ตอนที่เรายังเด็ก การทำความรู้จักเพื่อนใหม่สักคนอาจเริ่มต้นแค่ชวนกันออกไปเล่นสนุก เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่ออกไปทำความรู้จักคนใหม่ๆ เท่านั้นที่ยาก ไหนจะยังต้องรักษาความสัมพันธ์ของกันและกันให้อยู่รอดต่อไปอีก 

ยิ่งโตยิ่งหาเพื่อนใหม่ยาก เพราะการเชื่อใจใครสักคน คือความท้าทายครั้งใหญ่

ตอนที่เรายังเด็ก การทำความรู้จักเพื่อนใหม่สักคนอาจเริ่มต้นแค่ชวนกันออกไปเล่นสนุก เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่แค่ออกไปทำความรู้จักคนใหม่ๆ เท่านั้นที่ยาก ไหนจะยังต้องรักษาความสัมพันธ์ของกันและกันให้อยู่รอดต่อไปอีก สำหรับบางคนไม่ใช่ภารกิจที่ทำกันได้ง่ายๆ เลย บางทีการเลือกอยู่ลำพังคนเดียว อาจง่ายกว่าด้วยซ้ำ! &nbsp;&nbsp;หลายคนอาจบอกว่าเพื่อนเก่าคือสิ่งมีค่าที่สุด แล้วไยต้องดิ้นรนหาเพื่อนใหม่ด้วย ความจริงข้อนี้ก็ถูกต้อง แต่ถ้าหากลองหันไปดูเพื่อนเก่าของเราแต่ละคน ที่ต่างเติบโตกันไปตามทางของตัวเอง บางคนวุ่นอยู่กับการเลี้ยงลูก บางคนยุ่งกับหน้าที่การงาน บางคนย้ายที่อยู่ ยิ่งเมื่ออยู่ในยุคโควิด-19 ที่บังคับให้เราต้องยิ่ง ‘ห่าง’ จากสังคมที่เคยรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ครอบครัวไปโดยปริยาย ด้วยปัยจัยต่างๆ เหล่านี้นี่เองที่ทำให้ความรู้สึก ‘ว้าเหว่’ ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ และมันอาจอันตรายกว่าที่คิด&nbsp;เว็บไซต์ The conversation ได้เปิดเผยงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ระบุว่า ความเหงาในสังคมปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยผู้ใหญ่ ไม่เพียงส่งผลต่อสภาพจิตใจที่ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและอัตราการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้น แต่ยังส่งผลต่อพฤติกรรม เช่น การใช้สารเสพติด การดื่มเเอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ในปริมาณมาก และการกินผิดปกติ ที่อาจนำมาซึ่งสาเหตุของโรคร้ายและการเสียชีวิตได้&nbsp;หากว่าความเหงาทั้งน่ากลัวและอันตรายขนาดนี้ แล้วเหตุผลอะไรกันที่ทำให้คนในวัยผู้ใหญ่ยังลังเลที่จะทำความรู้จักเพื่อนใหม่อยู่อีกละ&nbsp;นั่นอาจเพราะการจะเชื่อใจใครสักคน = ความท้าทายครั้งใหญ่&nbsp;ผลสำรวจจาก Australian Institute of Health and Welfare พบว่า เกินครึ่งของประชากรชาวออสเตรเลียต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวมากขึ้นตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 เมื่อนักวิจัยถามกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนในวัยผู้ใหญ่เหล่านั้นว่า อะไรคือความท้าทายของพวกเขาในการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ คำตอบที่ได้ก็คือ ‘ความไว้ใจ’ เพราะเป็นเรื่องยากที่จะไว้เนื้อเชื่อใจคนที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ เมื่อเทียบกับตอนที่พวกเขาอยู่ในวัยหนุ่มสาว นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมหลายคนถึงเลือกจะรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนเก่าให้นานที่สุดมากกว่าจะทำความรู้จักเพื่อนใหม่นั่นเอง&nbsp;&nbsp;และผลสำรวจยังพบว่า ผู้หญิงจะมีปัญหาเรื่องความเชื่อใจมากกว่าผู้ชายในการทำความรู้จักเพื่อนใหม่อีกด้วย&nbsp;อีกเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้การมีเพื่อนใหม่เป็นเรื่องยาก คือการที่คนวัยผู้ใหญ่นั้นมี Self-awareness มากขึ้นตามวันและวัย ซึ่งข้อนี้ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้พวกเขาระวังตัวมากขึ้น ไม่กล้าเสี่ยงที่จะถูกตัดสินหรือถูกปฏิเสธจากผู้อื่น และอาจนำมาซึ่งความเจ็บปวดหรือรู้สึกอกหักในภายหลัง ยิ่งถ้าหากใครเคยมีประสบการณ์การถูกปฏิเสธหรือถูกหักหลังที่ทำให้สูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจด้วยแล้ว การทำความรู้จักคนใหม่ๆ ยิ่งเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก&nbsp;&nbsp;การจะไว้ใจใครสักคนจึงอาจเริ่มต้นจากต่างฝ่ายต่าง ‘เปิดใจ’ ให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อยซึ่งกันและกันก่อน&nbsp;&nbsp;และแน่นอนว่า การจะเป็นเพื่อนกันนั้นต้องใช้เวลา ไม่ใช่แค่ขาดความไว้ใจเท่านั้นที่เป็นปัญหาของคนวัยผู้ใหญ่ในการทำความรู้จักกัน แต่การขาด ‘เวลา’ ก็เป็นปัญหาไม่น้อย&nbsp;&nbsp;เป็นธรรมดาที่คนวัยผู้ใหญ่จะยุ่งกับตารางงาน ครอบครัว ชีวิตคู่ หรือสิ่งต่างๆ ในชีวิต สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนลดน้อยถอยลงไปด้วย อายุเพิ่มมากขึ้นเท่าไร ภาระในชีวิตของแต่ละคนก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่การทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนยุคนี้จะมีเวลามากพอสำหรับจะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป&nbsp;ยิ่งถ้าพูดถึงสถานะ ‘เพื่อนสนิท’ ยิ่งต่างจากคนรู้จักทั่วไปตรงที่ต้องใช้เวลาไม่น้อยในการสร้างความสัมพันธ์ นักวิจัยในสหรัฐฯ ได้ทำการพิสูจน์ความจริงข้อนี้และพบว่า คนส่วนใหญ่จะใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมง ในการจะเปลี่ยนจากสถานะคนรู้จักมาเป็น ‘เพื่อนทั่วไป’ แต่ยังไม่ใช่เพื่อนสนิท แล้วถ้าถามว่าจะเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนทั่วไปมาเป็นเพื่อนสนิทต้องใช้เวลาเท่าไร คำตอบคือ มากกว่า 200 ชั่วโมงเลยทีเดียว!&nbsp;&nbsp;ถึงอย่างนั้นเรื่องของเวลาก็ไม่ใช่ข้อสรุปทั้งหมดที่จะบอกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจะพัฒนาได้ดีหรือไม่ แต่เป็นการใช้เวลาด้วยกันอย่างมี ‘คุณภาพ’ ต่างหากที่สำคัญกว่าเป็นเหตุผลว่าทำไมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานที่เจอกันอยู่ทุกวัน หรือคนที่ต้องติดต่อประสานงานกันเป็นประจำ เป็นความสัมพันธ์ที่อาจใช้คำว่า ‘เพื่อน’ ไม่ได้เต็มปากนักสำหรับคนวัยผู้ใหญ่ เพราะความสัมพันธ์แบบเพื่อนต้องสามารถเปิดเผยความรู้สึกส่วนตัวที่แท้จริงต่อกันได้ อาจไม่จำเป็นต้องเป็นบทสนทนาที่ลึกซึ้งมากมาย แค่หาเวลาพูดคุยสบายๆ เล่าเรื่องขำขันให้กันฟังบ้าง นั่นละที่จำเป็นสำหรับความสัมพันธ์&nbsp;การคบเพื่อนใหม่ในวัยผู้ใหญ่ยังมีกำแพงอีกมากมาย เช่น กับคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ชอบเก็บตัว เรื่องข้อจำกัดด้านสุขภาพ ความรู้สึกมั่นคงส่วนบุคคล ไปจนถึงความกังวลเรื่องภาพลักษณ์ของตัวเองที่ทำให้ไม่สามารถเปิดใจรับคนใหม่ๆ ได้ ผลสำรวจยังเผยว่า คนสูงวัยมักจะมีข้ออ้างเรื่องของความเจ็บไข้และขีดจำกัดด้านสมรรถภาพร่างกาย ที่ทำให้การออกไปเจอผู้คนเป็นเรื่องยาก ในขณะที่คนอายุน้อยกว่าจะมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมและความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ&nbsp;แล้วจะทำอย่างไรให้การทำความรู้จักเพื่อนใหม่เป็นเรื่องง่ายขึ้น?&nbsp;ความโดดเดี่ยวในสังคมปัจจุบันเป็นเหมือนเชื้อร้ายที่แพร่กระจายไปทั่วก็จริง แต่มนุษย์ไม่จำเป็นต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเสมอไป ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ที่คนวัยผู้ใหญ่จะทำลายกำแพงเหล่านั้นแล้วสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่ที่ยาวนานและยั่งยืน&nbsp;&nbsp;-เพื่อนกันวันละ 10 นาที&nbsp;ไม่จำเป็นต้องออกไปเที่ยว ไปแฮงเอาต์ หรือชวนกันไปทำกิจกรรมขนาดนั้น แค่หาเวลาอย่างน้อย 10 นาทีต่อวัน แชตกันบ้าง ส่งรูป ส่งคลิปตลกๆ ไปให้เพื่อนได้หัวเราะบ้าง หรือโทรคุยถามไถ่ทุกข์สุขกันสั้นๆ บ้าง แบบที่ตัวคุณเองก็ไม่รู้สึกฝืนหรือพยายามมากเกินไป พลังและเวลาที่ใช้ร่วมกันเหล่านี้จะค่อยๆ กระชับความสัมพันธ์ของคุณและเพื่อนได้&nbsp;&nbsp;-ใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ&nbsp;เมื่อมีเวลาได้อยู่กับเพื่อน พยายามอย่าให้มีสิ่งรบกวนหากเป็นไปได้ งดไถ Facebook หรือ Instagram สักพัก แล้วกลับมาสนใจคนตรงหน้าในโลกจริง ใช้เวลาด้วยกันอย่างมีคุณภาพและคุ้มค่าที่สุด&nbsp;-อ่อนแอบ้างไม่เสียหาย&nbsp;เชื่อว่าลึกๆ แล้ว ใครๆ ก็ต่างกลัวที่จะเปิดเผยความแออ่อนหรือข้อด้อยของตัวเอง จำไว้ว่าคุณสามารถควบคุมได้ว่าจะเชื่อใจและเปิดใจให้กับเพื่อนใหม่มากน้อยแค่ไหน สำหรับคนที่มีปมเกี่ยวกับการเชื่อใจคน ก็อย่าเพิ่งเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวไปเสียทั้งหมดตั้งแต่พบกันครั้งแรก แต่ลองค่อยๆ โยนหินถามทาง เผยตัวตนทีละนิดแบบค่อยเป็นค่อยไป แน่นอนว่ามันอาจมีความเสี่ยงที่อีกฝ่ายจะไม่เก็ตในตัวคุณอยู่บ้างในตอนแรก แต่หากแสดงให้เห็นถึงความจริงใจไปเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้จะมีความหมายอย่างมากต่อความสัมพันธ์ ยิ่งต่างคนต่างเปิดใจ เปิดเผยตัวตน ยอมรับข้อดี-ข้อด้อยของตัวเองและอีกฝ่ายได้มากเท่าไร ยิ่งช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณและเพื่อนแข็งแรงยั่งยืนได้แน่นอน&nbsp;&nbsp;อ้างอิง : https://www.abc.net.au/news/2022-01-22/why-we-find-making-new-friends-so-hard-as-adults/100773416?utm_medium=social&amp;utm_content=sf252975723&amp;utm_campaign=fb_abc_news&amp;utm_source=m.facebook.com&amp;sf252975723=1&amp;fbclid=IwAR1mkiFzjUi1nN_4B0jJAj8VdYWXLKZzX5OvzGWtovNbqGiZwmQ8cBIST_Y&nbsp;https://theconversation.com/loneliness-on-its-way-to-becoming-britains-most-lethal-condition-94775&nbsp;https://www.aihw.gov.au/reports/australias-welfare/social-isolation-and-loneliness-covid-pandemic

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ ในช่วงต้นปี 2567 พบว่า สายตาที่ประชาชนหลายคนมองไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับยังมีความ ‘ไม่ไว้ใจ’ ในการทำงานของเจ้าหน้าที่อยู่มาก

ผลสำรวจปี 67 พบว่า คนไทยหวาดกลัวต่ออาชญากรรมค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อมั่นใน ‘ตำรวจ’ ทั้งยังคาดหวังให้ตำรวจตรวจสอบได้ ทำงานเร็ว และไม่เลือกปฏิบัติ ฯลฯ

ขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ในพื้นที่อย่างสถาบันการศึกษาซึ่งควรจะเปิดกว้างต่อการแสดงออกทางความคิดได้อย่างเสรีของคนรุ่นใหม่ ก็อาจกำลังเกิดประเด็นที่สร้างความขัดแย้งไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อแถลงการณ์ล่าสุดจากมหาวิทยาลัย USC ในแคลิฟอร์เนีย (University of Southern California) ประกาศยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษาประจำปีนี้ เนื่องจากตัวแทนนักศึกษาปริญญาตรีผู้กล่าวสุนทรพจน์ที่กำลังจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่าย ‘สนับสนุนปาเลสไตน์’ (Pro-Palestinian)

มหาวิทยาลัย Southern California 
ยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีจบการศึกษา เมื่อตัวแทนนักศึกษาที่จะได้ขึ้นเวที ถูกมองว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนปาเลสไตน์

‘โอรีนี ไคปารา’ (Oriini Kaipara) คือผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกในโลกที่มีรอยสักอันเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าเมารีที่เรียกว่า ‘โมโก’ หรือ ‘Moko Kauae’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวเมารี

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Relationship

ยิ่งโตยิ่งหาเพื่อนใหม่ยาก เพราะการเชื่อใจใครสักคน คือความท้าทายครั้งใหญ่

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS