ผลกระทบที่อันตรายจากการคิดเข้าข้างตัวเอง คือการเหมารวมว่าอีกฝ่ายก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน 

เฟรนด์ลี่ไม่ได้แปลว่าอ่อยเสมอไป และนักคิดไปเองอาจต้องยั้งใจบ้าง

สำหรับนักคิดไปเอง เวลามีคนมาทำดีด้วย ยิ้มให้ทุกครั้งที่เดินผ่าน หรือถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ เราก็อาจจะเหมารวมว่าเขาชอบ เพราะแยกระหว่างเฟรนด์ลี่ กับความสนใจเชิงโรแมนติกไม่ออก จริงๆ ก็ไม่ผิดอะไรถ้าเราทดความคิดนี้ไว้ในใจคนเดียว แต่เมื่อไหร่ที่พฤติกรรม ‘เข้าข้างตัวเอง’ เริ่มล้ำเส้น ก็มีแนวโน้มจะทำให้อีกฝ่ายอึดอัด หรือบานปลายจนมีโอกาสเกิดการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว หรือกระทั่งอาชญากรรมทางเพศที่เราเห็นตามสื่อ ทั้งที่จริงการที่ใครเฟรนด์ลี่ หรือทำดีกับเรานั้น ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างที่จะเหมาว่าเรามีสิทธิอะไรในตัวเขาแม้แต่น้อย แน่นอนว่ามนุษย์เรานั้นมีความซับซ้อน บางความเฟรนด์ลี่อาจมาพร้อมกับแรงขับทางเพศจริงๆ แต่ก็ไม่อาจเหมาได้ว่าทุกคนเป็นอย่างนั้น ลองมาดูเหตุผลต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญกันสักหน่อย ว่าอะไรที่มักจะทำให้คนเราเผลอคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายมีใจให้ “หลายคนไม่คุ้นเคยกับการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวกกับคนรอบข้าง จึงสามารถตีความความสนใจเชิงบวกในทางที่ผิดๆ คิดไปเองว่าเขามีความรู้สึกโรแมนติกกับเรา” ความคิดเห็นแรกของ เอริค เรสนิก (Eric Resnick) ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกเดต มองลึกไปถึงปมในใจของคนคนหนึ่ง ที่อาจไม่เคยได้รับความรัก หรือมีคนมาทำดีด้วย จึงทำให้รู้สึกว่านี่คือความพิเศษ โดยลืมคิดไปว่ามันคือพฤติกรรมปกติที่คนทั่วไปทำกัน และคนคนนั้นอาจจะทำแบบนี้กับทุกคนก็ได้ “หากคุณดึงดูด หรือรู้สึกต่อใครบางคนอยู่แล้ว ยิ่งง่ายมากที่จะคิดไปเองว่าเขาชอบ เพราะจิตใจคุณต้องการให้เป็นแบบนั้น กลับกันถ้าคุณไม่ได้สนใจเขาสักนิด ถึงเขาจีบจริงๆ คุณก็จะคิดว่าเขาแค่เป็นมิตรเฉยๆ” ความเห็นที่สองของเอริค น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะหลายครั้ง มนุษย์เรามักให้ความหวังตัวเองอยู่ลึกๆ และยิ่งมีไบแอสตั้งธงไว้ว่าเขาอาจจะมีใจ เพื่อซัพพอร์ตความรู้สึกตัวเอง นอกจากนี้ ความแตกต่างทางเพศก็มีส่วนให้เกิดอาการเข้าข้างตัวเองว่าเขาจะชอบด้วยเหมือนกัน ซึ่งงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า ‘ผู้ชาย’ มักคิดไปเองว่าผู้หญิงทอดสะพานมากกว่าที่ผู้หญิงจะคิดไปเองว่าผู้ชายชอบตน เมื่อปี 2020 แอนโธนี่ เจ. ลี (Anthony J. Lee) อาจารย์จาก The University of Stirling และทีมนักวิจัยของเขา ได้ทำงานวิจัยชื่อ Sex Differences in Misperceptions of Sexual Interest Can Be Explained by Sociosexual Orientation and Men Projecting Their Own Interest Onto Women ซึ่งเกี่ยวกับความเข้าใจผิด และแนวโน้มของผู้ชายที่จะประเมินค่าความสนใจเชิงโรแมนติกของผู้หญิงสูงไป (พูดง่ายๆ ชอบคิดไปเองว่าผู้หญิงจะชอบคุณก่อน) โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,226 คน ชาย 586 คน ผู้หญิง 640 คน อายุเฉลี่ย 19 ปี มาเดตกันในรูปแบบ Speed Dating อารมณ์งานชุมนุมของคนโสด ที่ผู้เข้าร่วมแต่ละคนจะได้เดตกับเพศตรงข้ามประมาณ 3-4 คน คนละ 3 นาที ซึ่งรวมกันได้มากถึง 3,850 ครั้ง โดยพวกเขาต้องประเมินความสนใจทางเพศที่มีต่อกัน และความสนใจทางเพศที่เขา ‘คิดว่า’ ฝ่ายตรงข้ามคิดยังไงกับเขา ทั้งวัดเรื่องความเต็มใจในการมีเซ็กซ์โดยไม่ผูกมัดจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ทัศนคติต่อเซ็กซ์แบบครั้งคราว และความต้องการทางเพศ ผลลัพธ์ที่ออกมา ไม่ต่างจากบทความของ คาริน เพอร์ริลลูซ (Carin Perilloux) และ ร็อบ เคอร์ซ์บน (Rob Kurzban) ที่ตีพิมพ์ใน Psychological Science เมื่อปี 2012 ที่ระบุว่าผู้ชายจะประเมินค่าความสนใจทางเพศของผู้หญิงที่มีต่อตัวเองสูงไป เพราะแม้จะผ่านมา 10 ปี ผลก็ยังออกมาเหมือนเดิม นั่นคือ ผู้ชายมักจะตีความความสนใจทางเพศจากฝ่ายตรงข้ามมากเกินไป และอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ผู้หญิงคิดต่อผู้ชาย ที่สำคัญยังพบว่า คนที่มีความชอบในความสัมพันธ์ระยะสั้นจะรู้สึกถึงความสนใจทางเพศจากฝั่งตรงข้ามมากขึ้นไปอีก รวมไปถึงคนที่สนใจเรื่องเซ็กซ์แบบครั้งคราวมีโอกาสคิดว่าอีกฝ่ายสนใจตัวเองมากกกกกกก เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีเซ็กซ์กับเขาให้ได้มากที่สุด ผลกระทบที่อันตรายจากการคิดเข้าข้างตัวเอง คือการเหมารวมว่าอีกฝ่ายก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน เพื่อสนับสนุนการกระทำของตัวเองซึ่งในความเป็นจริงไม่ว่าจะเพศไหนก็ไม่ควรคิดเองเออเองจนนำไปสู่การกระทำที่มองว่าตัวเองมีสิทธิในตัวอีกฝ่ายโดยปริยาย แม้มนุษย์จะซับซ้อน และหลายความสัมพันธ์ก็ดูยาก วิธีจะได้คำตอบที่แท้จริงว่าเขาชอบเราหรือเขาแค่เฟรนด์ลี่นั้นก็ไม่มีสูตรสำเร็จ สิ่งหนึ่งที่พอจะป้องกันไม่ให้เกิดการคุกคามอาจเป็นการให้ความสำคัญกับเรื่อง ‘คอนเซนต์’ และการเคารพสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของอีกฝ่ายให้มากๆ ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ ใครว้าวุ่นอยู่ เราเป็นกำลังใจให้ สู้ๆ นะ อ้างอิง: <a href="https://www.elitedaily.com/p/this-is-the-difference-between-flirting-friendliness-experts-say-19497408" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.elitedaily.com/p/this-is-the-difference-between-flirting-friendliness-experts-say-19497408</a>&nbsp; <a href="https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/0956797619900315" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://journals.sagepub.com/doi/abs/10.1177/0956797619900315</a>&nbsp; <a href="https://www.psypost.org/2020/06/study-offers-new-psychological-explanation-for-mens-tendency-to-overestimate-womens-romantic-interest-57167" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.psypost.org/2020/06/study-offers-new-psychological-explanation-for-mens-tendency-to-overestimate-womens-romantic-interest-57167</a>&nbsp;

ผู้ชายลุคแบด มีแรงดึงดูดบางอย่างในแง่มุมจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้หญิงบางคนใจเต้นรัวๆ และเสียอาการ แม้ระยะยาวจะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพจิตของบางคนก็ตาม

ทำไมผู้หญิงบางคนชอบ ‘Bad Boy’ 
เมื่อผู้ชายแบดๆ ปลุกความขบถในตัวผู้หญิงให้กล้าได้กล้าเสี่ยง แม้มีโอกาสเจ็บปวดใจแต่ก็หวังจะเปลี่ยนเขาได้ในสักวัน

Rebecca Syndrome พฤติกรรมแอบส่องมนุษย์แฟนเก่า รวมถึงเรื่องราวความสัมพันธ์เก่าๆ ของคนรักในปัจจุบัน

ตอนแรกโคนัน ตอนหลังโคม่า! รู้จัก ‘Rebecca Syndrome’ การตามสืบตามส่องแฟนเก่าของแฟนเรา ที่อาจเป็นพิษทั้งกับสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ 

ชวนอ่านแง่มุมเกี่ยวกับสุขภาพจิตของผู้หญิง 4 คน ได้แก่ อ.อันธิฌา แสงชัย, เฌอปราง อารีย์กุล, เจสซี่ กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์ และปริมมี่ วิพาวีร์ พัฒนศิริ ในงานเทศกาล We‘re Being Festival | เป็น อยู่ คือ (เรา) ที่จัดโดย The Nook by LoveFrankie

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Mind

เฟรนด์ลี่ไม่ได้แปลว่าอ่อยเสมอไป และนักคิดไปเองอาจต้องยั้งใจบ้าง

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

PATCHSITA PAIBULSIRI

RELATED

HOT TOPICS