ผู้คนทั่วโลก ‘แต่งรูปตัวเอง’ และใส่ฟิลเตอร์ก่อนกดโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย โดยพบว่า 90% ของผู้หญิงแต่งรูปก่อนลง และ Meta ยังรายงานว่ามีคนมากกว่า 600 ล้านคนใส่ฟิลเตอร์ไอจีก่อนโพสต์

90% ของผู้หญิงแต่งรูปก่อนลงโซเชียลฯ และยิ่งใช้เวลาแต่งรูปนาน อาจยิ่งหมายถึงมีความพึงพอใจในร่างกายตัวเองต่ำ 

ผู้คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยจำนวนมาก ‘แต่งรูปตัวเอง’&nbsp;และใส่<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ฟิลเตอร์</a>ก่อนกดโพสต์ลง<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/Social%20Media" rel="noopener noreferrer" target="_blank">โซเชียลมีเดีย</a> ซึ่งคงไม่ต้องบอกเหตุผลว่าทำไมต้องแต่ง เพราะร้อยทั้งร้อยล้วนอยากบูสต์เอเนอร์จี้ความมั่นใจกันทั้งนั้น แน่นอนว่าแต่งน่ะแต่งได้ แต่การแต่งให้ไม่เป็นภัยทำร้ายใจตัวเอง กฎเหล็กอาจอยู่ที่การไม่ลืมโอบกอดตัวตนข้างในของเรา และไม่ลืมจะรักตัวตนในโลกแห่งความจริงด้วย Meta รายงานว่ามีคนมากกว่า 600 ล้านคนใช้เอฟเฟกต์ AR หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่าฟิลเตอร์ บนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ส่วนงานวิจัยปี 2021 จากมหาวิทยาลัย City, University of London เผยว่า 90% ของ<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ผู้หญิง</a>แต่งรูป และใส่ฟิลเตอร์ก่อนโพสต์รูปลงโซเชียลมีเดีย ขณะที่งานวิจัยจาก Dove Self-Esteem Project ระบุว่า 85% ของเด็กผู้หญิงเริ่มแต่งรูปก่อนโพสต์ตั้งแต่อายุ 13 ปี! และยังมีงานวิจัยจาก Case24 ที่วิเคราะห์นิสัยการแต่งรูปของชาวอังกฤษพบว่าจาก 3,000 คน มีเพียง 29% เท่านั้น ที่จะกล้าลงรูปสด โนฟิลเตอร์ โดยสามอันดับแรกที่ผู้คนนิยมแต่งมากที่สุดคือผิว โครงหน้า และแขน แค่นี้คงบอกได้ประมาณหนึ่งว่าคัลเจอร์การแต่งรูปเซลฟี่นั้นอยู่แนบชิดพลเมืองโลกขนาดไหน จริงอยู่ที่การแต่งรูปเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจไม่ใช่เรื่องผิด ตราบใดที่ไม่ได้มีจุดประสงค์ไปทำร้าย หรือจงใจปิดบังตัวจริงเพื่อหลอกลวงใครสักคน เพราะการมีเพื่อนแท้ในยามยากเป็นแอปฯ แต่งรูป และฟิลเตอร์สวยๆ เวลารู้สึกไม่มั่นใจในบางส่วนของตัวเอง หรือบางคนที่รู้สึกว่าสวยอยู่แล้ว แต่อยากเป๊ะขึ้นกว่าเก่า การปรับนิด แต่งหน่อยให้ปังขึ้น ถือเป็นวิธีที่ไวกว่าเข้าคลินิกเสริมความงาม และมันก็เพิ่มความรู้สึกดีให้กับตัวเองก่อนกดโพสต์ลงโลกโซเชียลได้ไม่น้อย แต่ในอีกแง่หนึ่งคือ การแต่งรูปตัวเองถือเป็นความสุขระยะสั้นที่เกิดขึ้นเลยทันที แต่หากเจ้าตัวลืมที่จะมองเห็นคุณค่าของตัวเองในชีวิตจริงซึ่งเป็นความสุขระยะยาว หันเหจุดโฟกัสชีวิตทั้งหมดมาหมกหมุ่นกับภาพในโซเชียลมีเดียที่ผ่านการเสริมเติมแต่งมาแล้วอย่างเดียว self-esteem ของคุณก็อาจตกลงฮวบได้เลย “เหล่าวัยรุ่นบอกฉันว่าพวกเขารู้สึกถูกครอบงำไปด้วยภาพที่สมบูรณ์แบบเกินไป” ศาสตราจารย์โรซาลินด์ กิลล์ จาก Gender and Sexualities Research Centre มหาวิทยาลัย City, University of London หนึ่งในนักวิจัยที่เรายกตัวอย่างไปตอนต้นกล่าว และหากเฉพาะเจาะจงไปที่เด็กสาว จะพบมิติเรื่องนี้ที่ลึกเข้าไปอีก “เหล่าวัยรุ่นหญิงบอกเราว่าพวกเธอรู้สึกกดดันอย่างมากที่ต้องพรีเซนต์ตัวเองให้ดูสนุก แฮปปี้ และดูชอบเข้าสังคม รวมถึงต้องดูสวยแบบไม่ต้องพยายาม สะท้อนการรับแรงกดดันจากรูปลักษณ์ภายนอกที่ขยายไปสู่การพรีเซนต์ ‘ตัวตนที่สมบูรณ์แบบ’ พวกเธอสะท้อนภาพการวิจารณ์ตัวเองผ่านแทบทุกแง่มุมของตัวเอง ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า สไตล์ ลุค และกังวลว่าจะ ‘ทำให้เพื่อนผิดหวัง’ ในการถ่ายรูปกลุ่มกับเพื่อน” สิ่งที่ศาสตราจารย์กิลล์ได้พูดคุยกับเหล่าวัยรุ่น ทำให้เห็นว่าการแต่งรูปไม่ได้มาจากการแต่งเพื่อให้ตัวเองมั่นใจอย่างเดียว แต่หลายครั้งบางคนยังแต่งเพื่อให้ ‘คนอื่น’ พอใจ หรือยอมรับตัวเองผ่านความเป๊ะของรูปภาพ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ต้องขวนขวายการยอมรับนั้น ก็มาจากแรงกดดันจากสังคมภายนอก ที่ไม่ใช่ทุกคนจะควบคุมจิตใจตัวเองให้ไม่หวาดหวั่นได้ เหมือนที่ศาสตราจารย์กิลล์บอกว่า “การโพสต์บนโซเชียลมีเดียสามารถสร้างความพึงพอใจอย่างมากจากยอดไลค์” นั่นแปลว่าหากเราเอาตัวเองไปผูกกับยอดไลค์มากขนาดนั้นจะนำไปสู่การตัดสินตัวเองอยู่ตลอดเวลาในวันที่ยอดไลค์ไม่ได้พุ่งสูง เพราะทรมานกว่าการถูกคนอื่นตัดสิน คือการตัดสินตัวเอง โบยตีตัวเอง และมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งเราเป็นห่วง และไม่อยากให้ทุกคนไปถึงขั้นนั้นเลย งานวิจัยจาก Dove Self-Esteem Project พบว่ามีเด็กสาว 67% พยายามเปลี่ยน หรือซ่อนสักส่วนหนึ่งของร่างกายก่อนกดโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย และยังเชื่อมโยงกับระยะเวลาในการแต่งรูปด้วย โดยเด็กผู้หญิงที่ใช้เวลาในการแต่งภาพ 10-30 นาที อาจมีความพึงพอใจในร่างกายตัวเองต่ำ (low body-esteem) และยังพบว่าเด็กสาวที่พยายามแต่งรูปจะมีความพึงพอใจในร่างกายตัวเองต่ำกว่าเมื่อเทียบกับเด็กสาวที่ไม่แต่งรูปเลย อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้หญิงบางคนที่สามารถแยกแยะภาพที่แต่งกับชีวิตออกจากกันได้ ตัวอย่างเช่นในงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตต พบว่าผู้หญิงหลายคนเชื่อว่าภาพเซลฟี่ของผู้หญิงผอมบางตามอุดมคติ หรือ sexualized จากการแต่งภาพ เมื่อดูภาพเหล่านั้นไม่ได้มีผลกระทบทางลบต่อสุขภาพจิตของพวกเธอเท่าไร หากพวกเธอตระหนักอยู่เสมอว่า นี่เป็นเพียงรูปแต่ง ซึ่งเมแกน เวนดีเมีย นักวิจัยชิ้นนี้ให้เหตุผลว่า “พวกเธอรู้ว่าภาพในออนไลน์ ไม่อาจสะท้อนตัวจริงในโลกออฟไลน์ได้” หากเราหมั่นสร้างความความเห็นอกเห็นใจในตัวเอง พยายามชื่นชมตัวเองว่าเรามีดี และมีคุณค่าเสมอไม่ว่าเราจะรูปร่างหน้าตาแบบไหนในโลกแห่งความจริง ไม่ว่าจะแต่งกี่รูปลงโซเชียลมีเดียเพื่อเพิ่มความเป๊ะ ความฉ่ำ ตามใจหวังก็จะไม่สามารถทำให้คุณรู้สึกแย่กับตัวเองในกระจกได้เลย เพราะสวยจากอินเนอร์นั้นยั่งยืนและดีต่อใจเรามากที่สุด อย่าลืมโอบกอดตัวตนที่แท้จริงในทุกๆ วันนะ อ้างอิง: <a href="https://www.themodems.com/beauty/71-percent-of-people-edit-their-selfies" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.themodems.com/beauty/71-percent-of-people-edit-their-selfies</a>&nbsp; <a href="https://studyfinds.org/young-women-edit-photos-online/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://studyfinds.org/young-women-edit-photos-online/</a> <a href="https://www.sciencedaily.com/releases/2021/03/210308111852.htm" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.sciencedaily.com/releases/2021/03/210308111852.htm</a> <a href="https://www.fashionroundtable.co.uk/news/selfie-culture-body-image" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.fashionroundtable.co.uk/news/selfie-culture-body-image</a> <a href="https://www.sciencedaily.com/releases/2018/09/180926140739.htm" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.sciencedaily.com/releases/2018/09/180926140739.htm</a> <a href="https://www.newportinstitute.com/resources/co-occurring-disorders/filters-mental-health/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.newportinstitute.com/resources/co-occurring-disorders/filters-mental-health/</a>&nbsp;

ในประเทศจีนมีวัฒนธรรมย่อมๆ ของหนุ่มสาว ที่จัด ‘ปาร์ตี้วันลาออก’ ขึ้นมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการทวงคืนอิสระ และความสุขในชีวิตของตัวเองกลับมาอีกครั้ง ท่ามกลางค่านิยมสังคมและครอบครัวที่คาดหวังให้ลูกหลาน “จงทำงานให้หนัก” เพื่อความสำเร็จในชีวิต

สุขสันต์วันลาออก! เมื่อหนุ่มสาวชาวจีนหันมาจัดปาร์ตี้ฉลองวันลาออก เพื่อคืนความสุขให้กับตัวเอง และเลิกบูชาค่านิยมการทำงานหนักจนใจพัง

‘โอรีนี ไคปารา’ (Oriini Kaipara) คือผู้ประกาศข่าวหญิงคนแรกในโลกที่มีรอยสักอันเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าเมารีที่เรียกว่า ‘โมโก’ หรือ ‘Moko Kauae’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาวเมารี

Oriini Kaipara ผู้ประกาศข่าวจากชนเผ่าเมารี ที่พร้อมยืนหยัดเพื่ออัตลักษณ์ชนเผ่า แม้ถูกวิจารณ์เรื่องรอยสัก Moko บนใบหน้าว่า ‘ดูไม่เหมาะสม’ 

‘PANK’ หรือ ‘Professional Aunt, No Kids’ ผู้หญิงที่มีสถานะการเงินคล่องตัว ดูแลตัวเองได้ ไม่ได้มองว่าจุดสูงสุดของชีวิตคือการแต่งงานมีลูก เพียงแค่อยากเป็นคุณน้ามืออาชีพ คอยดูแลหลานๆ ที่เธอรัก

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Mind

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS