ทำยังไงดี ถ้าพ่อแม่แฟนไม่ชอบเรา? ไม่ว่าจะปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ / ลูกเขยไม่ถูกกับครอบครัวอีกฝ่าย หรือไม่ต้องถึงขั้นแต่งงาน แต่แค่พ่อแม่แฟนไม่ชอบเรา หรือพ่อแม่เราไม่ชอบแฟนเรา นับเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของใครหลายคน

ทำยังไงดี ถ้าพ่อแม่แฟนไม่ชอบเรา? ปัญหาโลกแตกเมื่อครอบครัวคนรักมีอิทธิพล ต่อความสัมพันธ์ และท็อกซิกกับใครหลายคน

ทำยังไงดี ถ้าพ่อแม่แฟนไม่ชอบเรา? ไม่ว่าจะปัญหา<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/Mother" rel="noopener noreferrer" target="_blank">แม่</a>ผัวลูกสะใภ้ / ลูกเขยไม่ถูกกับครอบครัวอีกฝ่าย หรือไม่ต้องถึงขั้นแต่งงาน แต่แค่พ่อแม่แฟนไม่ชอบเรา หรือพ่อแม่เราไม่ชอบแฟนเรา นับเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของใครหลายคนเป็นแน่ ยิ่งในบริบทสังคมที่มีกรอบความคิดเรื่องการที่พ่อแม่มีสิทธิ์ในตัวลูก หรือฟิคไทป์ลูกสะใภ้ ลูกเขย หรือคนรักของลูกตัวเองไว้แล้วอย่างแข็งเกร็ง ว่าต้องเป็นแบบไหน ปัญหานี้ยิ่งเกิดได้ง่ายเข้าไปอีก การรู้จักพ่อแม่อีกฝั่งไว้ มันมีข้อดีแน่นอน เพราะเราจะได้รู้จักโลกของแฟนเรามากขึ้น และทำให้รู้ว่าครอบครัวของเขาเป็นคนแบบไหน เป็นมิตร หรือปฏิบัติต่อเราอย่างไร ซึ่งส่วนนี้ในบางคนอาจจะเป็นข้อทบทวนว่าจะเดินไปทางไหนต่อใน<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ความสัมพันธ์</a>ได้เลย คู่ไหนราบรื่น ครอบครัวเขาชอบเรา หรือแม้จะไม่ชอบก็ไม่ก้าวก่าย หรือล้ำเส้นความสัมพันธ์ แบบนี้ก็คงจะดีไป ไม่มีปัญหา แต่คู่ไหนมีปัญหา เจอพ่อแม่อีกฝ่ายไม่ชอบ อันนี้สิปัญหาโลกแตก และเชื่อว่าหลายคนถึงขั้นเครียด “ครอบครัวที่รับมือยากสามารถเป็นปัญหาใหญ่ในความสัมพันธ์ได้เลย” เอมี ฮาร์ทสไตน์ (Aimee Hartstein) นักบำบัดด้านความสัมพันธ์กล่าว ซึ่งก็ถูกของเธอ เพราะการที่เราบอกว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่แบบนั้น และอาจเกิดขึ้นได้ยากในหลายๆ คู่ เพราะการพาแฟนไปให้พ่อแม่รู้จัก หรือตัวเราเองต้องไปทักทายพ่อแม่ของอีกฝั่ง ดูจะเป็นเรื่องที่เป็นขนบของสังคมส่วนใหญ่ และเป็นส่วนที่ทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์โดยตรง ยกเว้นคู่ไหนที่สามารถตกลงกันได้ว่าจะไม่ทำตามขนบนี้ อันนี้ก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่งไปเลย โอเค ถ้านานๆ ไปเจอพ่อแม่แฟนที บางคนอาจไม่กระอักกระอ่วนมาก แม้รู้ว่าเขาไม่ชอบ เพราะถือว่าไม่ได้เจอกันบ่อยๆ แต่ถ้าพ่อแม่แฟนเริ่มมีอิทธิพลบางอย่างที่กระทบใจเรามากเข้า ต้องไปเจอเขาบ่อยๆ หรือแม้จะไม่บ่อย แต่ทุกครั้งที่ไป มีแต่เรื่องทำให้เรารู้สึกบั่นทอนใจ ตรงนี้คือสัญญาณของปัญหา และคุณควรพูดออกไป แต่จะพูดอย่างไร? “หากคุณรู้สึกว่าครอบครัวของแฟน ทรีตคุณไม่ดี หรือสร้างปัญหาในความสัมพันธ์ของคุณ คุณควรมีตัวอย่างที่เคลียร์ และแจ้งให้แฟนทราบทันที” ฮาร์ทสไตน์แนะนำ ซึ่งเธอย้ำว่า “เขาอาจเห็นหรือไม่เห็นสิ่งที่ทำให้คุณไม่พอใจ แต่คุณควรพูดออกไปให้เคลียร์ หากเคลียร์พอแล้ว สเตปถัดไปคือการทำให้ครอบครัวฝั่งนั้นรู้ว่าพฤติกรรมบางอย่างของเขามันไม่โอเค สมาชิกในครอบครัวจำเป็นต้องรู้ว่าคุณเป็นคนสำคัญในชีวิตของพวกเขา และพวกเขาต้องสุภาพและให้เกียรติ” ซึ่งแน่นอนว่า การจะพูดออกไปแบบนี้ ต้องผ่านการปรึกษากับแฟนเรียบร้อยแล้ว และน้ำเสียงที่ใช้พูดออกไปอาจจะต้องระวังเรื่องความอ่อนไหวหลายอย่าง เพราะอย่าลืม พวกเขาเป็นพ่อแม่ของแฟนเรา หากคุณต้องการจะไปต่อกับแฟนในระยะยาว อาจต้องใช้เหตุผลนำอารมณ์ในการพูด” “มันดีจริงๆ นะ ที่ได้พูดคุยกันล่วงหน้าให้ชัดเจนว่าความคาดหวังคืออะไร และรู้ว่าคู่ของคุณคอยสนับสนุนคุณอยู่หรือไม่” เคท สจ๊วต (Kate Stewart) นักจิตบำบัดกล่าว เพราะอย่างที่เราบอกไปว่า หากเราพูดเรื่องอึดอัดใจที่พ่อแม่แฟนกระทำไม่ดีกับเราให้แฟนฟัง แล้วแฟนดูเหมือนจะ ‘ไม่กล้า’ ปกป้องเรา เพราะไม่อยากทะเลาะกับที่บ้าน วางตัวเหนือปัญหา แบบนี้ นอกจากปัญหาจะไม่ถูกแก้ คุณอาจจะต้องเก็บมานั่งคิดแล้วล่ะ ว่าคนคนนี้เวิร์กจริงไหม ที่ปล่อยให้เราเครียดคนเดียว คล้ายๆ กับความเห็นของนักจิตวิทยา ดร.พอลเล็ตต์ เชอร์แมน (Paulette Sherman) ที่บอกว่าหากมันชัดแล้วว่าแฟนของคุณ ปล่อยให้ครอบครัวของเขาหรือเธอไม่ให้เกียรติคุณต่อไป “นี่อาจเป็นรสชาติเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งที่อาจจะเป็นไปตลอดชีวิต” เพราะหากคุณเลือกแล้วว่าจะใช้ชีวิตกับคู่ของคุณที่มีพ่อแม่น่าปวดหัว คุณก็คงต้องเจอเรื่องน่าปวดหัวต่อไป หากไม่ได้รับการแก้ไข คงไม่มีใครอยากจะอยู่ในสถานการณ์บังคับให้แฟนเลือกระหว่างพ่อแม่ของเขากับตัวเรา เพราะมันเป็นการตัดสินใจที่กดดัน และท็อกซิกประมาณหนึ่ง เราทำได้มากที่สุดแค่ปรับจูนเข้าหากัน และแฟนของคุณต้องฟังปัญหาที่เกิดขึ้น แม้เขาจะไม่ได้เห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อแม่ทำ หรือกลับกันไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่พ่อแม่ทำนั้นเป็นปัญหา (ในมุมมองความเป็นลูก) แต่เขาก็ต้องชัดเจนว่า ว่าซัพพอร์ต และอยู่ข้างๆ คุณ เพราะถ้าไม่ นั่นแปลว่า เขากำลังทิ้งให้คุณต้องจมอยู่กับความรู้สึกนั้นคนเดียว แบบไร้ทางออก ไม่ว่าครอบครัวฝั่งนั้นจะไม่ชอบเราเพราะ ไม่ตรงตามมาตรฐานบางอย่าง เช่น หน้าตาไม่ตรง ลุคไม่ตรง ถ้าในผู้หญิงบางคนอาจไม่ใช่กุลสตรีอะไรตามที่ผู้ใหญ่ชอบ หรือบางคนอาจมีเรื่องของนิสัยบางอย่างที่ผู้ใหญ่ไม่ชอบ ซึ่งหากตัวเราเอง หันมองตัวเองอีกทีว่านิสัยนั้นมีปัญหาจริงไหม แล้วปรับแก้ บางทีการเปิดใจรับฟังก่อนก็อาจทำให้เราได้ปรับปรุงตัวไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าความเป็นตัวเรานั้น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อความสัมพันธ์ ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อชีวิตใคร เป็นเพียงสิ่งที่เขาไม่ชอบเราไปเอง…คุณก็ไม่จำเป็นต้องปรับอะไรให้ใครมาชอบ และถ้าแฟนของคุณไม่อยู่ข้างคุณ ขอให้คุณทนต่อไปอย่างไร้จุดหมาย หนทางเดียวที่อาจทำได้ถ้าคุณไม่ได้แข็งแกร่งพอทางด้านจิตใจที่จะสู้รบกับปัญหาดังกล่าว อาจเป็นการโบกมือลา และหันกลับมารักตัวเอง อย่างไรก็ตาม ลองปรับจูน ลองสื่อสารกับคนรักด้วยเหตุผล ไม่แน่ ปัญหาที่เผชิญอยู่อาจคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นก็ได้ อ้างอิง: <a href="https://www.brides.com/story/how-talk-partner-about-difficult-family" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.brides.com/story/how-talk-partner-about-difficult-family</a> <a href="https://www.refinery29.com/en-us/partners-parents-dont-like-me-disapprove-what-to-do" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.refinery29.com/en-us/partners-parents-dont-like-me-disapprove-what-to-do</a> <a href="https://www.thezoereport.com/wellness/should-you-break-up-with-someone-because-of-their-family-21715145" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.thezoereport.com/wellness/should-you-break-up-with-someone-because-of-their-family-21715145</a>

นิว-นภัสสร ภูธรใจ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “เป๊กอะ กดดันนิวนะ เธออย่าอ้วน อย่าเผละนะ นิวบอกใจเย็น นี่ 3 เดือนอยู่เลย ให้โอกาสนิดนึง รอก่อนนะ” ประโยคที่เจ้าตัวพูดด้วยน้ำเสียงขำๆ แต่ก็ทำเอาชาวเน็ตหลายคนรู้สึกตหงิดใจจนเกิดเป็นดราม่าเล็กๆ 

“อย่าอ้วน อย่าเผละนะ!” แรงกดดันที่สังคมและคนใกล้ตัว มีต่อแม่หลังคลอด ให้กลับมาหุ่นเฟิร์ม หุ่นเป๊ะโดยเร็ววัน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพจิตของแม่ๆ หลายคน เพราะแค่เลี้ยงลูกก็หนักแล้ว ยังต้องกังวลเรื่องรูปร่างอีก

การคุกคามทางเพศในที่ทำงานยังคงเป็นเรื่องใหญ่ที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกองค์กร อย่างเช่น กรณีหน่วยงานด้านสาธารณสุข ในอังกฤษเมื่อเร็วๆ นี้ ที่มีรายงานออกมาว่าเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติที่ทำงานด้านการดูแลผู้ป่วย ถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่มีใครกล้าปริปากพูด ด้วยความกลัวว่าจะเสียวีซ่าทำงาน และสุดท้ายจะทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบาก เพราะเป็นเพียงแรงงานชาวต่างชาติ

แรงงานต่างชาติในอังกฤษจำนวนมาก ถูกนายจ้างล่วงละเมิดทางเพศ แต่หลายคนกลับไม่สามารถร้องเรียน เพราะกลัวถูกเพิกถอนวีซ่า

ชาวออสเตรเลียหลายคนต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการป้องกัน และปรับเปลี่ยนกฎหมายให้แข็งแรงขึ้น เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ในออสเตรเลียมีผู้หญิงที่เสียชีวิตจากความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศเฉลี่ยอยู่ที่ 4 คนต่อวัน

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Relationship

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS