ขณะที่ YOLO เป็นวาทกรรมชั้นดีที่ชวนให้ทุกคนใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยง อยากทำอะไรก็จงทำ แต่ YONO เป็นด้านกลับที่เอาไว้เตือนสติตัวเอง ว่าสำหรับบางอย่างอาจจะลองทำครั้งเดียวก็พอ หรือบางอย่างที่เราไม่ได้ need หรือจำเป็นจริงๆ ก็อาจไม่ต้องใช้เงินไปกับมันก็ได้

YONO : You Only Need Once ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตแบบประหยัด เพราะคุณอาจได้ใช้ชีวิตแค่หนึ่งครั้ง แต่ก็อาจยังไม่ได้ตายพรุ่งนี้!

YOLO หรือ You Only Live Once กลายเป็นคำฮิตติดใจใครหลายคนในช่วงทษวรรษที่ผ่านมา โดยเป็นคำที่เกิดขึ้นเพื่อย้ำกับเราว่า มนุษย์เรานั้นมีชีวิตได้แค่ครั้งเดียว ดังนั้นจงใช้ชีวิต และมีความสุขกับปัจจุบันซะ อย่ามัวแต่กังวลเรื่องอนาคตให้มันมาก เพราะถ้าเกิดคุณตายขึ้นมา คุณก็จะพลาดสิ่งที่ยังไม่ได้ทำไปตลอดกาล&nbsp;YOLO เลยกลายเป็นวาทกรรมชั้นดีที่ชวนให้ทุกคนใช้ชีวิตให้สุดเหวี่ยง อยากทำอะไรก็จงทำ อยากซื้ออะไรก็จงซื้อ อยากพาตัวเองไปไหนก็จงไป ฯลฯ แนวคิดนี้เติบโตไปพร้อมความรุ่งเรืองของโซเชียลมีเดียและหลายครั้งก็ส่งอิทธิพลควบคู่กับ FOMO (Fear of Missing Out) เราจึงได้เห็นหลายคนพยายามสนุกกับโมเมนต์ตรงหน้าโดยทิ้งความกังวลต่างๆ ออกไปเสียพร้อมติดแฮชแท็ก #YOLO&nbsp;แต่แน่นอนว่า YOLO อาจเหมาะกับบางคนที่มีความพร้อมในชีวิตประมาณหนึ่ง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มีเงินเหลือมากพอ การใช้ชีวิตแบบ YOLO ก็อาจนำไปสู่การไร้เงินเก็บและต้องเผชิญความเสี่ยงอีกมากมายในอนาคตข้างหน้า&nbsp;นั่นจึงทำให้เกิดแนวคิดใหม่อีกอันหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเป็นด้านตรงข้ามกับ YOLO นั่นก็คือ ‘YONO’ หรือ ‘You Only Need Once’ ที่เริ่มเกิดขึ้นท่ามกลางเหล่าคนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้ และสำนักข่าว The Korea Times ก็ได้สัมภาษณ์พวกเขาเพื่อทำความเข้าใจวิถีแบบใหม่นี้ให้มากขึ้น ซึ่งพบว่าคนเกาหลีใต้จำนวนมากเริ่มหันหลังให้กับความอยากได้อยากมีไลฟ์สไตล์เก๋ๆ สนุกๆ ซึ่งเป็นกระแสหลักในสังคมเกาหลี แล้วหันมาใช้ชีวิตแบบประหยัดให้ได้มากที่สุด&nbsp;Choi Ye-bin คืออีเวนท์ไดเร็กเตอร์วัย 27 ปี ที่แชร์วิถีประหยัดของเธอว่า “ถ้าไม่มีนัดที่จำเป็นจริงๆ ฉันจะไม่กินข้าวนอกบ้านเลยค่ะ ซึ่งการมีนัดกินข้าวนอกบ้านมากกว่า 2 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์ ถือว่าเป็น red flag แล้ว และฉันต้องวางแผนจำกัดงบเรื่องอื่นๆ ในสัปดาห์นี้เพื่อจะไม่ให้ค่าใช้จ่ายบานเกิน” ไม่เพียงเท่านั้นยังให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มของคนรุ่นใหม่ในสังคมอีกว่า“ฉันเคยคิดว่าการใช้เงินไปกับการลงทุนกับตัวเอง หรือความสุขในชีวิต เป็นสิ่งที่ทำให้สังคมชื่นชมเรา แต่มาถึงตอนนี้ มันชัดเจนแล้วค่ะว่าไม่ใช่ อย่างเช่น ทุกวันนี้อาจจะยังมีคนที่เอนจอยกับการกินโอมากาเสะอยู่ แต่คนวัย 20 กว่าๆ ส่วนใหญ่ก็จะบอกว่า ถ้าเป็นฉันจะเอาเงินก้อนนี้ไปทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งมันทำให้ฉันนึกถึงปฏิกิริยาของพวกผู้ใหญ่ที่เคยมองวัยรุ่นที่เห่อวัฒนธรรมการกินโอมากาเสะน่ะ” เธอกล่าว และดูเหมือนว่าในตอนนี้ไม่ต้องเป็นคนอายุมาก แต่คนที่ยังอยู่ในช่วงวัย 20s ก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้นว่าการใช้จ่ายแพงๆ อาจไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ที่เฮลตี้กับสถานะทางการเงินของพวกเขาขนาดนั้น และเราก็ไม่จำเป็นต้องเอาความมั่นคงทางการเงินของตัวเองไปเสี่ยงขนาดนั้นเพียงเพื่อความเก๋ชั่วข้ามวันก็ได้YONO จึงเป็นคำที่หลายคนเอาไว้เตือนสติตัวเอง ว่าสำหรับบางอย่างอาจจะลองทำครั้งเดียวก็พอ หรือบางอย่างที่เราไม่ได้ need หรือจำเป็นจริงๆ ก็อาจไม่ต้องใช้เงินไปกับมันก็ได้ เพราะท้ายที่สุดเรายังคงต้องพาตัวเองไปให้รอดในโลกทุนนิยมใบนี้ ที่กำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจเป็นพิษกันทั่วโลก ในหลายประเทศก็ไม่ได้มีสวัสดิการรัฐที่รองรับความเสี่ยงในชีวิตเราได้ขนาดนั้น และแม้ YONO อาจทำให้เรารู้สึก “ไม่สุด” หรือสำหรับบางคนอาจมีมีคอนเทนต์เก๋ๆ ให้โพสต์น้อยลง แต่เราอาจยังไม่ได้ตายวันพรุ่งนี้ การมีเงินในบัญชีไว้สำหรับตัวเองในอนาคตก็เป็นเรื่องที่น่าอุ่นใจมากทีเดียวอ้างอิง<a href="https://www.koreatimes.co.kr/www/biz/2024/12/602_379775.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.koreatimes.co.kr/www/biz/2024/12/602_379775.html</a> &nbsp;

พอปีใหม่เวียนมาทีไร หลายคนจะมีเพลงเศร้าๆ เหงาๆ ดังเข้ามาในหัวทุกที โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่คนเดียวในคืนข้ามปี ทั้งที่จริงแล้ว ค่ำคืนปีใหม่ที่ได้อยู่คนเดียว อาจเป็นโอกาสดีๆ ในการเฉลิมฉลองให้กับความสันโดษและความแข็งแกร่งของเราเอง

ไม่เป็นไร... ถ้าเราจะผ่านปีใหม่ไปเพียงลำพัง

Dry January เป็นชาเลนจ์งดเหล้าเพียง 31 วัน ตลอดเดือนมกราคม ที่เริ่มต้นขึ้นจริงจังในปี 2013 โดยองค์กรการกุศลสัญชาติอังกฤษ Alcohol Change UK ที่มีพันธกิจอยากให้คนตระหนักรู้ถึงอันตรายและความน่ากังวลต่างๆ จากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

‘Dry January’ ชาเลนจ์งดเหล้าตลอดเดือนมกราคม เพื่อฟื้นฟูร่างกายบูสต์เอเนอร์จี้รับปีใหม่ และชวนทบทวนข้อดีของการกินเหล้าให้น้อยลง

ฤดูแห่งเทศกาลได้จบลงไปแล้วก็จริง แต่บรรดารายจ่ายต่างๆ ที่เป็นควันหลงมาจากการเฉลิมฉลองตลอดช่วงสิ้นปีที่ผ่านมานี่สิที่รอเราอยู่แน่ๆ นอกจากต้องจัดการรายจ่ายทั้งหมดที่ว่ามานั้นของตัวเองแล้ว หลายคนยังอาจเลี่ยงไม่ได้ที่จะตกเป็น ‘เจ้าหนี้’ เมื่อเพื่อนก็ประสบปัญหาจัดการเงินไม่ได้ในช่วงเวลานี้เช่นเดียวกัน และขอ ‘ยืมเงิน’ จากเรา

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Mind

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS