แอนโทเนีย ฮอลล์ นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านเซ็กซ์และความสัมพันธ์ชาวอเมริกัน กล่าวว่าการใช้เสียงสองเสียงสามคุยกันระหว่างคนรัก เป็นสัญญาณของความใกล้ชิดสนิทสนม

การพูดเสียงสองกับคนรัก เป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เฮลธ์ตี้

“ต้าวน่ายัก กินข้าวยังงับ” “คิดถึงนุมั้ยก๊าบ” ฯลฯ อะไรทำนองนี้ ที่นอกจากแฟนของคุณแล้วก็ไม่มีใครมองว่าน่ารักอีกเลย พูดให้ใครได้ยินเขาก็แอบมองแรงไม่ก็สะกิดเพื่อนเลิกคิ้วใส่ทุกที ยิ่งถ้าคนไหนที่เสียงสองเสียงสามห่างจากเสียงแรกเวลาคุยกับเพื่อนไปมาก ก็อาจยิ่งระคายหูชาวบ้านมากเท่านั้น&nbsp;แต่ถ้ารักจะใช้เสียงสองเสียงสามแล้วก็อย่าได้ลังเล เพราะมีผู้เชี่ยวชาญเขายืนยันแล้วว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เฮลธ์ตี้จริงๆแอนโทเนีย ฮอลล์ (Antonia Hall) นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านเซ็กซ์และความสัมพันธ์ชาวอเมริกัน กล่าวว่าการใช้เสียงสองเสียงสามคุยกัน (ในที่นี้เธอใช้คำว่า baby talk) ระหว่างคนรักเป็นสัญญาณของความใกล้ชิดสนิทสนม เป็นวิธีส่งอารมณ์ด้านบวกออกไปให้คนรัก และสะท้อนถึงความต้องการทะนุถนอมอีกฝ่าย&nbsp;วิธีการพูดแบบนี้ละม้ายคล้ายคลึงกับน้ำเสียงเวลาพูดกับสิ่งที่น่ารักน่าเอ็นดู อย่างเช่นเด็กน้อย (หรือสำหรับบางคนก็สัตว์เลี้ยง ตุ๊กตา หรือใดๆ) การหยิบเอาน้ำเสียงแบบนั้นมาใช้กับคนรักก็เป็นการดึงเอาบรรยากาศของความเอ็นดูนั้นมาไว้ในความสัมพันธ์ด้วย&nbsp;ในส่วนนี้เองที่ทำให้การพูดด้วยน้ำเสียงพิเศษที่ต่างออกไป เป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เฮลธ์ตี้ เพียงแต่ว่า ไม่ใช่แค่การพูดงุ้งงิ้งใส่กันก็แปลว่าทะนุถนอมเอาใจใส่กันเป็นอย่างดี เพราะนี่เป็นเพียง ‘ส่วนหนึ่ง’ ที่ยังต้องรวมกับองค์ประกอบอื่นๆ เช่นความเข้าใจกัน การเคารพซึ่งกันและกัน หรือความสม่ำเสมอที่มีให้กัน ฯลฯ&nbsp;มีหลายคู่ที่เวลาหวานจ๋อยก็ใช้เสียงสองเสียงสาม แต่พอทะเลาะกันทีก็ตวาดลั่นหรือถึงกับลงไม้ลงมือ อะไรอย่างนี้คงไม่เรียกว่าความสัมพันธ์ที่เฮลธ์ตี้ได้เต็มปากนักอย่างไรก็ตาม - กลับมาที่การพูดเสียงสอง ใช่ว่าคู่ที่รักกันดีจะต้องใช้วิธีสื่อสารแบบนี้เสมอไป หลายคู่ที่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้งแต่ใช้น้ำเสียงแบบอื่นๆ ก็มี เพียงแต่ที่เราหยิบมาเล่าในวันนี้เพียงแต่อยากส่งกำลังใจให้ใครที่โปรดปรานเสียงสองเสียงสามเผื่อจะได้เขินน้อยลง เวลาเลือกที่จะใช้มันให้คนอื่นได้ยิน และวอนสังคมเห็นใจกันด้วย เพราะบางทีคนคลั่งรักมันก็คงห้ามกันไม่ไหวจริงๆ&nbsp;อ้างอิง&nbsp;<a href="https://www.nbcnews.com/better/pop-culture/baby-talk-it-may-be-annoying-it-s-sign-strong-ncna881401" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.nbcnews.com/better/pop-culture/baby-talk-it-may-be-annoying-it-s-sign-strong-ncna881401</a>&nbsp;

เราเริ่มได้ยินคนรุ่นใหม่ที่กำลังอยู่ในวัยเริ่มต้นทำงานพูดคล้ายๆ กันมากขึ้นว่า พวกเขารู้สึกถึงความเหนื่อยล้า ขาดแรงจูงใจ หมดความสนใจ ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ใช่การบ่นเรื่อยเปื่อยโดยไม่มีสาเหตุ แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของ ‘ภาวะหมดไฟ’ (Burnout) ซึ่งกำลังค่อยๆ คืบคลานมาสู่คนทำงานเจนฯ Z อย่างน่าเป็นห่วง  

ชวนมอง 3 ปัจจัยที่ทำให้คนทำงานเจนฯ Z 
เผชิญภาวะ Burnout เร็วกว่าคนเจนฯ อื่น

หายใจลึกๆ แล้วดึงสติ! กับ Aromatherapy 
กลิ่นหอมสมุนไพรที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาอยู่จุดศูนย์กลางอีกครั้ง

กลับมาอีกครั้งกับ ‘Devasom Sol Festival 2025’ เทศกาลที่รวบรวมกิจกรรมและเวิร์กชอป Wellness แบบองค์รวม ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งรังสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงศิลปินไทยและต่างประเทศ ท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามบนชายฝั่งทะเลอันดามัน ณ เทวาศรม เขาหลัก รีสอร์ต

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Relationship

การพูดเสียงสองกับคนรัก เป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่เฮลธ์ตี้

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS