เธอคือนางแบบผู้รับประทาน ‘จู๋’ เป็นอาหารเช้าก่อนมาเดินสับบนรันเวย์ Victoria’s Secret เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และแน่นอนว่าเธอแค่ตั้งใจเล่นมุก เพราะความติดตลกคืออาวุธลับของเธออยู่แล้ว 

“จริตและเอเนอร์จี้ของฉันน่ะ 
มาจากพี่สาวทรานส์คนดำล้วนๆ เลยค่ะ”
เติมไฟความมั่นและความมันไปกับ Alex Consaniนางแบบทรานส์ดาวรุ่ง ที่หลงรักจริตคนดำเข้าเส้น

เธอคือนางแบบผู้รับประทาน ‘จู๋’ เป็นอาหารเช้าก่อนมาเดินสับบนรันเวย์ Victoria’s Secret เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และแน่นอนว่าเธอแค่ตั้งใจเล่นมุก เพราะความติดตลกคืออาวุธลับของเธออยู่แล้ว เธอยังเป็นวัยรุ่นสาวเจนซีตัวจี๊ดแห่งโลกติ๊กต่อก ที่ไม่ว่าจะทำกี่คอนเทนต์ก็กลายเป็นไวรัลแทบทั้งหมด ด้วยคาแรกเตอร์ที่หาตัวจับยาก เซนส์แฟชั่นเฉียบขาดไม่แพ้เซนส์อารมณ์ขันทะเล้นๆ ไม่เก็บไม่งำ อย่างตอนที่เธอแต่งตัวน้อยชิ้นแต่สุดชิค เดินขึ้นรถไฟใต้ดินในนิวยอร์กและตั้งคำถามอย่างซีเรียสว่า “ทำไมในนิวยอร์กไม่มีใครแต่งตัวดอกทองกันเลยคะ?”&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/TE1gB4sXxaNLep1V2MIQ9cfqwvQh6O9qAX3y4r4JhaWp1V2cUe9vA1.jpg" data-id="101993" data-url="https://media.thairath.co.th/image/TE1gB4sXxaNLep1V2MIQ9cfqwvQh6O9qAX3y4r4JhaWp1V2cUe9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">และเธอคนนี้ก็คือนางแบบทรานส์ที่อายุน้อยที่สุดที่เคยได้เซ็นสัญญากับโมเดลเอเจนซี่ ทั้งยังเป็นทรานส์คนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Model of the Year โดยบริติช แฟชั่น เคาน์ซิล ดังนั้นการมาของอเล็ก คอนซานี (Alex Consani) จึงน่าจดจำและน่าพูดถึงในหลายแง่มุม โดยเฉพาะความมั่นและความมันของเธอ ที่เป็นอีกส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้เธอคนนี้ถูกยกให้เป็นเจ้าหญิงแห่งวงการคนใหม่ในดวงใจชาวเน็ตไปแล้ว แน่นอนว่าคอนซานีรู้ดีว่าเธอมีพริวิเลจในแง่ของรูปลักษณ์ที่ทั้งผอม สูง ผิวขาว หน้าตาพิมพ์นิยม เธอไม่ได้ปฏิเสธมัน แต่สำหรับเธอความน่าสนใจคือรูปลักษณ์นี้นั้นเต็มไปด้วย ‘จริตคนดำ’ ที่เธอหลงรักและทำให้เธอเป็นเธอในวันนี้ “จริตและเอเนอร์จี้ของฉันน่ะได้มาจากพี่สาวทรานส์คนดำล้วนๆ เลยค่ะ คนอาจจะเห็นว่าฉันเซ็กซี่ขี้เล่นและแตกต่าง แต่ถ้าคุณไปอยู่กับพี่สาวคนดำ เอเนอร์จี้ของพวกเธอคือแบบนี้เลย และฉันอยากร่วมเชิดชูเอเนอร์จี้นี้ในฐานะคนขาวน่ะค่ะ”&nbsp;“ในหัวฉันมักจะนึกภาพตัวเองเป็นนางสิงโตสาว ฉันบอกตัวเองว่า เอาเลย เริ่มเลย ไปค่ะหญิง” นี่คือเอเนอร์จี้ของคอนซานีตลอดเส้นทางในวงการแฟชั่นของเธอ ที่เน้นเติมไฟความมั่นและความมันในตัวเองเพื่อจะเดินไปข้างหน้าให้เริ่ดที่สุดเท่าที่จะทำได้ และแน่นอนว่าเธอไม่ได้เดินหน้าเพื่อตัวเอง แต่เธอยังอยากส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนอื่นด้วย การมีนางแบบทรานส์เดินบนรันเวย์ของแบรนด์ใหญ่ๆ ไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ขนาดนั้นแล้ว แต่สำหรับคอนซานี เธอมองว่าการมีตัวแทนของกลุ่มคนหลากหลายได้ปรากฏตัวบนหน้าสื่อยังคงสำคัญอยู่ดี และยังคงต้องการจำนวนคนรวมถึงคาแรกเตอร์ที่มากขึ้นกว่านี้ เพราะตัวเธอเองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการได้รับแรงบันดาลใจจากทรานส์คนอื่นๆ ที่เจอที่ทางของตัวเองได้ตั้งแต่อายุอย่างน้อย ไม่ว่าจะเป็น Ella Snyder ที่เป็นมิวส์ของ Diesel หรือ Jazz Jenning นักเคลื่อนไหวเรื่องสิทธิทรานส์ “พอฉันเห็นพวกเธอทำสิ่งที่อยากทำได้สำเร็จแล้วมันบันดาลใจมากๆ ค่ะ” คอนซานีบอก คอนซานีได้เจอกับเพื่อนๆ เหล่านี้ในทรานส์ซัมเมอร์แคมป์ และหลังจากได้เห็นทรานส์คนอื่นๆ ทำในสิ่งที่เชื่อจนสำเร็จ เธอเองก็อยากลองทำสิ่งที่ฝันบ้าง คอนซานีกลับบ้านไปบอกแม่ว่าอยากเป็นนางแบบ และแม่ของเธอนี่เองที่ช่วยตามหาเอเจนซี่ให้จนเจอกับ Slay Model Management ในซานฟรานซิสโกที่เลือกทำงานกับนางแบบทรานส์โดยเฉพาะ จากนั้นเมื่อเธออายุได้ 16 ปี ก็มีโอกาสเซ็นสัญญากับ IMG Models และย้ายมาอยู่นิวยอร์กในที่สุด<img src="https://media.thairath.co.th/image/tucspdiQd2yFwVM99MWn3Qr1QAMhKmAAdNkzhzAUVp1V2ce9vA1.jpg" data-id="101993" data-url="https://media.thairath.co.th/image/tucspdiQd2yFwVM99MWn3Qr1QAMhKmAAdNkzhzAUVp1V2ce9vA1.jpg" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">และจนถึงปัจจุบันที่เธออายุ 21 ปี เธอยังคงหลงรักในแฟชั่นพร้อมๆ กับที่สนุกกับการบอกเล่าความเป็นตัวเองผ่านโลกออนไลน์ เพียงแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือ ณ ตอนนี้ โลกได้มองเห็นเธอแล้ว เธอได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย และการได้เดินบนรันเวย์ของ Victoria’s Secret ที่ผู้บริหารคนเก่าเคยปฏิเสธทรานส์มาก่อน ก็ยิ่งกลายเป็นหมุดหมายใหม่ที่เธอดีใจที่มาถึง ซึ่งเธอก็ยกความดีความชอบส่วนหนึ่งให้กับเหล่านางแบบทรานส์รุ่นพี่ที่เคยกรุยทางทางวงการแฟชั่นเอาไว้ให้ “ฉันเริ่มเข้าสู่วงการแฟชั่นตอนที่คนกำลังมองหาความหลากหลายอยู่พอดี ฉันได้คุยกับแม่ๆ นางแบบทรานส์หลายคนเลย ทั้งโดมินิค แจ็กสัน หรือ คอนนี เฟลมมิง ประสบการณ์ของพวกเธอน่ะเริ่ดมาก ซึ่งพอได้ยินว่าพวกเธอได้ทำอะไรใหม่ๆ เพื่อผลักขอบเขตเดิมๆ ออกไปมากแค่ไหน จนฉันเองมาได้จนถึงตรงนี้ ฉันไม่กล้าจะเทียบสิ่งที่ตัวเองต้องเจอกับสิ่งที่พวกเธอต้องเจอเลยล่ะค่ะ” เธอเล่าอย่างนั้น แต่อันที่จริงเธอก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันไม่ต่างกับรุ่นแม่ๆ พี่ๆ เนื่องจากในปัจจุบัน ทรานส์เจนเดอร์กำลังเป็นเป้าโจมตีหลักของกลุ่ม Transphobia ในอเมริกา “บางคนก็ยังคงมีความทรานส์โฟบ หรือมีท่าทีรับไม่ได้อยู่ นั่นก็เพราะในทางสังคมแล้วพวกเขาไม่ได้ทำความเข้าใจพวกเราเลยน่ะ” เธอบอก น่าสนใจที่แม้ ณ วันนี้วงการแฟชั่นจะเปิดประตูไปสู่ความหลากหลายแล้ว แต่สำหรับคอนซานี เธอมองว่ามันยังเป็นความหลากหลายที่ ‘ย่อยง่าย’ ไปหน่อย เพราะบางครั้งโมเดลที่มีความพิการ พลัสไซส์ หรือมีความหลากหลายทางเพศ ยังคงเป็นเพียง ‘สีสัน’ หรือเครื่องบ่งชี้ความหลากหลายในโชว์นั้นๆ เพื่อให้รู้ว่ามี แต่ยังไม่ได้ถูกพิจารณาเทียบเท่ากับโมเดลกระแสหลักโดยทั่วไปอยู่ดี อีกทั้งจำนวนและความถี่ในการได้ปรากฏตัวก็ยังถือว่าน้อยอยู่มาก “เวลาเราพูดถึงแฟชั่น มันหมายถึงเรากำลังพูดถึงสิ่งที่สังคมมองว่าสวยงามหรือยอมรับได้น่ะค่ะ แต่ฉันยังไม่เห็นคนอื่นๆ ที่ส่งแรงบันดาลใจให้ฉัน ได้รับการสนับสนุนแบบที่ฉันได้รับเลย ซึ่งมันน่าผิดหวังหน่อยๆ แบบ ไหนล่ะนางแบบทรานส์ที่มีหลากหลายสีผิวจริงๆ ไหนล่ะนางแบบทรานส์จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไหนล่ะนางแบบทรานส์ที่เป็นอเมริกันพื้นเมืองหรือชาวเผ่า?” ดูเหมือนว่าคอนซานีมองความสำเร็จของตัวเองในวันนี้ในฐานะพื้นที่ที่จะได้ส่งเสียงออกไป ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเธอเองที่เป็นทรานส์ แต่เพื่อทรานส์อีกหลายคนในอีกหลายพื้นที่ทั่วโลกที่เธอล้วนแต่มองว่าเป็นพี่สาวน้องสาวกัน และสิ่งที่เธออยากเห็นนั้นก็คือวันที่ทรานส์ทุกคนได้มีสิทธิทำอย่างที่ตัวเองฝันโดยไม่ต้องมีเรื่องเพศสภาพมีกีดกัน ไม่ว่าจะในสาขาอาชีพไหนๆ นั่นเองรูป @Alexconsaniอ้างอิง<a href="https://www.teenvogue.com/story/alex-consani-2024-cover-story" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.teenvogue.com/story/alex-consani-2024-cover-story</a>&nbsp;<a href="https://www.interviewmagazine.com/fashion/im-diva-down-alex-consani-is-interviews-next-top-model" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.interviewmagazine.com/fashion/im-diva-down-alex-consani-is-interviews-next-top-model</a><a href="https://www.whowhatwear.com/fashion/cover-features/alex-consani-interview" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.whowhatwear.com/fashion/cover-features/alex-consani-interview</a><a href="https://www.interviewmagazine.com/fashion/im-diva-down-alex-consani-is-interviews-next-top-model" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.interviewmagazine.com/fashion/im-diva-down-alex-consani-is-interviews-next-top-model</a>

โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กำลังจะพาประเทศกลับสู่ความเป็นอนุรักษ์นิยม โดยเฉพาะเรื่อง ‘สิทธิคนข้ามเพศ’ ซึ่งอนาคตก็อาจขยับไปต่อต้านสิทธิ LGBTQ+ หลายๆ สิทธิ์อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น

ยุคทองอเมริกา (?) ที่กีดกันคนข้ามเพศเมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ จำกัดไม่ให้เด็กทรานส์ค้นหาตัวเอง แทรกแซงบริการสุขภาพเพศของทรานส์ และประกาศให้นับจากนี้ อเมริกามีแค่ “ชายกับหญิง”

ารใช้คำ และการพลิกแพลงความหมายของกระบวนการต่างๆ ทั้งตัวบุคคลมีชื่อเสียงเอง และในแวดวงความงาม อย่างการศัลยกรรมตกแต่ง รวมถึงการทำหัตถการ ชี้นำให้คนเข้าใจไปว่าทุกอย่างก็เป็น ‘สกินแคร์’ เหมือนๆ กันหมด หรือเป็นส่วนหนึ่งของการ ‘ดูแลตัวเอง’ เป็นเรื่องอันตรายกว่าที่คิด จากการที่มันสามารถสร้างค่านิยมเรื่องมาตรฐานความงามที่ผิด และสร้างการรับรู้ที่บิดเบี้ยวออกไปได้ 

ความอันตรายของการใช้ ‘คำคลุมเครือ’ 
ในวงการความงาม ที่อาจสร้างค่านิยมความงามที่บิดเบี้ยว

เราได้ชวน Finalist ส่วนหนึ่งมาพูดคุยกันสักเล็กน้อย เพื่อย้ำถึงพลังในปัจจุบันที่พวกเธอ ‘เชื่อ’ ณ วันนี้ ในอีเวนต์สุดพิเศษส่งท้ายปีอย่าง MIRROR50 : Celebration Event กับแคมเปญ MIRROR50 ที่มาในคอนเซ็ปต์ POWER of NOW : ตอนนี้แหละ เริ่มเลย

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Thoughts

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS