ความสัมพันธ์ทั้งรัก ทั้งเกลียด ‘ไม่ผิด’ แถมยังสะท้อนว่า “นี่แหละ ปกติของความรัก”

Hate Love Relationship ลึกๆ ทุกคนก็เกลียดแฟนตัวเองได้ทั้งนั้น

ในชีวิตเราอาจมีเพื่อนที่รักมันมากๆ แต่บางทีก็เกลียดมันมากเหมือนกัน และความสัมพันธ์แบบ Hate Love นี้ ไม่ได้เกิดแค่กับเพื่อน หรือครอบครัว แต่เกิดขึ้นกับคนรักได้ด้วย ฉันรักเขา เพราะเขาอบอุ่น ใส่ใจ แต่ฉันก็เกลียด เพราะเขาชอบโกหก มีหลายสถานการณ์ที่ทำให้เรางงว่า ทำไมรู้สึกแบบนี้ ความสับสนขณะมองแฟนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตกลงฉันรัก หรือเกลียดเขากันแน่ แล้วการที่เรารู้สึกทั้งรัก ทั้งเกลียด มันผิดไหม? ไม่ว่าเพื่อนๆ กำลังจะตัดฉับความสัมพันธ์ หรือเดินหน้าต่อไปกับเขา โปรดอย่าโทษตัวเอง เพราะความสัมพันธ์ Hate Love ‘ไม่ผิด’ แถมยังสะท้อนว่า “นี่แหละ ปกติของความรัก” ที่เป็นทั้งเรื่องของกลไกสมอง และความรู้สึก “เมื่อรักกับเกลียด มีความหมายเดียวกัน” – ศาสตราจารย์เซมิร์ เซกิ (Semir Zeki) จากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน เจ้าของผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ PloS ONE มองว่า ความเกลียดชังมักถูกตีตราว่าเป็นปิศาจในใจมนุษย์ ซึ่งในโลกที่โฟกัสแค่สีขาว กับสีดำ ยิ่งพยายามบอกทุกคนว่า แกต้องกำจัดความเกลียดให้สิ้นซากซะ โลกถึงจะสงบสุข ทว่าในมุมนักวิชาการ ความเกลียดชังมีแรงผลักดันที่เหมือนกับความรัก อนึ่ง ถ้ายิ่งตั้งใจรัก ก็ยิ่งตั้งใจเกลียด และเมื่อมีสัญญาณไม่สู้ดี สมองจะตั้งการ์ดใส่คนที่เรารักแบบเดียวกับตอนตั้งการ์ดใส่คนที่เราเกลียด จากการวิเคราะห์อาสาสมัคร 17 คน ที่ศาสตราจารย์เซกิ และ จอห์น โรมายา (John Romaya) จาก Wellcome Laboratory of Neurobiology ให้พวกเขาเลือกดูรูปถ่ายของบุคคลที่เกลียด ส่วนใหญ่เลือกรูปแฟนเก่าที่เคยรัก โดยใช้เครื่องสแกนสมองเพื่อตรวจสอบวงจรประสาท พบว่า วงจรความเกลียดถูกกระตุ้นโดย Putamen หรือโครงสร้างในสมองซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปมประสาท และ Insula หรือสมองส่วนรับอารมณ์ความรู้สึกและสิ่งเร้า โดยทั้งสองเป็นสมองส่วนที่ถูกกระตุ้นด้วยความรักแบบโรแมนติก ปรากฏว่าสมองส่วนที่ว่า จะเตรียมตั้งการ์ดแสดงความก้าวร้าวออกมาในความสัมพันธ์คู่รัก เหมือนกับตอนที่เราเจอคนที่เกลียดกำลังแสดงท่าทีอันตรายต่อเรา จะสังเกตได้ว่า ความรัก ที่มักไร้เหตุผลอยู่บ่อยๆ จะสามารถนำไปสู่ความใจกล้า และการกระทำที่เกรี้ยวกราดได้ รักกับเกลียดที่ดูเหมือนจะอยู่ตรงข้ามกัน กลับนำไปสู่พฤติกรรมเดียวกันได้ “ยิ่งรักมาก ยิ่งเกลียดมาก” – ความเกลียดชังเป็นภาพสะท้อนของความรัก ตามงานศึกษาชื่อ The Deeper the Love, the Deeper the Hate ในวารสาร Frontiers in Psychology ที่บอกว่า เมื่อความสัมพันธ์ของคู่รัก มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกจิตใจถูกทำลาย ความรักโรแมนติกจะกลายเป็นความเกลียดชังได้ง่ายดาย หลังจากเหตุการณ์เชิงลบ หรือทะเลาะกันสำหรับบางคนความรักจะยังชนะความเกลียดได้อยู่ ขณะเดียวกัน เมื่อมีอะไรเข้ามาสั่นคลอนมากเข้า ความเกลียดจะเฉือนเอาชนะความรักได้ในที่สุด สำหรับคนที่ยังรู้สึกรัก แต่ก็เกลียดเขาเหลือเกิน อาจเป็นสัญญาณการแปรเปลี่ยนของความรักที่มองเขาเป็นคนทรยศ หรือหักหลัง ความเกลียดนี้สะท้อนทั้งความรักที่เรายังเลือกยืนอยู่ตรงนั้น และความโศกเศร้าจากความเจ็บปวดที่ทำไมเรายังอยู่ โดยความเกลียดชังในความสัมพันธ์โรแมนติกอาจเกิดจาก ‘ความหึงหวงทางอารมณ์’ ที่มากับความโกรธ ความกลัว และ ‘ความหึงหวงที่กลั่นกรองจากสติปัญญา’ ว่าคนรักมีด้านลบๆ อะไรบ้าง ซึ่งเมื่อยิ่งรักใครคนหนึ่งมากเท่าไร ก็จะยิ่งอ่อนไหวมากขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับภัยที่คุกคามความสัมพันธ์ ใช่แล้ว มนุษย์ใช้ทั้งอารมณ์ และเหตุผล ในการตัดสินใจอะไรบางอย่าง เราจึงรู้สึกเกลียด และรักคนคนหนึ่งไปพร้อมๆ กันได้เป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม หากวันใดเกิดหมดรักขึ้นมา คุณก็จะเกลียดเขาเข้าเต็มๆ อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าตอนนี้ยังรักเขาอยู่ ลองชั่งน้ำหนักในใจดูว่าความรัก หรือความเกลียด มันมีเท่ากัน รักมากกว่า หรือเกลียดมากกว่า และยอมรับที่จะอยู่กับคนที่ทั้งรัก และเกลียด อย่างเฮลธ์ตี้ได้หรือเปล่า? อ้างอิง:<a href="https://www.independent.co.uk/news/science/scientists-prove-it-really-is-a-thin-line-between-love-and-hate-976901.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.independent.co.uk/news/science/scientists-prove-it-really-is-a-thin-line-between-love-and-hate-976901.html</a>&nbsp;<a href="https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fpsyg.2017.01940/full" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fpsyg.2017.01940/full</a> &nbsp;

Relationship Resolutions ชวน ‘คนรัก’ จับเข่าคุยและดีไซน์ความสัมพันธ์กันว่า ปีนี้อยากให้ความสัมพันธ์เติบโตไปในทิศทางไหน มั่นคงขึ้น แน่นแฟ้นขึ้น หรือช่วยกันหาวิธีแก้ปัญหา

2025 Relationship Resolutions ชวนคนรักมา ‘ทำงานกลุ่ม’ ด้วยการตั้งปณิธาน
ความสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มการรับฟัง และความเข้าใจ ที่หากพยายามฝ่ายเดียวคงไม่สำเร็จ

จากกรณีของ ชาล็อต ออสติน ที่เพิ่งเป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากคนจำนวนมากพร้อมส่งกำลังใจให้เธอ ในอีกแง่หนึ่ง เรื่องนี้ก็ทำให้คนไทยอีกหลายคนได้เปิดรับเอาเรื่องของ ‘โรคแพนิค’ เข้าไปไว้ในใจ

ทำความรู้จัก ‘โรคแพนิค’ ที่ส่งผลกระทบกับ ชาล็อต ออสติน จนให้ทำตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพและเกิดสภาวะ Panic Attack บนเวที

จากผลสำรวจล่าสุดในปีนี้ที่พบว่าคนเจนฯ Z กำลังมองหาความรักโรแมนติกและความสัมพันธ์ที่จริงจังยั่งยืนมากกว่าความสัมพันธ์แบบฉาบฉวย โดยเฉพาะในโลกทุกวันนี้ที่พวกเขารู้สึกว่าทั้งไม่แน่นอนและไม่มั่นคง เทรนด์ของการเดตที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลานี้ จึงอาจไม่ใช่การเดตที่จำเป็นต้องมีองค์ประกอบของ Love at first sight หรือจะต้องเกิดสปาร์กไฟแล่บกันก่อนเสมอไป

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Relationship

Hate Love Relationship ลึกๆ ทุกคนก็เกลียดแฟนตัวเองได้ทั้งนั้น

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS