นอกจากอาการเมาแผ่นดินไหวที่หลายคนกำลังเป็น จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุดที่ผ่านมา ร่องรอยจากภัยพิบัติยังอาจทิ้งผลกระทบต่อจิตใจที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย มากกว่านั้นคือการที่เราไม่รู้จะเอาตัว เอาใจไป ‘วาง’ ไว้ตรงไหน เหตุการณ์ข้างนอกก็ชุลมุลวุ่นวาย ไม่แน่นอน และยังวางใจไม่ได้ แม้ว่าแผ่นดินไหวจะผ่านไปแล้ว แต่กลับพบว่า ‘ข้างใน’ ตัวเราเองนี่แหละที่มันยังคงสั่นไหวหนักยิ่งกว่า

Earthing วิธีพาใจกลับมาจากความตื่นตระหนกหลังภัยพิบัติ ด้วยการหา ‘แกน’ ให้ตัวเองผ่านพลังงานของธรรมชาติ

นอกจากอาการเมาแผ่นดินไหวที่หลายคนกำลังเป็น จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุดที่ผ่านมา ร่องรอยจากภัยพิบัติยังอาจทิ้งผลกระทบต่อจิตใจที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย มากกว่านั้นคือการที่เราไม่รู้จะเอาตัว เอาใจไป ‘วาง’ ไว้ตรงไหน เหตุการณ์ข้างนอกก็ชุลมุลวุ่นวาย ไม่แน่นอน และยังวางใจไม่ได้ แม้ว่าแผ่นดินไหวจะผ่านไปแล้ว แต่กลับพบว่า ‘ข้างใน’ ตัวเราเองนี่แหละที่มันยังคงสั่นไหวหนักยิ่งกว่าความรู้สึกสั่นไหววูบวาบแบบไม่รู้จะเอาใจไปไว้ตรงไหนนี้เองที่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้ชีวิตทุกวันนี้ โดยเฉพาะกับคนเมืองที่ค่อนข้างห่างไกลธรรมชาติ และถูกรบกวนด้วยสิ่งต่างๆ อยู่ตลอดเวลา กระทั่งเกิดเหตุการณ์อะไรก็ตามที่สร้างความรู้สึกไม่มั่นคง ใจเราก็มักจะวิ่งหนีออกไปหา ไปพึ่งพาสิ่งภายนอกก่อนเสมอจนลืมโฟกัสตัวเอง และหลงลืมที่จะหยุดอยู่นิ่งๆ เงี่ยหูฟังความเป็นไปรอบตัววิธีการ Earthing จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการพาใจกลับมาจากอาการตื่นตระหนกหลังเผชิญภัยพิบัติ ซึ่งเป็นหนึ่งในศาสตร์การ Grounding ที่มีหลักฐานทางการศึกษามานานมากกว่า 20 ปีแล้วว่ามีประโยชน์ทั้งในเชิงกายภาพ เช่นช่วยลดการอักเสบ ลดความเจ็บปวดทางร่างกาย รวมถึงประโยชน์ในทางการเยียวยาจิตใจจากภาวะความเครียด และอาการแพนิกได้อีกด้วยอธิบายง่ายๆ ว่าการ Grounding ก็เหมือนกับการที่เราหา ‘แกน’ หรือจุดยึดภายในร่างกาย ตัวเองให้สามารถหาสมดุลหรือยืนอยู่บนพื้นได้อย่างมั่นคงในเวลาที่ใจเราหลุดลอยออกไปข้างนอกจากภาวะตระหนกตกใจ และวิธี Earthing ก็คือการนำแก่นสารของการ Grounding มาใช้ โดยนอกจากหาแกนยึดในร่างกายให้สมดุลแล้ว ยังเป็นการให้ร่างกายของเราค่อยๆ ‘เชื่อมต่อ’ กับพลังของธรรมชาติด้วยการ ‘สัมผัส’ กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เช่น เท้าได้แตะพื้นดิน เดินบนพื้นหญ้า มือได้สัมผัสต้นไม้ รับรู้อากาศ รับรู้ลมที่กำลังพัด ประสาทสัมผัสต่างๆ ได้หยุดฟังเสียงธรรมชาติ รวมถึงสิ่งที่มากระทบกับร่างกายในชั่วขณะนั้น ซึ่งจะช่วยให้ข้างในตัวเรากลับมารู้สึกปลอดภัย สามารถ Hold ตัวเองเป็นที่พึ่งได้ ในเวลาที่ไม่รู้จะหันไปยึดเกาะอะไรรอบข้างในเชิงกายภาพ ร่างกายของคนเรามีพลังงานไฟฟ้าต่างๆ ไหลวนอยู่ในนั้น เช่นเดียกับพลังงานที่อยู่ในธรรมชาติ การ Earthing คือการส่งต่อพลังงานอิเล็กตรอนจากพื้นผิวโลกเข้ามาสู่ร่างกายของมนุษย์ เมื่อพลังงานเชื่อมต่อ ถ่ายเทซึ่งกันและกันก็จะสามารถช่วยสร้างสมดุลภายในร่างกายของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความข้นหนืดของเลือดได้ อีกทั้งมีผลต่อวงจรการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดขาว Neutrophils ที่ร่างกายจะสร้างมากขึ้นในภาวะเช่นมีการติดเชื้อ หรือการอักเสบในร่างกายจากการเจ็บป่วยใดๆ&nbsp;การฝึกทำ Earthing ให้ร่างกายเชื่อมต่อกับธรรมชาติเป็นประจำ ยังพบว่ามีส่วนช่วยคลายความเหนื่อยล้าของระบบประสาท ช่วยสร้างสมาธิ และช่วยให้คนที่มีภาวะนอนหลับยาก สามารถนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นวิธี Earthing ยังสามารถช่วยลดความเครียดและบำบัดอารมณ์ที่ดิ่งดาวน์ให้ดีขึ้น เพราะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนความเครียดในร่างกายกลับมาอยู่ในระดับปกติ ช่วยลดระดับความวิตกกังวล อาการแพนิก โฟเบีย รวมถึงการได้รับบาดแผลทางจิตใจจากประสบการณ์รุนแรงถึงแม้ว่าทุกวันนี้ศาสตร์การ Earthing จะยังคงมีข้อถกเถียงจากฝั่งที่เห็นต่างในเรื่องผลลัพธ์และประโยชน์ทางกายภาพ ที่มองว่ามันอาจไม่ได้มีสรรพคุณครอบจักรวาล หรือมีผลชัดเจนต่อสุขภาพร่างกายขนาดนั้น แต่เป็นแค่ ‘ยาหลอก’ ความรู้สึกคล้ายๆ กับพิธีกรรมในเชิง Spiritual บางอย่างที่แค่ช่วยบำบัดจิตใจและอารมณ์เท่านั้นอย่างไรก็ตาม หากเราหยิบใจความสำคัญของ Earthing มาใช้ก็อาจยังเป็นเรื่องน่าสนใจอยู่ เพราะเป็นวิธีที่ทั้งไม่อันตราย ง่าย และใกล้ตัวเรามากที่สุดที่จะช่วยเรียกสติเรากลับมา โฟกัสที่กายใจตัวเอง กับพื้นที่ที่เท้ากำลังยืนอยู่ กับสิ่งแวดล้อม กับธรรมชาติที่กำลังสัมผัส ที่สำคัญการฝึก Earthing ไม่ได้หมายถึงการที่เราต้องออกไปอยู่ข้างนอก (Outdoor) เท่านั้น แต่สามารถฝึกในพื้นที่ภายในบ้าน หรือพื้นที่ที่เรารู้สึกปลอดภัย สบายใจ สบายตัวมากพอ อีกทั้งยังสามารถทำได้ในทุกขณะในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ไม่ว่าจะกำลังทำงาน ขับรถ นั่งพักผ่อนเฉยๆ หรือขณะนอนหลับ ตัวเรากับพลังงานของธรรมชาติก็สามารถเชื่อมต่อกันได้&nbsp;สุดท้ายแล้วภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอาจทำให้หลายคนรู้สึก ‘กลัวธรรมชาติ’ จนเกิดความรู้สึกต่อต้าน อยากหนี และไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก การกลับมา Earthing และ Grounding จึงอาจเป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราค่อยๆ ปรับตัว ปรับใจ ‘ยอมรับ’ สิ่งที่เกิดขึ้นว่าแผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติใดๆ ก็คือเรื่องตามธรรมชาติที่เราไม่อาจไม่วิ่งหนีได้ ตราบใดที่ยังยืนอยู่บนพื้นผิวโลก เพราะฉะนั้นการฝึกยอมรับความเป็นไปตามธรรมชาตินี่แหละจึงเป็นหนทางที่ไม่ว่าพื้นโลกจะสั่นไหวแค่ไหน ใจเราก็จะยังมั่นคงและเป็นที่ที่ปลอดภัยอยู่อ้างอิง<a href="https://www.psychologytoday.com/ca/blog/addiction-and-relationships/202407/the-other-type-of-grounding-the-healing-power-of-nature" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.psychologytoday.com/ca/blog/addiction-and-relationships/202407/the-other-type-of-grounding-the-healing-power-of-nature</a><a href="https://www.earthing.com/pages/about-clint-ober" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.earthing.com/pages/about-clint-ober</a>

“แผ่นดินไหวทำให้รู้ว่าใครรักและเป็นห่วงเราบ้าง” / “เราเลิกกับแฟนเพราะแผ่นดินไหว” ในช่วงภาวะวิกฤตที่ผ่านมา มีทั้งคนใกล้ตัวเราและคนในโซเชียลมีเดีย ออกมาแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของตัวเองว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ ทำให้ได้เรียนรู้อะไรอย่างมากในความสัมพันธ์

แผ่นดินไหวครั้งนี้…บางคู่รักกันมากขึ้น 
แต่บางคู่ขอเลือกยุติความสัมพันธ์ เพราะ Support System ที่ดีจาก ‘คนรัก’ “สำคัญมาก” ต่อสภาพจิตใจในช่วงภาวะวิกฤต

“ไม่มีอะไรจะใส่เลย” คือคำพูดยอดฮิตของใครหลายคน เมื่อเปิดตู้เสื้อผ้า เตรียมตัวออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ใด ที่ต้องเร่งรีบไปพบลูกค้า ไปออกเดต ไปเยี่ยมญาติ หรือไปเที่ยวกับเพื่อนสาว แม้ว่าเสื้อผ้าในตู้มีจำนวนเพียงพอให้ใส่ได้ตลอดทั้งปีก็ตาม

ตู้เสื้อผ้า คือ ประตูสู่ตัวตนภายใน! มารู้จัก Closet Cleanse การจัดตู้ใหม่ให้ตรงเป้าหมายชีวิต หมดปัญหา “ไม่มีอะไรใส่เลย” 


Let Them Theory หรือการปล่อยให้คนอื่น “อยากทำอะไรก็ทำ อยากคิดอะไรก็คิด” ที่ช่วยให้คนที่กำลังเป็นท้อกับการพยายามอยากจะให้คนอื่นพอใจอยู่ตลอด กลับมาเป็นสุขและเหนื่อยใจน้อยลง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Mind

Earthing วิธีพาใจกลับมาจากความตื่นตระหนกหลังภัยพิบัติ ด้วยการหา ‘แกน’ ให้ตัวเองผ่านพลังงานของธรรมชาติ

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS