ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล นางเอกสาวจาก GMMTV ตอบโต้แอนตี้แฟนที่วิจารณ์หน้าตาของตู ทั้งหน้าผาก ตา จมูก ฟัน ขนาดหน้าอก การแต่งตัว และเอาเธอไปเปรียบเทียบกับคนดังหญิงคนอื่น

ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล นางเอก GMMTV ตอบกลับแอนตี้แฟนที่สร้างแอ็กเคานต์มาบูลลี่เธอโดยเฉพาะ

การเป็นบุคคลสาธารณะหรือคนในวงการบันเทิง ไม่ได้หมายความว่าใครก็ตามจะสามารถเข้ามาวิจารณ์เสียๆ หายๆ หรือเอ่ยถึงด้วยถ้อยคำแย่ๆ ใส่ได้ โดยเฉพาะกับ&nbsp;‘แอนตี้แฟน’ หรือกลุ่มคนที่คอยคุกคามชีวิตเหล่าคนดัง ที่ไม่ว่าจะคนดังไทยหรือต่างชาติหลายๆ คน ก็ต่างเคยเผชิญกับการกระทำโจมตีของแอนตี้แฟน ที่มาในรูปแบบการ<a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88" rel="noopener noreferrer" target="_blank">บูลลี่</a> เหยียด ข่มขู่ หนักไปถึงสตอล์กเกอร์ก็มี ซึ่งหลายครั้งเหตุผลที่แอนตี้แฟนกล้าทำอะไรไม่ดีใส่แบบโต้งๆ เพื่อสนองความสะใจของตัวเอง ก็เพราะคิดว่าบุคคลสาธารณะบางคนจะไม่เอาเรื่อง หรือเลือกอยู่เงียบๆ แทนการตอบโต้ แต่ระยะหลังมานี้ คนดังหลายคนก็ได้ยืนยันในสิทธิของตัวเอง เช่นเดียวกับกรณี ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล นางเอกสาวจาก GMMTV ที่เพิ่งออกมาตอบโต้แอนตี้แฟนที่สร้างแอ็กเคานต์บน X มาเพื่อด่าเธอโดยเฉพาะ แอ็กเคานต์ดังกล่าวเต็มไปด้วยถ้อยคำเชิงลบ ตั้งแต่วิจารณ์หน้าตาของตู ทั้งหน้าผาก ตา จมูก ฟัน และหากย้อนไปดูในแอ็กเคานต์นั้นก็จะเห็นว่ามีการวิจารณ์ไปถึงขนาดหน้าอก วิจารณ์การแต่งตัว และเอาเธอไปเปรียบเทียบกับคนดังหญิงคนอื่นๆ ซึ่งในตอนนี้แอ็กเคานต์ดังกล่าวได้ระเบิดแอ็กฯ ลบหนีความผิดไปแล้ว เนื่องจากตูได้เข้าไปตอบกลับโพสต์ที่วิจารณ์หน้าตาของเธอว่าน่าเกลียด และมีการหยิบยกเรื่องที่เธอเรียนคณะทันตแพทยศาสตร์ มาประกอบการวิจารณ์ฟันของเธอ “ก็ไม่ได้สวยทุกวันหรอกค่ะ มีวันโทรมๆ บ้าง แต่ก็มีความสุขกับชีวิตดี ไม่เคยต้องไปเดือดร้อนกับหน้าตาคนอื่น แล้วก็เป็นหมอฟันไม่ต้องฟันเป๊ะทุกองศาค่ะ เรียนมาช่วยเหลือคนอื่น แต่บางคนที่จิตไม่ปกติ อันนี้ควรพบจิตแพทย์ and go touch some grass” ตูกล่าว สแลง go touch some grass นั้นแปลว่า หยุดเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วออกไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้าง เนื่องจากแอ็กฯ แอนตี้แฟนนั้นดูจะหมกมุ่นกับการไล่ด่าเธอทุกวี่ทุกวัน และขยันจับผิด ใช้เวลากับการสร้างแอ็กเคานต์ปลอมๆ ขึ้นมาเพื่อสาดอารมณ์ใส่ใครบางคนที่ไม่ชอบ ซึ่งนี่ดูจะเป็นแนวทางของใครหลายๆ คนในยุคนี้ ที่ปลอมแปลงตัวตนไปทำเรื่องแย่ๆ ใส่คนอื่นและอยากหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง ตูยังโพสต์ต่ออีกหนึ่งโพสต์ว่า “I try to understand that maybe you are jobless but please find something nice to do than bully people on internet” หรือ “ฉันพยายามที่จะเข้าใจว่าบางทีคุณอาจจะว่างงาน แต่โปรดไปหาสิ่งดีๆ ทำเถอะ มากกว่าการมาบูลลี่คนในอินเทอร์เน็ต” หลังจากตูเลือกที่จะโจมตีกลับ แอ็กเคานต์ดังกล่าวก็ปิดตัวลง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านี่คือตอนจบของเรื่อง เพราะนี่เป็นเพียงแอนตี้แฟนคนหนึ่งที่หยุดทำการ แต่ต้นตอของเรื่องยังคงอยู่ นั่นคือความเกลียดชังคนอื่นเพียงเพราะรู้สึกไม่ชอบใจในรูปร่างหน้าตา หรือการปรากฏตัวของใครคนนั้นบนพื้นที่สื่อ ซึ่งความรู้สึกนั้นย่อมเกิดขึ้นได้เป็นปกติของมนุษย์ ตราบใดที่มันถูกเก็บไว้แค่ในใจก็คงไม่มีปัญหา แต่โลกอินเทอร์เน็ตในตอนนี้กลายเป็นพื้นที่ที่หลายคนใช้ระบายอารมณ์ใส่คนอื่น และหลายครั้งก็หมกมุ่นถึงขั้นกลายเป็นแอนตี้แฟนที่พร้อมจะตามติดชีวิตใครสักคนแล้วทำแย่ๆ ใส่เขา อย่างในกรณีนี้ ถ้าตูเลือกไม่ตอบกลับและเลือกเพิกเฉยไป เหล่าแอนตี้แฟนก็อาจจะคิดว่าตัวเองสามารถทำสิ่งนี้ต่อได้ ทั้งที่จริงๆ นี่เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำตั้งแต่แรก เป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ และหากคนที่โดนโจมตีไม่ออกมาเทกแอ็กชันอะไร นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เจ็บปวดกับการกระทำของคุณ และที่สุดแล้ว การเป็นบุคคลสาธารณะ ไม่ได้แปลว่าเป็นถังขยะทางอารมณ์ของใคร หรือแม้แต่ไม่ได้เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์มาบูลลี่ เหยียดหยาม หรือลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะหมดปี 2023 แล้ว เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เราทุกคนควรตระหนักให้มากขึ้นแล้วจริงๆ&nbsp;

ท่ามกลางโลกทุกวันนี้ที่บีบบังคับให้เราต่างต้องประสบความสำเร็จ มุ่งไปข้างหน้า คาดหวังให้เราเป็นยอดมนุษย์ในทุกๆ เรื่อง แต่ขณะเดียวกันก็กดดันให้เราวิ่งวนเป็นวงกลมไปกับข้อมูลอันท่วมท้นภายนอกที่ทำให้เราไม่มีเวลากลับมาสนใจโฟกัสกับความเป็นปัจจุบัน หรือแม้แต่ฟังเสียงของตัวเราเองอย่างที่ควรจะเป็น จนผลักให้ใครหลายคนต้องเผชิญกับภาวะ Mental Exhaustion หรือภาวะ Burnout ในท้ายที่สุด

ย้อนฟังคำพูดสุดทรงพลังที่จะปลุกการตื่นรู้และเยียวยาเรา จาก 3 สปีกเกอร์ ใน Dragonfly H.E.A.L Summit 2024

ด้วยสังคมชายเป็นใหญ่ที่ชัดเจนและพลังแรงในเกาหลีใต้ ทำให้ผู้หญิงสาวหลายคนในประเทศพากันใช้ชีวิตตามวิถี 4 No หรือ 4B Movement ที่เป็นการหันหลังให้กับบทบาทของเพศหญิงตามแบบที่สังคมกำหนด ซึ่งก็ได้แก่ ‘biyeonae’ (ไม่ออกเดต) ‘bisekseu’ (ไม่มีเซ็กซ์) ‘bihon’ (ไม่แต่งงาน) และ ‘bichulsan’ (ไม่มีลูก) แต่ล่าสุดนี้ ดูเหมือนสาวอเมริกันก็เริ่มจะหันเข้าสู่วิถี 4B กันบ้างแล้ว หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณของการก้าวถอยหลังเรื่องสิทธิสตรีไปโดยปริยาย


ผู้หญิงอเมริกันเริ่มคิดเรื่อง 4 No ตามแบบสาวเกาหลีใต้ หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง  ไม่ออกเดต / ไม่มีเซ็กซ์ / ไม่แต่งงาน / ไม่มีลูก


แม้ผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกาจะยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ดูเหมือนว่าหมูเด้งจะทายถูกแล้วแน่ๆ และโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะได้กลับมา “Make America Great Again!”แต่มันคือข้อยืนยันเรื่องการหันขวาของคนจำนวนมากที่ยื่นชัยชนะเข้ามือชายอนุรักษ์นิยมหัวรุนแรงคนนี้ และชัยชนะของเขาก็อาจส่งผลต่อสิทธิมนุษยชนในหลายๆ ประเด็นให้ถดถอยลง โอกาสนี้เราเลยอยากรวมรวบประเด็นที่น่ากังวลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในอเมริกา เมื่อทรัมป์กลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง


MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Thoughts

ตู-ต้นตะวัน ตันติเวชกุล นางเอก GMMTV ตอบกลับแอนตี้แฟนที่สร้างแอ็กเคานต์มาบูลลี่เธอโดยเฉพาะ

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS