งานวิจัยชิ้นหนึ่งในอังกฤษได้ทำการศึกษาเรื่องฐานะทางสังคมที่มีผลกับเรื่องเซ็กซ์ของผู้คน พบว่าคนชนชั้นแรงงาน หรือคนที่มีฐานะทางสังคมไม่ดีนัก มีแนวโน้มว่าจะ ‘มีเซ็กซ์ครั้งแรก’ เร็วกว่า เมื่อเทียบกับคนชนชั้นกลางจนถึงคนมีฐานะทางสังคมสูงกว่า      

เรื่องของชนชั้น และประสบการณ์เซ็กซ์
เมื่องานวิจัยศึกษาเรื่องผู้หญิงในชนชั้นแรงงานที่มักถูก slut-shame มากกว่า และพลอยมองข้ามปัญหาเรื่อง sex-education


งานวิจัยชิ้นหนึ่งในอังกฤษได้ทำการศึกษาเรื่องฐานะทางสังคมที่มีผลกับเรื่องเซ็กซ์ของผู้คน พบว่าคนชนชั้นแรงงาน หรือคนที่มีฐานะทางสังคมไม่ดีนัก มีแนวโน้มว่าจะ ‘มีเซ็กซ์ครั้งแรก’ เร็วกว่า เมื่อเทียบกับคนชนชั้นกลางจนถึงคนมีฐานะทางสังคมสูงกว่า &nbsp; &nbsp; &nbsp;เรื่องนี้ไม่ได้ถูกหยิบยกมาพูดลอยๆ แต่ยืนยันได้จากการศึกษาของ ดร.แฮนนาห์ ชาร์นอค (Dr. Hannah Charnock) อาจารย์ด้านประวัติศาสตร์อังกฤษ มหาวิทยาลัย Bristol ผู้สนใจบริบททางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมเรื่องเซ็กซ์ของมนุษย์ ซึ่งพบว่าการที่คนคนหนึ่งมีเซ็กซ์ครั้งแรกในช่วงวัยไหนของชีวิตนั้นสามารถบอกได้ไปจนถึงสถานะทางสังคมของคนคนนั้นเลยทีเดียว&nbsp;งานวิจัยพบว่า คนจน คนชนชั้นแรงงาน หรือคนที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ที่ต้องโฟกัสอยู่กับการหาเลี้ยงปากท้อง มักจะไม่มีเวลามาคอยสนใจชีวิตรัก ชีวิตเซ็กซ์ของลูกหลานในครอบครัว เมื่อเทียบกับชนชั้นกลางหรือคนที่มีฐานะดีหน่อย ที่มีเวลาพอจะควบคุม ตั้งกฎเกณฑ์ ไปจนถึงจัดหาคู่ครองให้กับลูกหลานได้ว่าพวกเขาควรเดต หรือสร้างครอบครัวกับใคร อย่างไรซึ่งนั่นอาจเป็นข้อดีที่ทำให้ครอบครัวชนชั้นแรงงานได้เปรียบตรงที่ทำให้พวกเขามีทัศนคติต่อเรื่องเซ็กซ์อย่างอิสระ เสรี และเปิดกว้างมากกว่า เนื่องจากคนในครอบครัวปล่อยให้เด็กๆ มีโอกาส ‘Explore’ ประสบการณ์ในเรื่องเซ็กซ์ด้วยตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อยๆ และยังทำให้เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่สามารถพูดกันในครอบครัวได้อีกด้วยแต่ขณะเดียวกัน ในความเปิดกว้างเสรีเรื่องเซ็กซ์ที่มีมากกว่า กลับปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้คนจน คนชนชั้นแรงงาน โดยเฉพาะผู้หญิง ตกเป็นเป้าของการถูกตัดสิน และ ‘slut-shame’ มากกว่าด้วยเหมือนกัน อย่างที่จะเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอยู่แทบจะตลอดเวลาผ่านวัฒนธรรมป๊อปในหนังหรือซีรีส์หนึ่งในตัวอย่างนั้นก็คือ เมฟ ไวลีย์ (Maeve Wiley) ตัวละครหญิง นางเอกจากซีรีส์เรื่อง Sex Education ทาง Netflix ซึ่งมักจะตกเป็นเหยื่อของการดูถูกเหยียดหยัน ตัดสิน ถูกนินทาว่าร้ายเสียๆ หายๆ ต่างๆ นานา และถูก slut-shame จากสังคมของเธออยู่แทบตลอดเวลา เพียงเพราะเธอมีลุคแบบที่คนทั่วไปมองว่าเป็นเด็กสาว ‘กร้านโลก’ และมีวิถีเซ็กซ์ที่อิสระกว่าคนในวัยเดียวกัน แต่เธอดันเป็นคนจนที่มาจากสถานะทางสังคมต่ำกว่าคนอื่นๆ เท่านั้นเอง อย่างที่เพื่อนๆ แก๊งไฮโซในโรงเรียนใช้คำเรียกเธอว่า ‘กะหรี่’ และพูดเหยียดเธอว่า ‘ดูผมมันๆ ของนางสิ นางคงไม่มีปัญญาซื้อแชมพูละมั้ง’ หรือตอนหนึ่งที่เธอถูกเม้าท์ว่า ‘เคยได้ยินว่ายัยเมฟท้า Blow job ให้ผู้ชาย 12 คนได้ใน 10 นาที นี่ว่านางเป็นพวกนิมโฟ (Nympho - ผู้หญิงท่ีมีความต้องการทางเพศสูงมากกว่าปกติ) นะ’ ทัศนคติที่สังคมมีต่อผู้หญิงที่มาจากชนชั้นต่ำกว่าเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจว่า เพราะเหตุใดยิ่งผู้หญิงจากชนชั้นแรงงานมีอิสระหรือกล้าแสดงออกในเรื่องเซ็กซ์มากเท่าไร พวกเธอถึงยิ่งถูก slut-shame อย่างร้ายกาจมากขึ้นเท่านั้น เพียงเพราะ ‘Stereotype’ ที่ทำให้เกิดการคาดเดา เหมารวมว่าคนคนนั้นจะต้อง ‘เป็น’ อย่างไร จากรูปลักษณ์ เสื้อผ้าหน้าผม จากชีวิตความเป็นอยู่ จากฐานะทางการเงิน สถานะทางสังคม ไปจนถึงจากวิถีการเลี้ยงดูของครอบครัวของเขา ทั้งที่มันอาจตรงหรือไม่ตรงกับความเป็นจริงก็ตามการเหยียดผู้หญิงจากชนชั้นที่ต่ำกว่าเหล่านี้ ยังส่งผลกระทบให้สังคมมองข้ามความสำคัญเรื่องสุขภาวะทางเพศและความปลอดภัยที่ผู้หญิงควรจะได้รับอย่างเท่าเทียมอีกด้วย อย่างในงานวิจัยเองก็พบว่า การที่ผู้หญิงจากชนชั้นแรงงานที่มีฐานะยากจน มักจะมีเซ็กซ์ในวัยที่ไม่พร้อมมากกว่าชนชั้นกลางและสูงกว่านั้น เนื่องจากขาดความรู้และเข้าไม่ถึง Sex Education มากพอ ซึ่งอาจย้อนกลับมาที่ปัญหาในครอบครัวซึ่งต้องหาเช้ากินค่ำ โฟกัสแต่เรื่องปากท้อง จนไม่มีเวลาเลี้ยงดู ให้การศึกษาที่ดีกับบุตรหลาน ขณะเดียวกันเด็กๆ ก็ไม่มีใครให้ถามให้ปรึกษาเรื่องเซ็กซ์ได้เลย ไปจนถึงไม่รู้วิธีป้องกัน หรือถึงรู้ก็อาจไม่มีทรัพยากรในการจะซื้อหาการป้องกันนั้นมาอยู่ดี และสุดท้ายการขาด Sex Education ที่ถูกต้องก็นำมาซึ่งปัญหาท้องไม่พร้อม การที่เด็กเกิดมาแล้วขาดพ่อแม่ ขาดครอบครัว นำมาสู่ปัญหาทางสังคมอื่นๆ เป็นลูกโซ่ต่อไปไม่รู้จบ นอกจากนั้นแล้ว งานวิจัยในหัวข้อ ‘Rape and Respectability: Ideas about Sexual Violence and Social Class’ ก็ชี้ให้เห็นอีกด้วยว่า ผู้หญิงจากชนชั้นแรงงานที่มีฐานะยากจนยังมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศได้มากกว่าผู้หญิงที่มีฐานะดีกว่า ด้วยเหตุผลน่าเศร้าที่ว่าพวกเธอมี ‘ทางเลือก’ ในการจะหลีกหนีสภาพย่ำแย่ของชีวิตที่น้อยกว่านั่นเอง &nbsp;ปัญหาการถูก slut-shame ของตัวละครอย่างเมฟ ไวลีย์ ในซีรีส์ และอีกหลายๆ ตัวละครผู้หญิงในป๊อปคัลเจอร์ จึงไม่ได้เป็นเรื่องไกลเกินจริงเลย เพราะมันสะท้อนชีวิตและสิ่งที่ผู้หญิงชนชั้นแรงงานต้องเจออยู่เสมอ &nbsp;อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้กำลังจะเหมารวมว่าคนชนชั้นหนึ่งจะมีวิถีในเรื่องเซ็กซ์แตกต่างจากคนอีกชนชั้นหนึ่งแต่อย่างใด แต่งานวิจัยเหล่านี้ก็ช่วยยืนยันให้เห็นว่า ความรู้เรื่อง Sex Education นั้นส่งผลต่อคนชนชั้นที่แตกต่างกันในสังคมอย่างไรบ้าง และมันอาจสร้างความตระหนักว่าแทนที่เราจะ slut-shame เหมารวม หรือตัดสินผู้หญิงจากชนชั้น เราควรกลับมาให้ความสำคัญตรงที่ว่า ทุกคนจะสามารถมีชีวิตเซ็กซ์ที่มีความสุข มีทางเลือก และมีความปลอดภัยอย่างเทียมกันได้อย่างไรมากกว่า&nbsp;อ้างอิง&nbsp;<a href="https://www.glamourmagazine.co.uk/article/slut-shaming-working-class-beth-ashley-extract" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.glamourmagazine.co.uk/article/slut-shaming-working-class-beth-ashley-extract</a><a href="https://researchonline.lshtm.ac.uk/id/eprint/4651049/1/bmjsrh-2018-200160.full.pdf" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://researchonline.lshtm.ac.uk/id/eprint/4651049/1/bmjsrh-2018-200160.full.pdf</a>

Tyler Webb เพิ่งยอมรับต่อศาลว่าเขายุยงให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ตให้ทำร้ายตัวเองอีกทั้งยังสนับสนุนให้เธอพยายามฆ่าตัวตาย แต่ยังนับว่าโชคดีที่เธอทำไม่สำเร็จ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ไทเลอร์กลายเป็นคนแรกของประเทศอังกฤษ ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหา ‘ยุยงทางออนไลน์ให้ผู้อื่นทำร้ายตัวเองขั้นรุนแรง’ และ ‘ยุยงให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย’ ภายใต้กฎหมายความปลอดภัยทางออนไลน์ปี 2023 

Tyler Webb ชายคนแรกในอังกฤษ
ที่มีความผิดในข้อหา ‘ยุยงทางออนไลน์
ให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย’ หลังจากที่เขายุให้ผู้หญิงที่เจอกันทางเน็ต กรีดข้อมือและผูกคอตาย

รัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มพิจารณาเปลี่ยนให้ยากลุ่มนี้สามารถซื้อได้เองตั้งแต่ปี 2564 ก่อนจะทดลองนำร่องในปี 2566 ซึ่งเริ่มจำหน่ายยาคุมฉุกเฉินที่ร้านขายยาบางแห่ง โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ นำไปสู่การแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยยาและเครื่องมือแพทย์ จนกระทั่งวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คำร้องดังกล่าวเพิ่งผ่านความเห็นชอบ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2570

ยาคุมฉุกเฉินอาจได้วางขายตามร้านยาทั่วไปในญี่ปุ่น โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าถึงยาก กระบวนการล่าช้า และค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งส่งผลต่อโอกาสในการป้องกันการท้องไม่พร้อม

หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต เพรวอสต์ (Robert Francis Prevost) ก็ได้รับเลือกให้รับหน้าที่ต่อในฐานะผู้นำสูงสุดของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ผู้ทรงได้รับการขนานนามว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 (Pope Leo XIV) ด้วยพระชนมายุ 69 พรรษา 

แด่ความหวังแห่งความหลากหลาย : สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 โป๊ปชาวอเมริกันผู้อาจเป็นความหวังของการโอบรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ กับคำถามที่ยังคงรอคำตอบเรื่องการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศหลังจากนี้ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Thoughts

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS