ทรอย ซีวาน (Troye Sivan) บอกว่าเขาไม่ได้เป็นเกย์รับ ซึ่งก็ทำให้ชาวเน็ตทั้งไทยและต่างประเทศบางคนออกแนวงง นั่นอาจหมายความว่าหลายคนยังยึดติดกับภาพลักษณ์ทางเพศ และสเตริโอไทป์กันจนเป็นปกติไปแล้ว

Troye Sivan กับการถูกสเตริโอไทป์เพศสภาพ ที่สะท้อนว่าสังคมยังคงยึดติดกับภาพลักษณ์ทางเพศ

เป็นรุก หรือเป็นรับ? ใครผัว? ใครเมีย? แม้ว่านี่จะแทบเป็นคำถามเบสิกที่เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันบ่อยๆ เมื่อสงสัยว่า <a href="https://mirrorthailand.com/tags/LGBTQ+" rel="noopener noreferrer" target="_blank">LGBTQ+</a> คนนั้นมีโพซิชันแบบใด แต่ใช่ว่ากลุ่มคนเพศหลากหลายทุกคนจะชอบให้ถามแบบนั้นอยู่เรื่อยไป เพราะหนึ่งเลย คนนอกไม่ใช่คนในความสัมพันธ์ของพวกเขา รู้ไปก็ไม่ได้อะไร สอง หากบางคนที่อยากรู้เฉยๆ เพื่อมาตอบสนองความสงสัยที่มี ก็อาจลืมคิดไปว่าคนถูกถามจะรู้สึกอย่างไรกับคำถามนั้น สาม แล้วถ้าคำตอบที่ได้มา ไม่ตรงกับสิ่งที่คิด บางคนก็สเตริโอไทป์ และทำท่างุนงงว่าจะเป็นไปได้ยังไง สาวขนาดนั้นทำไมเป็นรุก แมนขนาดนั้นทำไมเป็นรับ ซึ่งก็ต้องบอกว่า ภาพลักษณ์ทางเพศ หรือการแสดงออกทางเพศ มันคนละเรื่องกับรสนิยมบนเตียงนะ ที่ยกเรื่องนี้มาพูด เพราะเราเพิ่งได้เห็นข่าวของนักร้องชาวออสเตรเลีย ทรอย ซีวาน (Troye Sivan) ให้สัมภาษณ์ในรายการพอดแคสต์ High Low ของ Emily Ratajkowski ว่าเขาไม่ได้เป็น<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%8C" rel="noopener noreferrer" target="_blank">เกย์</a>รับ ซึ่งก็ทำให้ชาวเน็ตทั้งไทยและต่างประเทศบางคนออกแนวงงว่า ที่มีการแสดงออกทางเพศสาวขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ได้เป็นรับ นั่นอาจหมายความว่าหลายคนยังยึดติดกับภาพลักษณ์ทางเพศ และสเตริโอไทป์กันทางเพศจนเป็นปกติไปแล้ว หากความสาว ที่ผู้คนมองว่าเป็นจริตที่เอนไปทางกรอบความเป็นหญิง แปลว่าต้องเป็นฝ่ายรับ คิดว่า<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%99" rel="noopener noreferrer" target="_blank">เลสเบี้ยน </a>หรือเกย์คนนั้น ดูจะอยู่ในโพซิชัน ‘เมีย’ มากกว่า ลึกๆ แล้ว เราอาจจะติดภาพจำของการที่คนเป็นผัวต้องแข็งแกร่ง ดูมาดแมน ดูแลปกป้องอีกฝ่ายได้ และคนเป็นเมียต้องดูอ่อนแอกว่า และควรได้รับการปกป้อง ซึ่งล้วนเป็นกรอบทางเพศที่ฝังลึกในกลุ่มคู่รักต่างเพศ ที่ลามมาเป็นกรอบในคู่รักเพศเดียวกันไปด้วย เมื่อเรามีกรอบที่เข้มข้นกันแบบนี้ นอกจากจะส่งเสริมความเข้มข้นของความไม่เท่าเทียมกันในความสัมพันธ์แล้ว เพราะคนคิดกันเสมอว่าต้องมีคนที่ดูเหนือกว่า คนที่ไม่ตรงตามกรอบบางคนก็จะรู้สึกแปลกแยก หรือถูกมองว่าเป็นอื่นได้ง่าย ถ้าคนเป็นรุกไม่ได้แมนอย่างที่คนอื่นคาดหวัง หรือคนเป็นรับไม่ได้สาวอย่างที่คนอื่นคิด ก็ล้วนจะทำให้เกิดคำพูดไม่ถนอมน้ำใจจากคนภายนอกในบางครั้ง ซึ่งมันก็ไม่ควรเกิดขึ้นเลยตั้งแต่แรก “ฉันเขียนเพลงนึงขึ้นมาที่ชื่อว่า ‘Bloom’ ถูกไหมล่ะ? ทีนี้มันเกี่ยวกับการเป็นรับ และในเนื้อเพลงก็มีท่อน ‘I bloom just for you’ ซึ่งผู้คนก็ได้รับสิ่งนั้นไป และเอาไปคิดกันต่อเอง” ซึ่งนั่นทำให้ทรอยบอกว่า มันเหมือนเขาได้รับการอวยยศจากชุมชนเควียร์ว่าเป็น “some crazy power bottom” (เกย์รับผู้มีอิทธิพล) ขณะที่ EmRata ได้ถามเขาต่อว่ารำคาญหรือเปล่าที่ต้องมาอธิบายเรื่องนี้กับผู้คน เขาตอบว่าไม่ แต่ “ฉันคิดว่าบางครั้งผู้คนก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เวลาไปออกเดตกับฉัน แล้วฉันก็แบบ ‘โอ้ คือจริงๆ แล้ว ฉันไม่ได้เป็นเกย์รับนะ’” ท่าทางประหลาดใจของคู่เดตที่ตกใจว่าทรอยไม่ใช่เกย์รับ ก็กำลังบอกว่า แม้แต่คนในชุมชน LGBTQ+ ด้วยกัน ก็ยังมีการตีความเรื่องของภาพลักษณ์ทางเพศกับรสนิยมบนเตียงเป็นเรื่องเดียวกันอยู่ไม่น้อย ทั้งๆ ที่มันอาจจะสอดคล้องกัน หรือไม่สอดคล้องกันก็ได้ และนั่นเป็นเรื่อง ‘ปกติ’ ที่ควรทำความเข้าใจกัน และถ้าหากคุณเป็นคนนอกความสัมพันธ์ นอกการออกเดต ที่จริงๆ ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้ว่า เกย์คนนั้น หรือเลสเบี้ยนคนนี้เป็นโพฯ ไหน การไม่ต้องรู้ต่อไป ก็คงไม่เสียหายอะไร เพราะ LGBTQ+ บางคนก็รู้สึกอึดอัดกับการต้องมาตอบคำถาม ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2019 ทรอย เคยถูกนักข่าว Matt Fistonich ถามว่า “เป็นรุก หรือเป็นรับ” และเขาตอบกลับไปว่า “โอ้…แน่นอนว่าขอผ่าน!” พร้อมมาทวีตลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ฉันเคยคิดที่จะถามคนสัมภาษณ์เกี่ยวกับโพซิชันเซ็กซ์ที่เขาชื่นชอบหลังจากจบคำถามสุดท้าย แต่ฉันก็นึกขึ้นได้ว่ามันรุกล้ำเขาอย่างแรง แปลกประหลาด และไม่เหมาะสมแค่ไหน” &nbsp; เพราะฉะนั้นในยุคนี้แล้วถ้าการรู้โพซิชันใคร ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร นอกจากการอยากรู้เฉยๆ เลิกถามได้ก็จะดีมาก หรือถ้ารู้ว่าใครโพซิชันไหน เป็นรุก เป็นรับ แล้วไม่ตรงกับภาพความคิดในหัว ถ้ารู้สึกก็เก็บไว้ในใจ ไม่ต้องไปแสดงออกด้วยท่าทีให้เขารู้สึกแปลก หรือมองว่ามันน่าตกใจมากมายขนาดนั้นก็ได้ เพราะคนฟังคงไม่ได้รู้สึกดีกันได้ทุกคน อ้างอิง: <a href="https://www.billboard.com/culture/pride/troye-sivan-not-a-bottom-1235380995/" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.billboard.com/culture/pride/troye-sivan-not-a-bottom-1235380995/</a> <a href="https://www.buzzfeednews.com/article/davidmack/troye-sivan-interviewer-top-bottom" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.buzzfeednews.com/article/davidmack/troye-sivan-interviewer-top-bottom</a>&nbsp;

เมื่อพูดถึงความรุนแรงในครอบครัวหรือความรุนแรงต่อผู้หญิง หลายคนอาจเห็นภาพการลงไม้ลงมือทำร้าย แต่อันที่จริง การใช้คำพูดทำร้ายอีกฝ่ายโดยเฉพาะในคู่รัก ก็นับเป็นความรุนแรงอย่างหนึ่งเช่นกัน 

ผู้หญิงมักถูกคนรักของตัวเองใช้คำพูดทำร้ายด้วยเรื่องไหนบ้าง?

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น อาเจะห์คือจังหวัดที่ยังมีการลงโทษคนด้วยการเฆี่ยนตี และมีกฎหมายบังคับให้ผู้หญิงต้องสวมใส่ฮิญาบ อีกทั้งผู้หญิงส่วนมากยังต้องอยู่แต่ในบ้านและมีโอกาสทางการศึกษาและอาชีพน้อยกว่าผู้ชายหลายเท่า ดังนั้น สำหรับพื้นที่อื่นๆ บนโลกนี้ การมีผู้หญิงเป็นเจ้าของร้านกาแฟคงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่สำหรับที่อาเจะห์ นี่เป็นเรื่องที่น่าพูดถึง

Morning Mama 
ร้านกาแฟโดยผู้หญิงเพื่อผู้หญิงในจังหวัดอาเจะห์ พื้นที่สุดคอนเซอร์เวทีฟ ในประเทศอินโดนีเซียที่ร้านกาแฟคือ ‘โลกของผู้ชาย’ มาตลอดหลายปี


เมื่อถึงช่วงหนึ่งในชีวิต การไม่สามารถมีลูกได้อาจกลายเป็นบาดแผลสำหรับผู้หญิงหลายคน และมิเชลล์ โหย่ว (Michelle Yeoh) ก็คือหนึ่งในนั้น โดยเธอเพิ่งออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ในรายการ BBC Woman’s Hour ว่าเธออยากมีลูกมาตลอด แต่ก็ไม่สามารถมีได้ เธอเข้าปรึกษาแพทย์และรับการรักษาภาวะมีบุตรยาก แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าแม้ตัวเองจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ในด้านความเป็นผู้หญิง เธอกลับล้มเหลว

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Thoughts

Troye Sivan กับการถูกสเตริโอไทป์เพศสภาพ ที่สะท้อนว่าสังคมยังคงยึดติดกับภาพลักษณ์ทางเพศ

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS