Rebecca Syndrome พฤติกรรมแอบส่องมนุษย์แฟนเก่า รวมถึงเรื่องราวความสัมพันธ์เก่าๆ ของคนรักในปัจจุบัน

ตอนแรกโคนัน ตอนหลังโคม่า! รู้จัก ‘Rebecca Syndrome’ การตามสืบตามส่องแฟนเก่าของแฟนเรา ที่อาจเป็นพิษทั้งกับสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ 

ต้องยอมรับว่าบางครั้งโซเชียลมีเดียก็เป็นตัวเร่งให้เรารับรู้เรื่องราวนอกเหนือจากเรื่องที่จำเป็นต้องรู้มากเกินไปอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่รู้แล้วไม่มีประโยชน์กับตัวเราเอาเสียเลย และแถมอาจจะเป็นโทษมากกว่าด้วยซ้ำหนึ่งในนั้นน่าจะเป็นเรื่องของ ‘แฟนเก่าของแฟนเรา’ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นปัญหาระดับชาติของใครหลายคนที่มีผลถึงขั้นทำเอาใจสั่นคลอนได้ไม่น้อย เพราะแพลตฟอร์มต่างๆ ในโซเชียลฯ ไม่ว่าจะ Facebook หรือ IG อนุญาตให้เรารับบทโคนันยอดนักสืบเข้าไปส่อง ไปรับรู้เรื่องราวความรักความสัมพันธ์ ยันชีวิตเซ็กซ์ในอดีตของแฟนเรานั้นว่ามันมีความเป็นมาอย่างไร มีใครบ้าง แล้วเขาคนนั้นเป็นใคร หน้าตาเป็นอย่างไร ดูดี (กว่าเรา) ไหม ทำงานการอะไร จนถึงประสบความสำเร็จ (กว่าเรา) หรือเปล่า และอีกมากมายหลายสิ่ง พร้อมกับสร้าง Scenario อะไรต่างๆ นานา สร้างจินตนาการผสมปนเปกับความรู้สึกที่ยุ่งเหยิงสับสน จากโคนันกลายเป็นโคม่าจนอาจต้องดึงสติกลับมาพัก แล้วย้อนถามตัวเองเหมือนกันว่านี่เราจำเป็นต้องรู้เรื่องราวพวกนั้นของคนอื่นมาก ‘ขนาดนั้น’ เลยเหรอ&nbsp;ถึงแม้พฤติกรรมแอบส่องมนุษย์แฟนเก่า รวมถึงเรื่องราวความสัมพันธ์เก่าๆ ของคนรักในปัจจุบันจะเป็นผลพวงมาจากพื้นที่โซเชียลฯ ที่เบลอเส้นแบ่งระหว่างอดีตกับปัจจุบันก็จริง แต่พฤติกรรมนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในยุคนี้เสียทีเดียว เพราะถึงกับมีคำศัพท์ที่มาจำกัดอาการเหล่านี้ว่า ‘Rebecca Syndrome’ มีที่มาจากนิยายชื่อ Rebecca ของนักเขียน Daphne du Maurier ตั้งแต่ปี 1938 ว่าด้วยผู้หญิงคนหนึ่งที่ดันไปรับรู้เรื่องราวของภรรยาคนแรกที่ตายไปแล้วของสามีเธอ กระทั่งโดนเรื่องราวในอดีตเหล่านั้นตามหลอกหลอนจนไม่สามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้ปกติสุขอย่างที่ควรจะเป็นในทางจิตวิทยาเองก็ได้อธิบายถึงพฤติกรรมนี้ไว้เหมือนกันว่า ‘Retroactive Jealousy’ หมายถึงความหึงหวงอันเป็นผลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (และจบลงแล้ว) ในอดีต และถ้าหากปล่อยให้มันมีอิทธิพลกับปัจจุบันมากเท่าไร ก็จะส่งผลกระทบต่อความความสัมพันธ์เหมือนคลื่นที่มองไม่เห็นซึ่งสุดท้ายแล้วจะพัฒนากลายเป็นคลื่นสึนามิ สร้างความเสียหายให้กับคู่รักได้แน่ๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังส่งผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์และสุขภาพจิตของเราเองย่างมากด้วยนี่สิ&nbsp;นักจิตบำบัด โทบี้ อิงแฮม (Toby Ingham) ให้ความเห็นในเรื่องนี้กับเว็บไซต์ Vice ว่า อันที่จริงแล้วเรื่องความรักความสัมพันธ์ การคบหา การเดต หรือชีวิตเซ็กซ์ในอดีตของคู่รักไม่เชิงว่าเป็น ‘ปัญหา’ สำหรับทุกคนทุกคู่เสมอไป แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ถ้าหากดันไปรับรู้เรื่องในอดีตเหล่านั้นเมื่อไหร่ เป็นต้องรู้สึกเครียดหรือว้าวุ่นใจขึ้นมาทันที และคนกลุ่มนี้แหละที่จะรู้สึกบาดเจ็บสาหัสมากกว่าคนอื่นๆ&nbsp;“คนที่พบว่าเรื่องความสัมพันธ์ในอดีตของคนรักในปัจจุบันมีผลกับตัวเองมากๆ พวกเขามักจะทำทีเป็นว่าเรื่องเหล่านั้นไม่สำคัญและสามารถจัดการมันได้ ซึ่งร้อยทั้งร้อยที่ผมเจอมาไม่จริงเลยครับ มันจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เราจะมีคำจำกัดความอะไรขึ้นมาสักอย่าง เพื่อรับมือกับความทุกข์ที่เกิดจากสิ่งเหล่านี้” นักจิตบำบัด โทบี้ อิงแฮม คิดว่าความน่ากลัวคือการที่โซเชียลฯ เป็นตัวเร่งให้ Rebecca Syndrome ยิ่งกลายมาเป็นปัญหาใหญ่ของคนยุคนี้ และนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพจิตที่มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วย&nbsp;เหมือนอย่างแอ็กเคานต์ด้านจิตวิทยาชื่อ psychlessons4u ที่ทำคลิปสั้นๆ ใน TikTok อธิบายความรู้สึกหึงหวงกับเรื่องในอดีตแบบ Retroactive Jealousy นี้ว่า มันทำให้เรารู้สึกเหมือนติดอยู่ในไทม์แมชชีนที่วิ่งกลับหลัง มูฟออนไปไหนไม่ได้สักที ซึ่งวิธีที่จะสังเกตว่าเราเริ่มมีอาการ Rebecca Syndrome หรือไม่ อาจลองรีเช็กง่ายๆ ว่าตัวเองหมกมุ่น คิดวนไปวนมากับเรื่องความรักความสัมพันธ์ในอดีตของคนรักมากจนรู้สึกเหมือนกำลังถูกคุกคาม ไม่ปลอดภัย ไม่มั่นคงอยู่หรือเปล่า ต่อมาให้สังเกตว่าตัวเองกำลังรับบทนักสืบในชีวิตของคนรักอยู่ตลอดเวลาไหม เขาจะไปดูสตอรี่คนไหน ไปกดหัวใจให้ใคร ใครมากดหัวใจให้เขาบ้าง แฟนเก่ายัง Follow เขาไหม หรือเขายัง Follow แฟนเก่าอยู่หรือเปล่า และอีกสารพัดกิจกรรมที่เกิดขึ้นในโซเชียลฯ ซึ่งจริงๆ แล้วสิ่งเหล่านั้นอาจ ‘มี’ หรือ ‘ไม่มี’ ความหมายอะไรเลยก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆ คือเรากำลังปล่อยมัน ‘ปั่น’ ความรู้สึกให้ยุ่งเหยิงกระเจิดกระเจิงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหากการสืบส่องยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มันอาจพัฒนากลายเป็นพฤติกรรม ‘Cyber-Stalking’ โดยไม่รู้ตัว ซึ่งทั้ง Toxic กับสุขภาพจิตของตัวเองและไม่เฮลตี้กับใครเลย โดยเฉพาะกับความสัมพันธ์ของเราในปัจจุบันสุดท้ายหากพบว่าจากแค่แอบส่องแฟนเก่าของแฟนเราที่ทำให้รู้สึกหึงเบาๆ ว้าวุ่นหน่อยๆ เริ่มก่อตัวเป็นความรู้สึกเศร้าและวิตกกังวลทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ในอดีตของอีกฝ่ายแบบสลัดออกจากหัวไม่ได้สักที เป็นไปได้ว่าไม่ใช่แฟนเก่าของเขาหรอกที่เป็นปัญหา แต่ตัวเราเองนั่นแหละที่กำลังมีปัญหา เพราะ Rebecca Syndrome เข้ามาคุกคามชีวิต&nbsp;เอาง่ายๆ ลองจินตนาการว่าถ้าเรากำลังอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทุกอย่างมีผลทำให้ปัจจุบันสั่นไหวได้มากมายขนาดนั้น นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ต้องหันกลับมารีเช็กกับตัวเองบ้างแล้วเหมือนกันว่ารางวัลของการเป็นยอดนักสืบที่ได้มานั้นมัน ‘คุ้มค่า’ จริงใช่ไหม&nbsp;อ้างอิง<a href="https://www.vice.com/en/article/qjvaqm/rebecca-syndrome-explained-therapist" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.vice.com/en/article/qjvaqm/rebecca-syndrome-explained-therapist</a><a href="https://www.tiktok.com/@psychlessons4u/video/7330415003918535978?q=rebecca%20syndrome&t=1708031369156" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.tiktok.com/@psychlessons4u/video/7330415003918535978?q=rebecca%20syndrome&amp;t=1708031369156</a><a href="https://www.vogue.co.uk/article/rebecca-syndrome#:~:text=The%20psychological%20phenomenon%20–%20which%20has,never%20live%20up%20to%20her." rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.vogue.co.uk/article/rebecca-syndrome#:~:text=The%20psychological%20phenomenon%20–%20which%20has,never%20live%20up%20to%20her.</a>

หายใจลึกๆ แล้วดึงสติ! กับ Aromatherapy 
กลิ่นหอมสมุนไพรที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาอยู่จุดศูนย์กลางอีกครั้ง

เราเริ่มได้ยินคนรุ่นใหม่ที่กำลังอยู่ในวัยเริ่มต้นทำงานพูดคล้ายๆ กันมากขึ้นว่า พวกเขารู้สึกถึงความเหนื่อยล้า ขาดแรงจูงใจ หมดความสนใจ ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ใช่การบ่นเรื่อยเปื่อยโดยไม่มีสาเหตุ แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของ ‘ภาวะหมดไฟ’ (Burnout) ซึ่งกำลังค่อยๆ คืบคลานมาสู่คนทำงานเจนฯ Z อย่างน่าเป็นห่วง  

ชวนมอง 3 ปัจจัยที่ทำให้คนทำงานเจนฯ Z 
เผชิญภาวะ Burnout เร็วกว่าคนเจนฯ อื่น

“ไม่มีอะไรจะใส่เลย” คือคำพูดยอดฮิตของใครหลายคน เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้า เตรียมตัวออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ใด ที่ต้องเร่งรีบไปพบลูกค้า ไปออกเดต ไปเยี่ยมญาติ หรือไปเที่ยวกับเพื่อนสาว แม้ว่าเสื้อผ้าในตู้มีจำนวนเพียงพอให้ใส่ได้ตลอดทั้งปีก็ตาม

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Relationship

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS