การระเบิดอารมณ์ก็เกิดขึ้นได้ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ อยู่ที่ว่าใครจะระงับอารมณ์ได้ดีกว่ากัน

เบื้องหลังจิตใจของชาวเน็ตนักด่า อะไรที่ทำให้เขาใจร้ายกับคนอื่นได้ โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย?

เราพยายามตั้งคำถามเวลาเห็นชาวเน็ตบางคนด่ากราดคนบนโลกออนไลน์ ว่าทำไมพวกเขาถึงกล้าพิมพ์อะไรแย่ๆ แบบนั้นลงไปอย่างหน้าตาเฉย ทั้งกรณีใช้หน้าตัวเองเป็นโปรไฟล์ที่คงมีคนฟ้องร้องกลับได้ง่ายๆ และกับกรณีไม่ใช้หน้าตัวเองเป็นโปรไฟล์ที่สุดท้ายถ้าคนจะเรียกให้ชดใช้ สมัยนี้ก็ไม่ใช่ยุคที่จะตามตัวยากอีกต่อไป แต่ทำไมคน “ยังทำ” หากมองในแง่จิตวิทยา การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Frontier in Psychology เคยสำรวจทางจิตวิทยาของผู้ที่โพสต์ความคิดเห็นแสดงความเกลียดชังทางออนไลน์ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2018 นักวิจัยพบว่าผู้ที่แสดงความคิดเห็นลบๆ เหล่านั้น แสดงให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะของหนึ่งใน Dark Triad หรือนิสัยด้านมืดของผู้คน นั่นก็คือ Psychopathy หรือนิสัยขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยกรมสุขภาพจิตนิยามคำว่า psychopathy บนเว็บไซต์ไว้ว่า ไซโคพาธ (Psychopaths) เป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder) โดยมีลักษณะ ขาดความเห็นใจผู้อื่น / ขาดความสำนึกผิด / ความรู้สึกด้านชาไม่เกรงกลัว / ขาดความยับยั้งชั่งใจ / เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งกรมสุขภาพจิตระบุสาเหตุไว้ว่ามาจาก ทั้งด้านทางกาย ได้แก่ มีความผิดปกติของสมองโดยเฉพาะส่วนหน้าและส่วนอะมิกดะลา ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง อุบัติเหตุทางสมอง พันธุกรรม และทางด้านจิตใจและสังคม ได้แก่ การถูกกระทำทารุณกรรมในวัยเด็ก การถูกเลี้ยงดูแบบละเลยเพิกเฉย อาชญากรรมในครอบครัว ความแตกแยกในครอบครัว สภาพสังคมรอบตัวที่โหดร้าย นอกจากเรื่องสุขภาพจิตที่ควรจะต้องให้ความสำคัญแล้ว ยังมีหลักฐานจากงานวิจัยของ The Lancet Planetary Health ว่าจริงๆ ความแปรปรวนทางสภาพอากาศก็อาจทำให้ร่างกายของคนเรารู้สึกไม่สบายตัว ไม่สบายใจ และจุดชนวนให้คนหัวร้อนกว่าปกติ เพราะอากาศที่ร้อนจัดจนโมโห หรืออากาศหนาวจัดจนทำให้บางคนอารมณ์เสียพร้อมวีน นักวิจัยที่นำโดย ลีโอนี่ เวนซ์ (Leonie Wenz) หัวหน้าคณะทำงานของสถาบัน Potsdam Institute for Climate Impact Research (PIK) ได้เจาะลึก online speech ในสหรัฐอเมริกามากกว่า 4 พันล้านทวีตในช่วงเวลาหกปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2014 ถึงพฤษภาคม 2020 โดยเน้นไปที่ hate speech ที่นิยามจาก UN ว่า "โจมตีหรือใช้ภาษาดูหมิ่นหรือเลือกปฏิบัติ โดยอ้างอิงถึงบุคคลหรือกลุ่มบุคคลบนพื้นฐานของ … ศาสนา ชาติพันธุ์ สัญชาติ เชื้อชาติ สีผิว เชื้อสาย เพศ หรือปัจจัยด้านอัตลักษณ์อื่นๆ” ซึ่งเขาพบว่ามีมากกว่า 75 ล้านทวีต รวม 773 เมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา และมันสัมพันธ์กับสภาพภูมิอากาศตรงที่ hate speech จะเกิดขึ้นน้อยในช่วงอุณหภูมิ 15ºC ถึง 18ºC ซึ่งถือว่าเป็นอากาศสบายๆ แต่ในวันที่หนาวจัด -6ºC ถึง -3ºC ทวีตแสดงความเกลียดชังจะเพิ่มขึ้น 12.5% เช่นเดียวกับวันที่อากาศร้อนจัด 42ºC ถึง 45ºC ทวีตแสดงความเกลียดชังจะเพิ่มขึ้นถึง 22% ทำให้เห็นว่าบางครั้งการระเบิดอารมณ์ก็เกิดขึ้นได้ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ อยู่ที่ว่าใครจะระงับอารมณ์ได้ดีกว่ากัน และหากเราไม่รู้เท่าทันว่าเรากำลังมีพฤติกรรมที่ชอบคอมเมนต์ร้ายๆ บนโลกโซเชียล และยังคงเพิกเฉยมันต่อไป ก็เหมือนเรา และสังคมกำลังช่วยกัน normalize ว่าก็ทำได้นี่หน่า หากอีกฝ่ายไม่ได้ฟ้องร้องอะไร สำหรับคนที่พร้อมเปิดหน้าตัวเองด่าท้าชน ไม่เกรงกลัวอะไร พวกเขาคงไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเอาผิด ถึงกล้าพิมพ์มันออกไปแบบนั้น สำหรับคนที่มีแอคหลุม หรือเลือกจะไม่เปิดเผยตัวตนบนโลกโซเชียล แง่หนึ่งพวกเขากำลังปัดความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ว่าฉันมีสิทธิทำอะไรก็ได้ เพราะอีกฝ่ายไม่มีทางรู้ว่าเป็นใคร (หากไม่ได้ตรวจสอบจริงๆ) และคิดว่าตัวเองมีไพ่เหนือกว่าตรงนี้ เนื่องจากคนที่โดนด่า ไม่ใช่ทุกคนที่โดนแล้วจะมีจิตใจเข้มแข็งหรือพร้อมสู้กลับด้วยกระบวนการทางกฎหมายทุกคน นี่อาจเป็นสงครามประสาทที่เล่นกับความเปราะบางบางอย่างในจิตใจมนุษย์ ยิ่งช่วงนี้เราเห็นคอมเมนต์ชาวเน็ตผ่านๆ ตาจะเห็นว่า หากบางแอคเคานต์มีพรรคพวกที่คอมเมนต์เสริมทัพว่าคิดเหมือนกัน ดันหลังไปมา ยิ่งทำให้ haters กล้าที่จะด่าต่อไป เพราะคิดว่าตัวเองทำถูกแล้ว ทั้งๆ ที่คุณกำลังทำผิดอยู่ ท้ายที่สุดเราไม่อยากเห็นเพื่อนมนุษย์ทุกคนกลายเป็นคนร้าย หรือถูกบอกว่าเป็นคนเลว หากตอนนี้เรารู้เท่าทันตัวเอง ยอมรับผิด และปรับปรุงตัวเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม อาจยังไม่สายไป ก่อนที่จะถลำลึก จนเกิดเป็นคดีความ หรือตราบาปในชีวิตที่มองย้อนกลับมาทำให้รู้สึกผิดกับตัวเอง โลกนี้โหดร้ายพอแล้ว เราอย่าใจร้ายต่อกันอีกเลย อ้างอิง: <a href="https://bit.ly/3RWYeOQ" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://bit.ly/3RWYeOQ</a> <a href="https://www.psychologytoday.com/us/blog/shame-nation/202103/the-people-behind-online-hate" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.psychologytoday.com/us/blog/shame-nation/202103/the-people-behind-online-hate</a> <a href="https://time.com/6211832/extreme-weather-twitter-hate-speech/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://time.com/6211832/extreme-weather-twitter-hate-speech/&nbsp;</a>&nbsp;

สำหรับกรณีของนักแสดงสาวชื่อดังอย่าง ฮันโซฮี และ ฮเยริ เรื่องส่วนตัวได้กลายเป็นประเด็นระดับประเทศทันที เมื่อตัวละครทั้งหมดในเรื่องล้วนแต่เป็นคนดังเบอร์ต้นของวงการ 

หรือสำหรับเกาหลีใต้ ยังไงคุณก็ต้องเป็น Good Girl จากกรณีของฮันโซฮีที่ถูกโจมตีอย่างหนัก แถมยังหลุดจากพรีเซนเตอร์ เพราะดราม่าเรื่องแฟนหนุ่ม

ริโนะ ซาชิฮาระ (Rino Sashihara) หรือ ซัชชี่ อดีตไอดอลวง AKB48 ออกมาเปิดใจว่า เธอเลิกกับแฟนเก่า ด้วยเหตุผลที่ว่า รับไม่ได้กับนิสัยอันน่ากลัวและเกรี้ยวกราดบางอย่างของเขา ที่แสดงออกมาตอนเล่นเกมกับเธอ

Rino Sashihara อดีตสมาชิก AKB48 เปิดเผยว่าเลิกกับแฟนเก่า เพราะนิสัยน่ากลัวของฝ่ายชายตอนเล่นเกม Overcooked!

ขณะที่ ‘หลานม่า’ มีตัวละครหลักเป็นหลานชาย แต่ในเวลาเดียวกันนั้น ตัวละครหญิงทั้งหลายในเรื่องล้วนแต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็น อาซิว อามุ่ย รวมถึงตัวอาม่าเอง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Mind

เบื้องหลังจิตใจของชาวเน็ตนักด่า อะไรที่ทำให้เขาใจร้ายกับคนอื่นได้ โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย?

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS