการเติบโต เป็นหนึ่งตัวอย่างที่บอกได้ดีว่า ผู้ชายก็เลี้ยงลูกสาวได้ และบางคนก็อาจจะเข้าใจประเด็นละเอียดอ่อนของลูกสาวได้ไม่ต่างจากคนเป็นแม่

‘Girl Dad’ พ่อที่ใกล้ชิด และสนิทสนมกับลูกสาว โอบอุ้ม เปิดกว้าง และเข้าใจสิทธิเสรีภาพในตัวลูก ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ชายก็เข้าใจความเป็นหญิงในตัวลูกสาวได้ไม่ต่างจากคนเป็นแม่

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Relationship

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS