ช่วงนี้อยู่ๆ ทั้งใน Instagram และ TikTok บรรดาคนดัง อินฟลูฯ สายฝอต่างออกมาพูดถึงประสบการณ์ของการทดลองใช้ฮอร์โมนชนิด ‘เทสโทสเตอร์โรน’ (Testosterone) ว่ามันช่วยให้พวกเธอกลับมารู้สึก ‘เซ็กซี่’ ได้อีกครั้งอย่างไร หลังจากเข้าสู่วัยกลางคนที่ทำให้อะไรๆ ในร่างกายหลายอย่างเปลี่ยนไป หนึ่งในนั้นคืออารมณ์ทางเพศและสุขภาพที่ค่อยๆ เสื่อมถอยลงตามวัย  

ข้อดี-ข้อเสียของการใช้ฮอร์โมน ‘เทสโทสเตอร์โรน’ จริงไหมที่สามารถช่วยเพิ่มความสุขทางเพศ และเสริมสุขภาพด้านอื่นๆ 
ของผู้หญิงที่เข้าสู่วัยกลางคน? 

ช่วงนี้อยู่ๆ ทั้งใน Instagram และ TikTok บรรดาคนดัง อินฟลูฯ สายฝอต่างออกมาพูดถึงประสบการณ์ของการทดลองใช้ฮอร์โมนชนิด ‘เทสโทสเตอร์โรน’ (Testosterone) ว่ามันช่วยให้พวกเธอกลับมารู้สึก ‘เซ็กซี่’ ได้อีกครั้งอย่างไร หลังจากเข้าสู่วัยกลางคนที่ทำให้อะไรๆ ในร่างกายหลายอย่างเปลี่ยนไป หนึ่งในนั้นคืออารมณ์ทางเพศและสุขภาพที่ค่อยๆ เสื่อมถอยลงตามวัย &nbsp;ว่าแต่จริงหรือเปล่าที่การเทคฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน จะกลายมาเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้ผู้หญิงซึ่งกำลังเข้าสู่วัยกลางคนจะยังรู้สึกแฮปปี้กับการเปลี่ยนผ่านช่วงวัย และแฮปปี้กับร่างกายตัวเองได้อยู่&nbsp;หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จาก National Library of Medicine บอกว่า ปริมาณของฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนในโดสที่เหมาะสม มีประโยชน์มากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะการที่มันสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์ทางเพศให้กับผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนได้ดี และมีผลข้างเคียงน้อย&nbsp;ทว่าบางครั้งการโฆษณาเกินจริงในเรื่องสรรพคุณทางยาของบรรดาอินฟลูฯ คนดัง ก็กลับมองข้ามเรื่องของความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ฮอร์โมนชนิดนี้ด้วยเหมือนกัน &nbsp;“คนพยายามใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนแก้ปัญหาทุกอย่าง” ดร. Risa Kagan ศาสตราจารย์คลินิก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียและซานฟราซิสโกที่ศึกษาเรื่องเทสโทสเตอร์โรนในผู้หญิงมานานกว่า 20 ปี และสนใจทั้งประโยชน์และโทษของฮอร์โมนชนิดนี้มากกว่าเรื่องของการเพิ่มความสุขทางเพศมองว่า ตอนนี้เทสโทสเตอร์โรนได้กลายเป็น ‘Feel-good drug’ หรือยาที่ทำให้รู้สึกดีไปแล้ว แต่หากดูให้ลึกลงไปในเชิงข้อมูล มันอาจจะยังไม่เหมาะกับการใช้แก้ปัญหาทุกอย่าง และไม่ได้เหมาะกับทุกคนขนาดนั้น&nbsp;เพราะเทสโทสเตอร์โรนมีประโยชน์มากมาย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเช่นกัน&nbsp;เทสโทสเตอร์โรนคืออะไร และสำคัญกับเพศหญิงอย่างไร?<ul style="margin-top:0;margin-bottom:0;padding-inline-start:48px;"><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">เทสโทสเตอร์โรนคือฮอร์โมนเพศที่มีส่วนสำคัญในสุขภาพการเจริญพันธ์ุทั้งของเพศชายและเพศหญิง&nbsp;</li><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">โดยปกติแล้วเทสโทสเตอร์โรนมีหน้าที่สำคัญในเพศชายคือการไปกระตุ้นให้แสดงลักษณะความเป็นชาย และรักษาให้มีสุขภาพที่สมบูรณ์และแข็งแรง รวมไปถึงเรื่องความต้องการทางเพศ การสร้างเชื้ออสุจิ ปริมาณของขนบริเวณอวัยวะเพศและขนตามร่างกาย กล้ามเนื้อและกระดูก ฯลฯ ซึ่งสมองจะเป็นตัวควบคุมการสร้างเทสโทสเตอร์โรนที่ผลิตจากลูกอัณฑะ</li><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">ส่วนในเพศหญิง เทสโทสเตอร์โรนจะผลิตเองตามธรรมชาติจากรังไข่และต่อมหมวกไต ช่วยในการผลิตไข่ในแต่ละช่วงรอบเดือน โดยฮอร์โมนนี้จะพีคสูงสุดในช่วงที่เพศหญิงอายุประมาณ 20s จนค่อยๆ ทดถอยลงไปเรื่อยๆ เมื่ออายุเพิ่มขึ้น และจะพุ่งสูงอีกทีในช่วงที่เพศหญิงเข้าสู่วัย 70s&nbsp;</li><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">เพศหญิงมีตัวรับฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนทั่วทั้งร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ สมอง กล้ามเนื้อ รวมถึงกระดูก และยังเชื่อมโยงกับสุขภาพของอวัยวะเหล่านี้ด้วย แต่หลักฐานทางการแพทย์ในปัจจุบันก็ยังคงไม่สามารถบอกได้เสียทีเดียวว่าเพราะเหตุใดมันจึงมีผลต่อการทำงานของอวัยวะที่ว่ามานี้ และมีผลอย่างไร&nbsp;</li><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">ในเพศหญิงบางคนที่ฮอร์โมนชนิดนี้เริ่มลดลงตามวัย อารมณ์และความต้องการทางเพศก็จะลดลงตามไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคน เพราะบางเคสถึงร่างกายจะไม่มีฮอร์โมนนี้อยู่แล้ว กลับพบว่ามีความต้องการทางเพศที่ยังสูงอยู่ &nbsp;ขณะทึ่บางเคสมีฮอร์โมนนี้อยู่ในระดับกลางถึงสูง แต่กลับไม่มีความต้องการทางเพศเลยก็มีเช่นกัน&nbsp;</li><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">เพราะเหตุนี้เองที่การทดสอบระดับเทสโทสเตอร์โรนในเพศหญิงซึ่งสามารถเปลี่ยนเเปลงไปได้ตลอดเวลา ก็อาจไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกอะไรได้มากนักว่าจะมีระดับอารมณ์ทางเพศหรือสุขภาพเพศโดยรวมที่ดีกว่าคนทั่วไป ยกเว้นว่าระดับค่าฮอร์โมนชนิดนี้จะสูงผิดปกติ นั่นอาจเป็นสัญญาณของภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือ Polycystic Ovarian Syndrome : PCOS ได้</li></ul>การใช้เทสโทสเตอร์โรนช่วยบูสต์อารมณ์ทางเพศของผู้หญิงได้จริงไหม?<ul style="margin-top:0;margin-bottom:0;padding-inline-start:48px;"><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนบางเคส อาจประสบภาวะหมดความต้องการทางเพศ หรือมีความต้องการทางเพศที่ลดลง การใช้เทสโทสเตอร์โรนในโดสที่เหมาะสมจะสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์และความต้องการทางเพศได้ รวมไปถึงข้อดีตรงที่มันช่วยบูสต์ความตื่นตัว การถึงจุดสุดยอด แบบที่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ผู้หญิงจะมีโอกาสได้รับประสบการณ์ ‘ความพึงพอใจ’ ทางเพศได้ดีขึ้น&nbsp;</li><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">อย่างไรก็ตาม กลไกการทำงานในเรื่องเพศของผู้หญิงนั้นค่อนข้างซับซ้อนกว่านั้น อารมณ์และความต้องการทางเพศของผู้หญิงอาจประกอบด้วยหลายเหตุปัจจัยมากกว่าเรื่องของระดับฮอร์โมชนิดนี้ในร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงปัจจัยที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง เช่น อาการเจ็บปวดเรื้อรัง ภาวะซึมเศร้า ความเครียด หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างคู่ของเรากับตัวเราด้วย</li></ul>การใช้เทสโทสเตอร์โรนมีผลข้างเคียงอย่างไร? &nbsp; &nbsp;<ul style="margin-top:0;margin-bottom:0;padding-inline-start:48px;"><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">ในปัจจุบัน องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ F.D.A. ยังไม่ได้มีการรับรองฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนในผู้หญิง แม้ว่าจะมีการรับรองผลิตภัณฑ์เทสโทสเตอร์โรนในเพศชายมากกว่า 31 ผลิตภัณฑ์ก็ตาม (อันที่จริงแล้ว F.D.A. ยังไม่มีการรับรองผลิตภัณฑ์ยาใดๆ ที่ช่วยบำบัดเยียวยาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศของผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนโดยตรง นอกเหนือจากตัวยา 2 ชนิดคือ Addyi และ Vyleesi ที่เพียงช่วยเยียวยาภาวะที่เกิดจากการเข้าสู่วัยเหมดประจำเดือนเท่านั้น)&nbsp;</li><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">แม้ว่าหลักฐานทางการแพทย์จะพบผลเคียงที่ค่อนข้างน้อย แต่การใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนก็ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของเเพทย์ เพราะหากใช้ในระดับที่สูงจนเกินไปเป็นระยะเวลานาน ในบางรายอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ทั้งทางด้านร่างกายและอารมณ์ เช่น เสี่ยงต่อการเป็นหมัน ผมขาดหลุดร่วง ผมบาง แต่ไปทำให้เกิดเส้นขนบริเวณใบหน้าและลำตัวแทน ทำให้เกิดสิว ทำให้เสียงใหญ่ขึ้น เพิ่มความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก เลือดออกในช่องคลอด และเพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเมื่อร่างกายเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน นอกจากนั้นยังอาจส่งผลทางอารมณ์ เช่น แปรปรวนง่าย ก้าวร้าว และขัดขวางการตอบสนองทางเพศอื่นๆ ได้อีกด้วย &nbsp;</li></ul>แล้วทางเลือกของเทสโทสเตอร์โรนแบบปลอดภัยมีอะไรบ้าง? <ul style="margin-top:0;margin-bottom:0;padding-inline-start:48px;"><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">ท่ามกลางข้อจำกัดเหล่านี้ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดซึ่งผู้เชี่ยวชาญแนะนำก็คือการใช้เทสโทสเตอร์โรนแบบเจล ทาบริเวณน่องหรือต้นขา ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยบูสต์อารมณ์ทางเพศของผู้หญิงได้&nbsp;</li><li dir="ltr" style="list-style-type:disc;font-size:13pt;font-family:Arial,sans-serif;color:#000000;background-color:transparent;font-weight:400;font-style:normal;font-variant:normal;text-decoration:none;vertical-align:baseline;white-space:pre;">เช่นเดียวกับการใช้ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนควบคู่ไปกับการปรึกษานักเพศวิทยายังอาจเป็นทางเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ตรงจุดทั้งเรื่องสุขภาพโดยรวมและสุขภาพเพศที่แตกต่างกันของแต่ละคนได้ดีกว่า และมีความเสี่ยงน้อยกว่าในระยะยาว เพราะฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรน เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะไม่สามารถระบายออกได้ในเวลาอันสั้น ทำให้หลายๆ เคสที่ได้รับฮอร์โมนและเกิดผลข้างเคียงต้องทนรับผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ได้ในระยะสั้นและระยะยาว&nbsp;</li></ul>อ้างอิง<a href="https://www.nytimes.com/2025/02/04/well/testosterone-therapy-menopause.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.nytimes.com/2025/02/04/well/testosterone-therapy-menopause.html</a><a href="https://www.bumrungrad.com/th/conditions/hypogonadism-low-testosterone" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bumrungrad.com/th/conditions/hypogonadism-low-testosterone</a>

Charlotte Chopin ก็คือคุณยายชาวฝรั่งเศสวัย 102 ปี จาก Léré หมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นลัวร์ ของฝรั่งเศส ผู้เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของผู้สูงวัยที่ไม่ใช่แค่หมายถึงตัวเลขอายุที่ยืนยาว แต่ยังหมายถึงการใช้ชีวิตอยู่ในทุกๆ วันที่เหลือของชีวิตอย่าง ‘มีคุณภาพ’

Charlotte Chopin ครูสอนโยคะชาวฝรั่งเศสวัย 102 ปี อีกหนึ่งแรงบันดาลใจของการอายุยืนอย่าง ‘มีคุณภาพ’ ที่สุขภาพจิตสำคัญพอๆ กับสุขภาพกาย

ในวันที่ทุกคนต่างรีบเร่ง มีภาระหน้าที่ต้องทำวันละล้านอย่าง ลำพังแค่จะเติมเต็มความสุขของตัวเองก็ยากพออยู่แล้ว เรายังจำเป็นแค่ไหนที่ต้องสละพลังงานเกือบหมดหลอดนั้นไปกับการทำอะไรสักอย่าง ที่อาจจะไม่อยากทำเท่าไร เพียงเพราะต้อง ‘เอาสังคม’ และความไม่สบายตัวจากการต้องการสละเวลากับพลังงานอันมีค่าของเราเพื่อคนอื่นนี้น่ะ เป็นราคาที่เราต่างต้องจ่ายไปเพื่อแลกกับการมีความสัมพันธ์กับสังคมจริงหรือ? 


‘ราคาของการเข้าสังคมคือความไม่สบายตัว’? ชวนทบทวนการสร้าง Boundary จริงไหมที่การเลือกตัวเองก่อน และสร้างขอบเขตมากเกินไปในความสัมพันธ์ของคนยุคใหม่ กำลังทำลาย Social Connection และทำให้มนุษย์รู้สึกแปลกแยกมากขึ้น

เคยไหมที่บางครั้งรู้สึกหน่วงๆ ติดขัดกับความรู้สึก สิ่งที่เคยชอบทำ ทำแล้วรู้สึกดีมีความสุข อยู่ๆ ก็เหมือนว่ามันไม่ทำให้รู้สึกอะไรอีกต่อไป กิจกรรมที่เคยทำได้ง่ายๆ สบายๆ กลับต้องใช้ความพยายามและพลังงานมากขึ้นกว่าจะลากตัวเองขึ้นมาอย่างยากเย็นเพื่อทำให้สำเร็จ และบางครั้งความสามารถที่จะรู้สึกจอยกับสิ่งต่างๆ รอบตัวที่เคยทำให้เป็นสุขหรือทำให้อยากมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งนั้นหายไปไหนก็ไม่รู้

อยู่ๆ ที่เคยมีความสุข ก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว… 
รู้จัก Anhedonia ภาวะสิ้นยินดีที่ทำให้รู้สึกว่างเปล่า เฉยชา ไม่สามารถสัมผัสความสุขได้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของอาการป่วยทางใจ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Health

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS