ระเบิดความรักที่ทิ้งไว้ในใจ ทำให้หลายคนรู้สึกขาดเขาไปไม่ได้ แม้เขาจะทำตัวแย่ภายหลัง

Love Bombing ทุ่มทำดี ประเคนคำหวาน จัดโปรโมชันเยอะๆ ให้หลงหัวปักหัวปำ เพื่อใช้เป็นเกราะกำบังเวลาทำแย่ๆ ใส่

โมเมนต์หวานชื่นในช่วงแรกๆ ที่คบกัน หรือที่บางคนเรียกว่าช่วงโปรโมชัน ซึ่งอีกฝ่ายดูแลเอาใจใส่ดีประหนึ่งเราเป็นเจ้าหญิง/เจ้าชาย ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม คอยหยอดคำพูดชวนใจเต้น ทำเซอร์ไพรส์ถูกใจแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน และกับบางคนการกระทำเหล่านั้นของแฟนช่างทำให้เคลิ้มตาม พลอยรู้สึกโชคดีที่มีเขาจัง จนกระทั่งเดินทางมาถึงวันสิ้นสุดโปรโมชัน เขาเปลี่ยนไปเป็นอีกคน คอยชี้นิ้วบงการชีวิตเรา พอทำผิดทีก็อ้างว่าที่ผ่านมาไม่เห็นความทุ่มเทของเขาเหรอ รับบทโศก น้อยใจในโชคชะตา ราวกับกำลังทวงบุญคุณ และทำให้เราออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้ ซึ่งบางทีแล้ว เบื้องหลังช่วงโปรฯ ที่คนเขาพูดกัน มันอาจจะเป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใครบางคนใช้มันควบคุมอีกฝ่ายภายใต้ระเบิดความรักตู้มต้าม ที่ทิ้งไว้ในใจก่อนหน้า และทำให้หลายคนรู้สึกขาดคนคนนี้ไปไม่ได้ เพราะคิดไปเองว่าคงหารักครั้งใหม่ที่ดีเหมือนเขาไม่ได้แล้ว และนี่คือ&nbsp;‘Love Bombing’&nbsp;พฤติกรรมการวางระเบิดความรักที่ทำดีด้วยเท่าไร ก็หวังให้อีกฝ่ายจดจำมันไว้เพื่อทดแทนเวลาทำตัวไม่ดี ที่บางคนอาจเป็นโดยรู้ตัว หรือไม่รู้ตัวว่ามันไม่ดี แต่ก็ทำไปแล้วเพราะมันได้ผลลัพธ์อะไรบางอย่างในความสัมพันธ์ นักบำบัด ซาช่า แจ็กสัน (Sasha Jackson) อธิบายว่าคาแรกเตอร์ของพฤติกรรม love bombing คือใช้ความสนใจ ความชื่นชม และความเสน่หา ในปริมาณมากๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ผู้รับรู้สึกพึ่งพา และผูกมัดไว้กับคนคนนั้น แจ็กสันยังเสริมอีกว่า “ในฐานะผู้รับ love bombing ทำให้รู้สึกดีจริงๆ เพราะว่าคุณจะได้รับโดปามีน และเอ็นดอร์ฟินเพิ่มขึ้น คุณจะรู้สึกพิเศษ เป็นที่ต้องการ ถูกรัก มีคุณค่า และรู้สึกคู่ควร เหล่านี้เป็นองค์ประกอบทั้งหมดที่ช่วยเพิ่ม self-esteem” จากคนที่อยากมีโมเมนต์พาแฟนไปกินข้าวกับเพื่อน love bomber ก็จัดให้ จากคนที่ไม่เคยถูกแฟนชมเลยสักครั้ง love bomber ก็คอยชมเรื่อยๆ ไปเลยแบบเต็ม จากคนที่หวังให้แฟนแบกดอกไม้มาง้อน่ารักๆ love bomber ได้กลายเป็นคนแรกที่ทำแบบนั้น และยังมีพฤติกรรมอีกมากมายที่ทำให้คุณยืนยันกับตัวเองว่า นี่คือ right time, right person ที่รอคอยมานาน แต่เบื้องหลังเราไม่รู้เลยว่า คนที่เป็น love bomber ไม่ได้ทำดีกับคุณฟรีๆ เขาต้องการข้อแลกเปลี่ยน “ถ้ามีคนให้บางสิ่งบางอย่างกับคุณ คุณจะรู้สึกว่าติดหนี้บางอย่างกับเขา อาจจะเท่ากัน หรือมากกว่าที่จะใช้ตอบแทน ดังนั้น หากคนรักมอบความรัก และความเอาใจใส่อย่างล้นหลาม คุณก็อาจรู้สึกว่า ฉันต้องแสดงพฤติกรรม อุทิศตน หรือภักดี เป็นการตอบแทน แม้ว่าคุณจะประสบกับสัญญาณแดง หรือ red flags เข้าแล้ว” แจ็กสันกล่าว Red flags ที่ว่าอาจมาในส่วนของพฤติกรรมที่คุณไม่ชอบในตัวเขา แต่มันสามารถหักลบกับความดีที่เขาทำมาก่อนหน้า เพราะคุณเลือกจะเชื่อว่าเขามีดี และเขาเป็นคนที่ดีที่สุดที่เคยมีมา ลึกๆ แล้วอาจเกิดจากความกลัวที่จะไม่เจอความรักที่ดีแบบนี้อีก แต่เราอยากจะบอกว่า ความรักที่ดีต้องไม่ทำให้เราอึดอัดใจหรือทุกข์ทรมานนะ ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าแล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคนคนนี้เป็น love bomber เพราะฟังดูแล้วมันก็แยกยากว่าเขาทำดีด้วยจริงๆ หรือทำดีหวังผล ซึ่งมันก็ยังพอมีวิธีสังเกตการณ์อยู่บ้าง ในมุมมองของนักจิตวิทยาคลินิก ดร.เอเลน่า เวลช์ (Elena Welsh) คิดว่า “บางครั้งผู้คนก็มีเจตนาดีจริงๆ และแสดงออกมากถึงความรักใคร่เพียงเท่านั้น หรือบางทีเขาอาจจะมีแนวโน้มของการโหยหากัน ซึ่งผลักให้พวกเขาต้องการใช้เวลาอย่างเพียงพอกับการให้ความสนใจต่อความรักครั้งนี้” แต่สัญญาณเตือนมันจะมาในรูปแบบของพฤติกรรมหรือท่าทีเชิงลบที่คอยชักใยเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ดร.เวลช์เสริมว่า หากคุณบอกความต้องการ หรือขอบเขตในความสัมพันธ์อย่างชัดเจน เช่น ฉันยังไม่อยากมีเซ็กซ์ตอนนี้ แต่ถูกละเลยด้วยประโยคแนวๆ “คุณสวยมาก ผมควบคุมตัวเองไม่ได้” นั่นก็เป็นสัญญาณว่าเขาพยายามจะพูดทุกอย่างที่คุณอยากได้ยินเพื่อคุมเกมความสัมพันธ์ แม้คุณจะไม่ได้อยากยินยอมจริงๆ และเราจะเห็นหลายๆ คนที่พอเลือกปฏิเสธเสียงแข็งในสิ่งที่เขาต้องการ แฟนที่เป็น love bomber ก็จะทำท่าทีถอยห่าง มาถึงตรงนี้คุณอาจจะรู้สึกผิดกับเขาขึ้นมา หรือเขาทำท่าทีโกรธคุณ เหมือนคุณไปทำอะไรผิดมา ทั้งๆ ที่นั่นคือสิทธิในร่างกาย ไปจนถึงการควบคุม ข่มขู่ หรือใช้ความรุนแรงทางวาจา หรือทางกายกับคุณได้เหมือนกัน บางที love bomber ก็ต้องการพรากอิสระในตัวคุณมาไว้ที่เขา และอยากให้คุณสนใจแต่เขาคนเดียว โดยไม่สนว่าแฟนจะมีสังคมภายนอกอย่างไรบ้าง ง่ายๆ เลย คือใช้นิสัยงี่เง่า และอ้างว่า ‘คลั่งรัก’ มาควบคุมพฤติกรรม คิมเบอร์ลี่ เพอร์ลิน (Kimberly Perlin) นักสังคมสงเคราะห์ในแมรี่แลนด์ กล่าวกับ SELF ว่า หากคู่ของคุณรู้สึกถูกดูหมิ่นเมื่อคุณกำลังมีความสุข หรือสนุกสนานกับชีวิตโดยไม่มีเขา หรือบอกเป็นนัยว่าคุณกำลังไม่ให้เกียรติเขา ถ้าคุณไม่ยอมบอก ‘ตลอดเวลา’ ว่าทำอะไรอยู่ นั่นถือเป็นธงแดงที่เขาพยายามจะดึงคุณออกจากอิสระ เรามองว่าแฟนที่ดีจะมารู้สึกแย่ที่แฟนมีความสุขกับเพื่อนฝูง หรือกิจกรรมส่วนตัวทำไมนะ ถูกไหมล่ะ? เพอร์ลินยังเสนออีกแง่มุมว่า บางครั้งการบงการชีวิตก็มาในรูปแบบการให้ ‘ของขวัญ’ ที่เกินความคาดหมาย เว่อร์วัง และอาจทำให้คนได้รับรู้สึกไม่สบายใจที่จะรับมัน แต่ในใจก็จะคิดว่าเขาทุ่มเทให้เราจังเลยนะ หรือแม้กระทั่งการซื้อเสื้อผ้า หรือเครื่องสำอางที่บางทีเราอาจจะไม่ชอบ หรืออยากสวมใส่มันให้ แต่เพราะความคิดที่ว่า เขาอุตส่าห์ซื้อให้เลยนะ ทำให้หลายคนฝืนตัวเองที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ “ของขวัญเหล่านั้นกลายเป็นความคาดหวังอย่างรวดเร็ว พวกเขาถูกถามว่า ทำไมถึงเลือกชุด หรือแต่งหน้าในแบบที่แฟนไม่ได้เลือก” เพอร์ลินกล่าว ซึ่งมันก็สะท้อนว่าบางทีเราอาจถูกชักใยผ่านของขวัญที่แฟนซื้อมาฝากได้ เช่น สมมติ แฟนซื้อชุดนอนไม่ได้นอนมาให้ใส่ และบอกว่า “ผมอยากเห็นคุณใส่ชุดนี้จัง” ทั้งๆ ที่คุณอาจจะไม่ชอบชุดนั้นมากๆ แต่เพื่อตอบสนองอารมณ์ทางเพศของแฟน คุณอาจจะเลือกทำมัน แม้คุณจะอึดอัดก็ได้ Love bombing ยังเป็นวัฏจักรของการคุกคาม และทำให้อีกฝ่ายรู้สึก ‘ตายรัง’ เหมือนคนติดยา ที่เลิกยาไม่ได้ เหมือนเดินเข้าไปในเขาวงกตแล้วหาทางออกไม่ได้ เพราะ ‘หลง’ ลอรี นิกสัน เบเทีย (Lori Nixon Bethea) เจ้าของ Intentional Hearts Counseling Services บอกว่า “เมื่อเป้าหมายติดงอมแงม love bomber ไม่เพียงแต่ควบคุมจิตใจ หรือหัวใจอย่างเดียว แต่ยังเพิ่มพูนอีโก้ของตัวเอง” อีโก้ที่ว่าอาจเกิดขึ้นตอนเกิดการทะเลาะกัน “เมื่อ love bomber อาจเริ่มถอนตัวจากความสัมพันธ์โดยการเริ่มทำร้ายคู่ของตนด้วยอารมณ์ พวกเขาอาจโจมตี ดูถูก ปั่นหัว และทำให้แฟนรู้สึกอ่อนแอ และไม่มีค่า เพราะเขาตระหนักดีว่าสามารถควบคุมแฟนของตนได้ และในที่สุดแม้จะทำทีเดินออกจากความสัมพันธ์ไป ก็จะรู้อยู่แล้วว่า สามารถกลับเข้าไปได้ทุกเมื่อ” เบเทียเสริม คำหวานเคลือบน้ำตาลที่แฝงมีดคมๆ ไว้ด้านในจะคอยทิ่มแทงใจคุณอยู่เรื่อยๆ การกระทำอ่อนโยนที่เขาเคยทำ ถูกใช้เป็นเกราะกำบังเวลาทำเรื่องแย่ๆ “ที่ผ่านมา เราไม่เคยทุ่มเทให้เธอเลยเหรอ” / “ที่ผ่านมา เราไม่เคยใส่ใจเธอเลยหรือไง” / “ทำไมไม่มองบ้างว่าที่ผ่านมาเรารักเธอแค่ไหน”…แต่ที่ผ่านมา มันไม่ใช่วันนี้ ตอนนี้ เวลานี้ที่สามารถลบเรื่องไม่ดีที่ทำให้กันวันนี้ได้ยังไงล่ะ หากวันนี้คุณรู้สึกแย่กับตัวเองเวลาที่คบกับเขา และรู้สึกไม่อยากทำในสิ่งที่แฟนคุณต้องการ แต่ยังมีกำแพงว่า ที่ผ่านมาเขาทุ่มเทให้กันตลอด จนทำให้เดินออกมาไม่ได้ เราไม่ขอด่วนสรุปให้คุณเดินออกมาทันที แค่อยากยื่นมือเข้าไปปลอบใจว่า ค่อยๆ พิจารณาความสัมพันธ์ครั้งนี้ และแม้จะมี หรือไม่มีเขาอยู่ในชีวิต คุณยังมีคุณค่าเสมอ อ้างอิง: <a href="https://www.cosmopolitan.com/sex-love/a26988344/love-bombing-signs-definition/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.cosmopolitan.com/sex-love/a26988344/love-bombing-signs-definition/</a>&nbsp; <a href="https://www.self.com/story/love-bombing-signs" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.self.com/story/love-bombing-signs</a> &nbsp;

For the Love of Men: From Toxic to a More Mindful Masculinity (2019) คือหนังสือของ ลิซ แพลงค์ (Liz Plank) ที่ได้รับความชื่นชมอย่างหนาหู ว่าเป็นหนังสือที่อ่อนโยน เข้าอกเข้าใจและพูดถึงความเป็นชายอันแสนเป็นพิษโดยปราศจากท่าทีเหมารวม

Liz Plank นักเขียนเฟมินิสต์ผู้ยืนยันว่า Toxic Masculinity ก็ทำร้ายผู้ชายเช่นกัน

นักศึกษาหญิง ปี 3 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงมือปาดคอและแทงแฟนหนุ่มนักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยเดียวกัน ด้วยมีดปอกผลไม้บริเวณหอพัก จนบาดเจ็บสาหัส โดยทำไปเพราะโดนบอกเลิก และจับได้ว่าแฟนนอกใจ

จะโดนบอกเลิก หรือโดนนอกใจ ก็ไม่ได้แปลว่ามีสิทธิ์ฆ่าหรือทำร้ายคนรัก กรณี นักศึกษาหญิงใช้มีดปาดคอแฟนหนุ่ม
จนบาดเจ็บสาหัสบริเวณหอพัก

กำลังเป็นที่ฮือฮาในประเทศจีนอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อภาพการออกแบบสถานีรถไฟหนานจิงเหนือ (North Nanjing) ในเมืองหนานจิง ประเทศจีน ในรูปแบบม็อกอัป ถูกเผยแพร่ออกมาให้ชมกัน ที่ทำเอาคนจีนพูดเป็นเสียงเดียวกันบน Weibo ว่า นี่มัน ‘ผ้าอนามัยยักษ์’ ชัดๆ!

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Relationship

Love Bombing ทุ่มทำดี ประเคนคำหวาน จัดโปรโมชันเยอะๆ ให้หลงหัวปักหัวปำ เพื่อใช้เป็นเกราะกำบังเวลาทำแย่ๆ ใส่

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS