หลังจากเหตุการณ์ประท้วงและการนองเลือดของ Gen z ในเนปาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วันศุกร์ที่ 12 กันยายน สุชิลา การ์กี (Sushila Karki) ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ เพื่อดำรงตำแหน่งผู้นำชั่วคราวภายใต้สถานการณ์ความรุนแรงที่ยังคงไม่แน่นอนไว้วางใจไม่ได้ ของเนปาล ณ ขณะนี้

สุชิลา การ์กี (Sushila Karki) นายกรัฐมนตรีรักษาการหญิงคนแรกของเนปาล 
ผู้อาจเป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ ในการแก้ปัญหาคอรัปชั่นหลังเหตุการณ์ประท้วง

หลังจากเหตุการณ์ประท้วงและการนองเลือดของ Gen z ในเนปาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วันศุกร์ที่ 12 กันยายน สุชิลา การ์กี (Sushila Karki) ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ เพื่อดำรงตำแหน่งผู้นำชั่วคราวภายใต้สถานการณ์ความรุนแรงที่ยังคงไม่แน่นอนไว้วางใจไม่ได้ ของเนปาล ณ ขณะนี้&nbsp;Hami Nepal คือชื่อขององค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ก่อตั้งโดยอดีตดีเจชาวเนปาลวัย 36 Sudan Gurung และถือเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทกับการโหวตนายกฯ รักษาการในครั้งนี้อย่างมาก จากสมาชิกในกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ราวๆ 160,000 คนที่ได้ทำการโหวตผ่านแอพลิเคชั่นแชตสัญญาติอเมริกัน Discord แพตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเกมเมอร์ซึ่งได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่กลุ่ม Gen z ในเนปาลใช้ปลุกระดมการลุกฮือประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้พร้อมใจกันเทคะแนนเสียงสนับสนุนให้สุชิลา การ์กี ขึ้นมาทำหน้าที่จัดการความไม่เรียบร้อยต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อมั่นว่าอุดมการณ์และท่าทีที่แข็งกร้าวในการปราบปรามปัญหาคอรัปชั่นที่ผ่านมาของเธอจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง&nbsp;“ฉันไม่ได้เข้ามารับตำแหน่ง เพราะความต้องการของฉันเลย แต่เป็นเพราะว่าเสียงจากกลุ่มคนที่ลงถนนในวันนั้นบอกว่า สุชิลา การ์กี ควรจะเข้ามาทำหน้าที่นี้” การ์กี ในวัย 73 ผู้ถือว่าเป็นนายกฯ (รักษาการ) หญิงคนแรกของประเทศ กล่าวในแถลงการณ์ครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่งต่อจากอดีตนายกฯ KP Sharma Oli ที่เซ็นลาออกจากตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในระหว่างการประท้วงที่กำลังดุเดือด&nbsp;สุชิลา การ์กี จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์จากประเทศอินเดีย และเคยดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาหญิงคนแรกของเนปาลเมื่อปี 2016 เธอคือหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทการทำคดีคอรัปชั่นใหญ่ๆ หลายครั้ง รวมทั้งคดีการคอรัปชั่นของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของเนปาลด้วย นอกจากนั้นเธอยังเคยเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์อย่างการเข้าร่วมปฏิวัติในปี 1990 ที่ได้ชื่อว่าเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่ของประชาชนเนปาลที่ลุกขึ้นมาต่อต้านระบบการปกครองแบบ ‘พรรคการเมืองเดียว’ (Panchayat system) ในเวลานั้น พร้อมทั้งเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute Monarchy) มาสู่การปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (Constitutional Monarchy) และการประท้วงครั้งนั้นก็ทำให้การ์กีถูกจำคุกด้วย &nbsp;การลุกขึ้นมาประท้วงของคนรุ่นใหม่ในเนปาลได้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 8 กันยายน จากความไม่พอใจปัญหาความเหลื่อมล้ำและการคอร์รัปชั่นซึ่งเป็นปัญหาที่หยั่งรากลึกมานานในสังคมโดยมีการแบนโซเชียลมีเดียกว่า 20 แพลตฟอร์ม รวมถึง Facebook และ Instagram ของรัฐบาลเป็นตัวเร่งการจุดชนวนความไม่พอใจในครั้งนี้ จนกระทั่งพัฒนากลายมาเป็นความโกรธแค้นของคนรุ่นใหม่ต่อ ‘Nepo Kids’ หรือบรรดาลูกท่านหลานเธอ ทายาทนักการเมือง และบรรดาอภิสิทธิ์ชนที่ใช้ชีวิตหรูหราท่ามกลางความยากลำบากของผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมที่ยังคงต้องดิ้นรนจากปัญหาความยากจนที่เกิดจากการคอรัปชั่น นำมาสู่การการลงถนนของประชาชน และทวีความรุนแรงเป็นการเผาทำลายข้าวของ รวมถึงสถานที่สำคัญหลายแห่ง จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้วิธีจัดการกลุ่มผู้ประท้วงด้วยอาวุธหนักทั้งกระสุนจริงและแก๊ซนำ้ตา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 72 คน บาดเจ็บอีกนับพัน โดยในจำนวนนั้นยังเป็นเพียงเยาวชนที่บางคนมีอายุแค่ 19 ปี เท่านั้น ยิ่งเป็นการสร้างความโกรธแค้นให้กับคนรุ่นใหม่และได้ตั้งคำถามถึงการที่รัฐฯ เลือกใช้ความรุนแรงตอบโต้ในครั้งนี้&nbsp;“เราต้องทำงานให้สอดคล้องกับความคิดของคน Gen z และสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือการปราบปรามคอรัปชั่น การปกครองด้วยธรรมาภิบาล และอยากเห็นความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้น” สุชิลา การ์กี กล่าวในแถลงการณ์ นอกจากนั้นเธอยังแสดงความรู้สึกต่อเหตุการณ์ประท้วงที่ทำให้มีคนรุ่นใหม่เสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากการใช้อาวุธตอบโต้ของเจ้าหน้าที่รัฐฯ ด้วย “ฉันรู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าคนเนปาลทำลายคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นโครงสร้างอันสำคัญของประเทศเหล่านี้เสียเอง พวกเขาจะสมควรถูกเรียกว่าคนเนปาลได้อย่างไรกัน”&nbsp;น่าจับตามองว่าการมาถึงของสุชิลา การ์กี นายกฯ หญิงวัย 73 ปี ผู้ที่จะอยู่รักษาการในตำแหน่งนี้ไปจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ในวันที่ 5 มีนาคมปีหน้า ซึ่งเป็นผู้ที่คน Gen z เชื่อมั่นและทำการเลือกมาด้วยตัวพวกเขาเอง จะสามารถยุติความขัดแย้งและจัดการกับปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำในประเทศอย่างไรต่อไป&nbsp;อ้างอิง<a href="https://www.independent.co.uk/asia/south-asia/nepal-sushila-karki-new-prime-minister-discord-protests-b2826473.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.independent.co.uk/asia/south-asia/nepal-sushila-karki-new-prime-minister-discord-protests-b2826473.html</a><a href="https://www.aljazeera.com/news/2025/9/15/more-egalitarian-how-nepals-gen-z-used-gaming-app-discord-to-pick-pm" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.aljazeera.com/news/2025/9/15/more-egalitarian-how-nepals-gen-z-used-gaming-app-discord-to-pick-pm</a><a href="https://www.reuters.com/world/asia-pacific/young-activists-who-toppled-nepals-government-now-picking-new-leaders-2025-09-14/" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.reuters.com/world/asia-pacific/young-activists-who-toppled-nepals-government-now-picking-new-leaders-2025-09-14/</a><a href="https://www.bbc.com/news/articles/cp8wjz90z4no" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.com/news/articles/cp8wjz90z4no</a>

ดูเหมือนว่าการเมืองในสหรัฐฯ จะยิ่งปะทุรุนแรงขึ้นอีกครั้ง นับตั้งแต่ข่าวใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่ออินฟลูเอนเซอร์และนักเคลื่อนไหวฝ่ายอนุรักษ์นิยม Charlie Kirk วัย 31 ปี ถูกลอบสังหารจากระยะไกลด้วยปืนไรเฟิล และทำให้เขาล้มลงจากเก้าอี้กลางเวทีเสียชีวิตทันทีระหว่างกำลังทำการปฐกฐา ณ มหาวิทยาลัย Utah Valley ในรัฐยูทาห์ ต่อหน้าต่อตานักศึกษามากกว่า 3,000 คนที่มาร่วมฟังวาทะของเขา

“No One Mourns the Wicked” จากเพลง สู่วาทกรรม หลังการลอบสังหารนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาชาวอเมริกัน Charlie Kirk ที่อาจทำให้การเมืองสหรัฐฯ และการเกลียดชังฝ่ายตรงข้ามยิ่งขยายความรุนแรงในหมู่ประชาชน

นับเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในการยกระดับสวัสดิการและสิทธิของแรงงานหญิงไทย หลังวุฒิสภาลงมติเอกฉันทร์ให้ผ่านร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน โดยเพิ่มสิทธิลาคลอดจาก 90 วัน เป็น 120 วัน โดยให้ค่าจ้างเท่าเดิมตลอดระยะเวลาที่ลา พร้อมสิทธิลาต่อเนื่องเพื่อดูแลบุตรที่เจ็บป่วย และสิทธิลาเพื่อช่วยเหลือคู่สมรสที่คลอดบุตร

วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองแรงงานแล้ว! ขยายวันลาคลอดจาก 90 เป็น 120 วัน โดยได้รับค่าจ้างเท่าเดิมตลอดระยะวันลา และลาเพิ่มได้อีก 15 วัน หากลูกป่วยหรือพิการด้านคู่สมรสก็ได้รับสิทธิลาเพิ่มด้วย

สส.หมิว โดนเรียกว่า “อีซึมเศร้า” / สส.ธัญ โดนเรียกว่า “อีกะเทย” สส.ไหม โดนพูดว่า “ไปแก้ผ้าให้พี่หนูแล้ว" และ แพทองธาร โดนเรียกว่า กะหรี่ ฬ่าน และโดนไล่ไปเลี้ยงลูก แน่นอนว่านักการเมืองควรจะถูกตรวจสอบ และถูกวิพากษ์วิจารณ์การทำงานจากประชาชนได้เสมอ ถึงอย่างนั้น ในบางคำวิจารณ์ก็น่าเก็บมาคิดว่า มันเหมาะแล้วหรือไม่ ที่จะถูกใช้มาเหยียดหยามคนอื่น 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS