มะเร็งรังไข่ พบได้มากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี ซึ่งล่าสุดมีงานวิจัยออกมาบอกว่า บางอาชีพที่ผู้หญิงทำ เช่น ช่างทำผม ช่างตัดเย็บ นักบัญชี มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการเป็นมะเร็งรังไข่

งานวิจัยเผย ช่างทำผม ช่างตัดเย็บ และนักบัญชีที่นั่งกับที่นานๆ (รวมถึงพนักงานออฟฟิศ) เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งรังไข่

นอกจากมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งปากมดลูก ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ และพบได้บ่อยในผู้หญิงและผู้มีรังไข่ ‘มะเร็งรังไข่’ จึงเป็นอีกหนึ่งประเภทของมะเร็งที่พบได้มากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี และเราไม่ควรมองข้ามมันไป ซึ่งล่าสุดก็มีงานวิจัยจากประเทศแคนาดาออกมาบอกว่า บางอาชีพที่ผู้หญิงทำ เช่น ช่างตัดผม ช่างทำผม ช่างเสริมสวย ช่างตัดเย็บ นักบัญชี พนักงานค้าปลีก มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการเป็นมะเร็งรังไข่ เนื่องจากสภาพแวดล้อมและกิจวัตรประจำวันในสายอาชีพที่ต้องสัมผัสกับสารก่อมะเร็งเอื้อต่อการเป็น งานวิจัยดังกล่าวอยู่ในวารสาร Occupational and Environmental Medicine ที่ตีพิมพ์ใน BMJ เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2566 ซึ่งผู้เข้าร่วมเป็นผู้หญิงอายุ 18-79 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองแคนาดา เพื่อหาคำตอบถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาชีพที่ผู้หญิงทำกับโอกาสการเกิดโรคมะเร็งรังไข่ นักวิจัยได้เปรียบเทียบผู้หญิงในท้องถิ่นที่เป็นมะเร็งรังไข่ 498 คน กับผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นมะเร็งรังไข่ 897 คน ผลการวิจัยชี้ให้เป็นความสัมพันธ์กับการประกอบอาชีพของผู้หญิงตรงที่ ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งรังไข่มักจะทำอาชีพที่ต้องสัมผัสกับสารก่อมะเร็งอยู่เป็นประจำ และนั่นอาจเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่สูงในการเป็นมะเร็งรังไข่ โดยนักวิจัยได้ระบุสารก่อมะเร็งที่อาจเกิดขึ้นได้เช่น สารฟอกขาว, สีย้อม, แป้งทัลคัมที่อยู่ในการแต่งหน้าหรือแป้งจัดแต่งทรงผม, โพลีเอสเตอร์ และเส้นใยสังเคราะห์อื่นๆ อาชีพที่เข้าเกณฑ์ความเสี่ยงที่ว่าได้แก่ ช่างทำผม (Hairdressers) ช่างตัดผม (Barbers) ช่างเสริมสวย (Beauticians) ที่มีความเสี่ยงของมะเร็งรังไข่เพิ่มขึ้นสามเท่าหลังจากทำงานมา 10 ปี เนื่องจากอาจเกิดจากปฏิกิริยากับสารฟอกขาวและผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมเป็นประจำ ถัดมาคือนักบัญชี (Accountants) ที่ทำงานมาในระยะสิบปีหรือมากกว่านั้น มีความเสี่ยงเป็นสองเท่าที่จะเกิดเป็นมะเร็งรังไข่ เนื่องจากอาจเกี่ยวข้อกับพฤติกรรมการนั่งอยู่กับที่ขณะทำงานอยู่นานๆ (ในที่นี่ หากมองไกลไปถึงพนักงานออฟฟิศอื่นๆ ที่นั่งทำงานอยู่กับที่ ไม่ค่อยลุกไปไหน ก็อาจมีความเสี่ยงได้เหมือนกัน) ยังมีอาชีพเย็บปักถักร้อย (Sewers and Embroiderers) ที่สัมผัสกับเส้นใยสังเคราะห์และโพลีเอสเตอร์เป็นประจำ ก็มีโอาสสูงที่จะเป็นมะเร็งรังไข่ถึงร้อยละ 85 เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ดร.อานิต้า คูชิก (Anita Koushik) ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยชิ้นนี้ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์สังคมและป้องกัน มหาวิทยาลัยมอนทรีออลกล่าวว่า “เราต้องการการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถระบุและคอนเฟิร์มอันตรายจากการประกอบอาชีพประการใดที่นำไปสู่การพัฒนาโรคมะเร็งในสตรี” และเธอยืนยันว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ได้หมายความว่าให้ผู้หญิงทุกคนหลีกเลี่ยงการทำอาชีพเหล่านี้ เพียงแต่ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับอันตรายจากการทำงานที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงเพียงเท่านั้น เรื่องของมะเร็งรังไข่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับผู้มีรังไข่ทุกคน การที่เรารู้เท่าทันถึงสารเคมีบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดโรคนับเป็นเรื่องที่เราอาจหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่เราอาจสามารถปรับได้เลย หรือหากเป็นอาชีพที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงสารเคมีดังกล่าวได้ จึงจำเป็นต้องมีงานวิจัยอื่นๆ มารองรับให้เกิดความหนักแน่นเพิ่มขึ้น เพื่อให้เกิดมาตรการควบคุมบางอย่างที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้หญิงในอนาคต อ้างอิง: <a href="https://www.everydayhealth.com/ovarian-cancer/hairdressers-accountants-and-beauticians-increased-risk-for-ovarian-cancer/#:~:text=Women%20working%20as%20beauticians%2C%20hairdressers,July%2010%20in%20the%20BMJ." rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.everydayhealth.com/ovarian-cancer/hairdressers-accountants-and-beauticians-increased-risk-for-ovarian-cancer/#:~:text=Women%20working%20as%20beauticians%2C%20hairdressers,July%2010%20in%20the%20BMJ.</a> <a href="https://oem.bmj.com/content/80/9/489" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://oem.bmj.com/content/80/9/489</a>&nbsp;

จากผลิตภัณฑ์เสริมความงาม จนถึงเสื้อผ้าแฟชั่น และของแต่งบ้านสุดเก๋ ตอนนี้ Harry Styles เริ่มต้นเจาะตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาวะทางเพศด้วยสองไอเท็มล่าสุดกับไลน์ Pleasing Yourself ไวเบรเตอร์สองหัว และเจลหล่อลื่นซิลิโคนพรีเมียม ที่ร่วมพัฒนากับนักเพศวิทยา Zoe Ligon กับความตั้งใจให้คนสร้างความสุขด้วยตัวเอง โดยไม่ตัดสินและไม่รู้สึกผิด ภายใต้สโลแกน ‘Please Yourself Like You Mean It'  หรือ 'โปรดมอบความสุขให้ตัวเองอย่างตั้งใจ'

‘Please Yourself Like You Mean It' 
Harry Styles กับการออกเซ็กซ์ทอย Pleasing Yourself ที่อยากให้ ‘เซ็กซ์’ เป็นพื้นที่แห่งการเข้าใจตัวเอง 

อาจเป็นคำถามในใจของใครหลายคนเมื่อเห็นดีว่าตัวแม่อยู่บนเวที ไม่ว่าจะเป็น Beyonce ที่มี Sasha Fiece เป็นสาวแซ่บบนเวที, Adele ที่มี Sasha Carter โดยหยิบ Sasha ของ Beyonce มาผสมกับนักร้องคันทรี่อย่าง Jane Carter ช่วยเพิ่มความมั่นใจขณะร้องเพลง หรือ Lisa ที่มีอัตตาตัวตนมากถึง 5 คน ที่พกพลังความเฟียซมาแบบเต็มเปี่ยมในหลายสไตล์ สาวๆ เหล่านี้มีอาวุธในการแสดงความมั่นใจที่เหมือนกัน นั่นก็คือ ‘Alter Ego’ หรือ อีก ‘ตัวตนหนึ่ง’ นั่นเอง

ทำไมเหล่าตัวแม่ตัวมัมต้องมี Alter Ego เครื่องมือเสริมความมั่นใจ ซึ่งช่วยหยิบเวอร์ชั่นที่เราอยากเป็น เพื่อรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อยู่หมัด

อีกชื่อหนึ่งของการเดตแบบนี้ก็คือ Cosplay Commission ซึ่งก็สื่อตรงตัวถึงธุรกิจอย่างหนึ่งของนักคอสเพลย์ ที่ตอบโจทย์บางคนที่อยากลองเดตกับตัวละครสองมิติในรูปแบบสามมิติดูบ้าง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Health

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS