ในหลายประเทศ ‘ความสูง’ กลายเป็นอีกหนึ่ง Standard ในการการันตีโอกาสที่เด็กยุคนี้อาจได้รับเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น และนั่นส่งผลให้พ่อแม่จำนวนมากที่มีเงินถึง ซึ่งรวมถึง ‘อินฟลูเอนเซอร์’ ที่ส่งอิทธิพลโดยตรงต่อสังคม เริ่มตอบรับเทรนด์ในการพาลูกไปฉีด Growth Hormones

เทรนด์การฉีด Growth Hormones อีกหนึ่งคำตอบของพ่อแม่มีเงิน ที่อยากให้ลูก
โตมาสูงๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเริ่มเตือนถึงผลข้างเคียง ตั้งแต่กะโหลก กระดูก จนถึงหัวใจ

ในหลายประเทศ ‘ความสูง’ กลายเป็นอีกหนึ่ง Standard ในการการันตีโอกาสที่เด็กยุคนี้อาจได้รับเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น และนั่นส่งผลให้พ่อแม่จำนวนมากที่มีเงินถึง ซึ่งรวมถึง ‘อินฟลูเอนเซอร์’ ที่ส่งอิทธิพลโดยตรงต่อสังคม เริ่มตอบรับเทรนด์ในการพาลูกไปฉีด Growth Hormones เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของเด็ก ด้วยหวังว่าจะทำให้ลูกโตไปไม่เตี้ย หรือไม่ด้อยไปกว่าเพื่อน&nbsp;ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันเสียก่อนว่าการฉีด Growth Hormones นั้น ที่ผ่านมามักถูกใช้ในทางการแพทย์สำหรับกรณีที่เด็กมี ‘โรค’ หรือมีภาวะด้านการเจริญเติบโต เช่นเด็กขาด Growth Hormones โดยธรรมชาติ หรือเด็กที่เกิดมาตัวเล็กกว่าปกติเมื่อเทียบกับอายุครรภ์ หรือ ภาวะทารกเติบโตในครรภ์ช้า ซึ่งมีปัจจัยมาจากพันธุกรรมหรือความผิดปกติในครรภ์ สำหรับเด็กที่มีปัญหาด้านการเจริญเติบโต การได้รับการรักษาด้วย Growth Hormones มักมีอัตราการเจริญเติบโตมากขึ้นอย่างชัดเจน ในหลายกรณีสามารถเพิ่มความสูงเมื่อโตเต็มที่ได้อีกหลายเซนติเมตรแต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่าพ่อแม่หลายคนต้องการให้ลูกตัวเองซึ่งอาจจะมีความสูงที่หลากหลายตามปกติของมนุษย์ เข้ารับการฉีด Growth Hormones โดยที่อาจยังไม่ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับสุขภาพของลูก เช่นที่เกาหลีใต้ มีรายงานการฉีด Growth Hormones เพิ่มขึ้น โดยที่พ่อแม่จำนวนมากเลือกลงทุนแม้ลูกจะไม่ได้มีภาวะขาดฮอร์โมนที่ชัดเจน ขณะที่ประเทศจีนมีอัตราการฉีด Growth Hormones สูงเป็นอันดับต้นๆ เพราะพ่อแม่หลายคนกลัวว่าเด็กที่ไม่สูงจะ ‘เสียเปรียบ’ ในด้านสังคมและการศึกษา&nbsp;แต่ขณะที่เทรนด์เริ่มโต ล่าสุดนี้เริ่มมีผู้เชี่ยวชาญทั้งในไทยและต่างประเทศ ที่ออกมาเตือนถึง ‘ผลข้างเคียง’ ของการฉีด Growth Hormones กันแล้ว&nbsp;ว่าแต่ความเสี่ยงและผลข้างเคียงของการฉีด Growth Hormones มีอะไรบ้าง?บทความ The Rising Popularity of Growth Hormone Therapy and Ensuing Orthopedic Complications in the Pediatric Population (MDPI, 2024) และองค์การกุมารแพทย์แห่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ได้สรุปผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีด Growth Hormone (GH) ในเด็กไว้ดังนี้Idiopathic Intracranial Hypertension – ภาวะความดันในกะโหลกสูง ซึ่งส่งผลต่อการปวดหัวเรื้อรังSlipped Capital Femoral Epiphysis – หัวกระดูกต้นขาหลุดเลื่อนจากคอกระตูกต้นขาScoliosis – กระดูกสันหลังคด
-Osgood–Schlatter Disease – การอักเสบและปวดที่กระดูกหน้าแข้งบริเวณใต้เข่ากระดูกหัก – เสี่ยงเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเจริญเติบโตของกระดูกเร็วเกินปกติArthralgia และ Myalgia – อาการปวดข้อและปวดกล้ามเนื้อEdema – อาการบวม โดยเฉพาะที่ขาและเท้าCarpal Tunnel Syndrome – อาการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือความเสี่ยงต่อปัญหาระบบเผาผลาญ – เช่น insulin resistance และการเผาผลาญที่ต่ำลงไม่เพียงเท่านั้นยังมีงานวิจัยเมื่อปี 2020 ซึ่งพบว่าผู้ที่ได้รับ GH ตั้งแต่เด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น เลเวลเสี่ยงสัมพันธ์กับระยะเวลาและขนาดยาที่ใช้ รวมถึงมีความกังวลความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเนื่องจาก GH อาจกระตุ้น IGF-1 ซึ่งมีความสัมพันธ์กับเซลล์มะเร็งขึ้นมาได้ดังนั้นเราอาจต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่า ‘เทรนด์’ นั้นมักเกิดขึ้นพร้อมกับการดำเนินธุรกิจเสมอๆ และยิ่งเทรนด์คาดหวังให้ผู้คนสร้างมาตรฐานเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น อย่างเช่นเรื่องความสูงของเด็ก ผู้ปกครองก็ยิ่งควรตระหนักถึงแง่มุมต่างๆ ของมันให้ครบถ้วน และไม่ลืมที่จะพิจารณาถึงวิธีการสร้าง Growth Hormones ผ่านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการพักผ่อนที่ดี ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมากขึ้นด้วยเพราะที่สุดแล้ว พ่อแม่ที่ตอบรับเทรนด์บางเทรนด์ อาจกลายเป็นผู้ที่ต้องมองเห็นลูกของตัวเองได้รับผลกระทบจากบางสิ่งที่เราเป็นคนหยิบยื่นให้เขาเอง และวันที่ได้รู้ เราก็อาจจะเปลี่ยนผลกระทบเหล่านั้นไม่ได้เสียแล้วอ้างอิง<a href="https://www.facebook.com/SpoiledPediatrician" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.facebook.com/SpoiledPediatrician</a>&nbsp;<a href="https://www.mdpi.com/2227-9067/11/11/1354?utm_source=chatgpt.com" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.mdpi.com/2227-9067/11/11/1354?utm_source=chatgpt.com</a> &nbsp;<a href="https://www.medicalnewstoday.com/articles/312905#why-use-human-growth-hormone-hgh" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.medicalnewstoday.com/articles/312905#why-use-human-growth-hormone-hgh</a>&nbsp;<a href="https://www.koreabiomed.com/news/articleView.html?idxno=22694&utm_source=chatgpt.com" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.koreabiomed.com/news/articleView.html?idxno=22694&amp;utm_source=chatgpt.com</a>&nbsp;<a href="https://www.scmp.com/news/people-culture/social-welfare/article/3145686/parents-china-are-giving-their-children-growth?utm_source=chatgpt.com" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.scmp.com/news/people-culture/social-welfare/article/3145686/parents-china-are-giving-their-children-growth?utm_source=chatgpt.com</a>&nbsp;<a href="https://jamanetwork.com/journals/jamapediatrics/fullarticle/2773797?utm_source=chatgpt.com" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://jamanetwork.com/journals/jamapediatrics/fullarticle/2773797?utm_source=chatgpt.com</a>&nbsp;<a href="https://www.rch.org.au/uploadedFiles/Main/Content/endo/ANZSPED%20Factsheet.pdf?utm_source=chatgpt.com" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.rch.org.au/uploadedFiles/Main/Content/endo/ANZSPED%20Factsheet.pdf?utm_source=chatgpt.com</a>&nbsp;

“ได้เวลาขมิบแล้ว!! เพียงบีบกล้ามเนื้ออุ้มเชิงกรานและก้นพร้อมกัน เหมือนเวลากลั้นปัสสาวะและอุจจาระไปด้วยนั่นแหละ”

ขมิบจิ๋มวันละนิด จิตแจ่มใส กับวิดีโอสอนบริหารอุ้งเชิงกรานของ Heidi Barlow 
นักกายภาพบำบัดเฉพาะทางอุ้งเชิงกราน
วิธีง่ายๆ ที่ช่วยบรรเทาปัญหาการขับถ่าย 
และคลายอาการปวดท้องน้อยของผู้หญิง

ทางเลือกอย่างถุงยางอนามัยและการทำหมัน ยังคงเป็นทางเลือกในการคุมกำเนิดของผู้ชายที่มีประสิทธิภาพที่สุดในปัจจุบัน แต่ล่าสุดยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายชนิดเม็ดแบบไร้ฮอร์โมน ชื่อ YCT-529 ซึ่งผ่านการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ระยะที่ 1 เป็นที่เรียบร้อย อาจกลายเป็นความหวังที่เข้าใกล้การคุมกำเนิดผู้ชายและช่วยให้เราสามารถวางแผนครอบครัวได้ดีขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป 

YCT-529 ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชาย
ผ่านการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ระยะที่ 1 เป็นที่เรียบร้อย และอาจเป็นความหวังใหม่ของการคุมกำเนิดอย่างเท่าเทียมในอนาคต  

บทสนทนาเจ็บปวด ความไม่เข้าใจกัน ความเหินห่างเฉยชา หรือข้อความ Dry text ฯลฯ อาจเป็นสัญญาณของความสัมพันธ์ที่กำลังจะหมดใจและถึงคราวต้องจบลง แต่หลักการทั้งหมดนี้อาจจะใช้ไม่ได้ไปเลยกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกว่านั้น อย่างที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ หนึ่งในนั้นก็คือการจบความสัมพันธ์แบบไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยการ Ghosting ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ดูหวานฉ่ำกันมาดีๆ แท้ๆ

วันก่อนรู้สึกจริงๆ แต่วันนี้ไม่รู้สึกแล้ว ชวนสำรวจพฤติกรรม Love Bomb ที่เล่นกับใจ ทำเหมือนคลั่งรัก และให้ความหวังแบบเกินจริง ซึ่งบางครั้งก็อาจจบลงด้วยการ Ghosting กันแบบดื้อๆ

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Health

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS