Jessica Hamilton คืออินฟลูฯ สายแต่งตัวที่มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมกว่า 1.2 ล้านคน เธอเขียนอธิบายตัวเองว่าคือ ‘คนรักพาสต้า’ ปัจจุบันเธออายุ 33 ปี ซึ่งนับเป็นช่วงอายุที่ลดความอ้วนได้ยากขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงวัย 20 กว่าๆ

Jessica Hamilton อินฟลูฯ สายแฟที่ออกมาเปิดพุงให้เห็น และบอกว่าเราไม่ต้องรักร่างกายตัวเองทุกวันก็ได้ แค่อย่าไปเกลียดมันเกินไปก็พอ

ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ใฝ่ฝันถึงความฟิตแอนด์เฟิร์ม ซึ่งเป็นทั้งเรื่องของสุขภาพและค่านิยมความงามที่ผสมปนเปกันอยู่ คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนที่ไม่ได้มีหุ่นสมบูรณ์แบบ ในการเปิดเผยความตุ้ยนุ้ยที่ซ่อนอยู่ของตัวเองออกมาให้โลกได้เห็น เพราะเราหลายคนถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ว่ารูปภาพแบบนี้มันช่างน่าอายไม่เป๊ะ ไม่เริ่ด และควรซ่อนเอาไว้ไม่ว่าจะด้วยการแต่งตัวหรือการใช้แอพฯ เข้าช่วย ซึ่งสำหรับบางคนสิ่งนี้ก็ท็อกซิกไม่น้อยทีเดียวทั้งที่ในความเป็นจริง การมีร่างทองที่หน้าท้องแบนราบและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อลีนๆ งามๆ ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะมีกันได้ง่ายๆ หลายคนมีอุปสรรคที่แตกต่างกันออกไปซึ่งไม่ใช่แค่ความขี้เกียจ เพราะเราต่างก็มีทรัพยากรต่างๆ ที่เอื้อต่อการกินดีและออกกำลังให้ดีที่ต่างกัน ตั้งแต่เรื่องของเวลา เงินทอง ความสุขความทุกข์ในชีวิต รวมถึงช่วงวัยที่เปลี่ยน หรือเงื่อนไขด้านสุขภาพ ฯลฯ ซึ่งทำให้สำหรับบางคน ต่อให้พยายามแล้วก็ยังคงไม่สำเร็จและพาลเกลียดร่างกายตัวเองจนส่งผลต่อสุขภาพจิต กลายเป็นปัญหาทับถมไปอีกดังนั้นการมีใครสักคนออกมายืนยันและคอยสำทับว่าการมีรูปร่างแบบอื่นก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่มนุษย์เราพึงมีกันได้ ก็อาจช่วยเซฟจิตใจของใครหลายๆ คนให้กลับมาโอเคกับตัวเองได้มากกว่าที่คิด&nbsp;และใครจะออกมายืนยันคำพูดเหล่านั้น (ที่ทุกคนรู้ เข้าใจ แต่ยอมรับได้ยาก) ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ที่บทบาทสำคัญอย่างหนึ่งของพวกเขาก็คือการใช้อิทธิพลที่ตัวเองมีส่งต่อแนวคิดบางอย่างออกไปสู่สังคม และ Jessica Hamilton ก็เป็นอีกคนที่ใช้ชื่อเสียงของตัวเองในการนี้ โดยเธอได้โพสต์รูปตัวเองที่สวมเพียงชุดชั้นในและมีดอกกุหลาบสวยๆ เรียงรายอยู่ข้างๆ เพื่อบอกรักร่างกายตัวเองJessica Hamilton คืออินฟลูฯ สายแต่งตัวที่มีผู้ติดตามบนอินสตาแกรมกว่า 1.2 ล้านคน เธอเขียนอธิบายตัวเองว่าคือ ‘คนรักพาสต้า’ ปัจจุบันเธออายุ 33 ปี ซึ่งนับเป็นช่วงอายุที่ลดความอ้วนได้ยากขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงวัย 20 กว่าๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเผินๆ แล้วเธอห่างไกลจากคำว่า ‘อ้วน’ แต่ใช่ว่าเธอไม่มีปัญหากับรูปร่างของตัวเอง เพราะพุงของเธอทำให้บางครั้งการแต่งตัวก็ยากลำบาก เธอไม่อาจนิยามตัวเองว่าผอมแต่ก็ไม่อาจเฉลิมฉลองให้ตัวเองในฐานะสาวพลัสไซส์ ขณะเดียวกันเวลาถ่ายรูปเธอก็ต้องคอยแขม่วพุงหรือต้องคอยแต่งรูปให้ตัวเองดูผอมลงทุกครั้ง ในที่สุดเธอจึงอยากลองปลดแอกตัวเองด้วยการโชว์พุงให้เห็นกันไปเลย พร้อมเขียนข้อความบอกรักร่างกายตัวเองที่น่าจะทัชใจใครหลายคน“ฉันรักร่างกายของฉัน แต่บางครั้งการยอมรับในร่างกายตัวเองมันก็ยากมากๆ โดยเฉพาะเมื่อวันหนึ่งร่างกายเราเริ่มเปลี่ยนไป”“ฉันรักร่างกายของฉัน ทุกสัดทุกส่วน ฉันเห็นคุณค่าและเคารพในร่างกายตัวเอง แม้แต่ตอนที่ฉันต้องเปลี่ยนไซส์เสื้อผ้าใหม่เพราะบางตัวก็รัดเกินไปอีกแล้ว มันต้องทำงานหนักมากนะคะ ที่จะยกเลิกความเกลียดชังต่อร่างกายและบิวตี้สแตนดาร์ดที่เป็นพิษที่ถูกติดตั้งเอาไว้ในตัวพวกเรา ที่จะคิดได้ว่า “โอเค นี่คือร่างกายของฉัน เป็นร่างกายเดียวที่ฉันมี และมันก็แค่ร่างกาย ใจดีกับมันหน่อยเหอะ” ในที่สุด“ฉันรักร่างกายของฉัน แต่มันก็จะมีบางวันที่ฉันไม่ชอบเมื่อมองเห็นตัวเองในกระจกในวันแย่ๆ หรือเห็นรูปถ่ายของตัวเองที่ฉันเกลียด หรือวันที่ฉันรู้สึกยากลำบากเวลาจะแต่งตัวเพราะไม่มีอะไรที่ใส่สบายเลย หรือกระทั่งเศร้าที่ฉันไม่ได้ดูเหมือนตัวเองตอนอายุ 20 กว่าแล้ว และบางครั้ง แม้จะรู้ทุกอย่าง แต่ฉันก็ยังยืนน้ำตาไหลตอนเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง มันไม่ได้อะไรเลยจากการทำสิ่งเหล่านี้และฉันก็พอจะปิดความคิดพวกนี้ไปได้บ้างแล้ว แต่มันก็ยังเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่คุณคงไม่สามารถเกลียดร่างกายตัวเองไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งมันกลายเป็นแบบที่คุณชอบได้หรอกค่ะ”“ฉันรักร่างกายของฉัน แม้แต่ตอนที่รู้สึกว่าไม่มีพื้นที่ให้ร่างกายแบบฉันในโลกออนไลน์หรอก ฉันพุงพลุ้ยเกินกว่าจะเป็นคนผอมหรือหุ่นดี แต่ฉันก็ยังผอมเกินกว่าจะบอกว่าตัวเองเป็นคนพลัสไซส์ได้ ฉันตัวเล็กเกินกว่าจะเป็นคนตัวโต แต่ฉันก็ตัวโตเกินกว่าจะเป็นคนตัวเล็ก ฉันเลยไม่รู้ว่าควรจะเฉลิมฉลองให้กับร่างกายตัวเองในรูปแบบไหนดี แต่ฉันรู้แค่ว่าการโพสต์รีลที่ตัวฉันสวมแค่ชุดชั้นใน มันทำให้ฉันรู้สึกเป็นอิสระมากเลย ฉันมั่นใจขึ้นมากๆ ในตอนนี้ มากกว่าตอนที่ฉันพยายามจะปิดบังส่วนเหล่านั้นหรือแต่งรูปให้ฉันดูผอมลง ฟิต และเพอร์เฟกต์ ตอนนี้ฉันแทบไม่คิดว่าต้องแขม่วเพื่อโพสต์ท่าถ่ายรูปหรือถ่ายรีลแล้วล่ะ ซึ่งมันรู้สึกดีมากๆ เลย”เธอปิดท้ายว่าที่ออกมาโพสต์คอนเทนต์นี้ก็ด้วยความหวังที่ว่า อยากทำให้ใครสักคนแม้เพียงแค่คนเดียว รู้สึกเป็นมิตรกับร่างกายตัวเองมากขึ้น เพราะนั่นคือบ้านหลังสำคัญของเราทุกคน เราไม่จำเป็นต้องรักหรือชอบร่างกายตัวเองให้ได้ทุกวัน ตลอดไป เพียงแต่ไม่ต้องไปเกลียดมันมากเกินจนรู้สึกแย่กับตัวเอง และตราบใดที่ความตุ้ยนุ้ยของเราไม่ได้กระทบสุขภาพจนเกิดความเสี่ยง ร่างกายส่วนต่างๆ ยังคงทำงานตามฟังก์ชั่นของมันได้ตามปกติ ก็ไม่จำเป็นที่เราจะต้องเฆี่ยนตีตัวเองจนเจ็บปวดเพื่อจะมีรูปร่างในฝันที่โลกออนไลน์สร้างให้เราเลยจริงๆอ้างอิง<a href="https://www.instagram.com/jesschamilton/p/DGbHkRHscAg/?hl=en&img_index=1" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.instagram.com/jesschamilton/p/DGbHkRHscAg/?hl=en&amp;img_index=1</a>&nbsp;

ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดในทางการแพทย์ ว่า PCOS เกิดขึ้นจากอะไรกันแน่ ส่วนหนึ่งอาจเกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์ ขณะที่อีกส่วนสำคัญก็คือไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิต

PCOS ภาวะที่ผู้หญิงจำนวนมากรู้สึกว่าเป็น ซึ่งส่วนหนึ่งช่วยได้ด้วย Lifestyle Medicine หรือการปรับไลฟ์สไตล์ให้เฮลตี้กว่าเดิม

ปัจจุบันสังคมไทยเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ในกลุ่มเพศหญิงมากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่า ผู้ชายก็สามารถติดเชื้อ HPV และกลายเป็นพาหะแพร่เชื้อได้เช่นกัน

ไม่ว่าเพศไหนก็เสี่ยงติดเชื้อ HPV ได้ทั้งนั้น ฉีดวัคซีนป้องกันให้แค่ผู้หญิงอาจไม่พอ เพราะผู้ชายก็มีโอกาสเป็นพาหะส่งต่อเชื้อโดยไม่รู้ตัว

เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่สุขภาพจิตต้องรับมือกับช่วงเวลายากๆ นอกเหนือจากทางเลือกอย่างการพบจิตแพทย์แล้ว บริการจิตบำบัดยังเป็นอีกหนึ่งหนทางที่สามารถช่วยซับพอร์ตได้ แต่แม้การเข้ารับบริการจิตบำบัดจะเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นาสำหรับคนยุคนี้ก็จริง เส้นทางการตามหานักบำบัดที่ ‘ใช่’ สำหรับใครหลายคนนี่สิที่กลับไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไร

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Mind

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS