Sally Rooney นักเขียนชาวไอริช เจ้าของผลงานนวนิยายชื่อดังเรื่อง Normal People (2018), Conversation with Friend (2017) และ Beautiful World Where Are You (2021) ที่ออกมาย้ำจุดยืนชัดเจนว่าเธอสนับสนุนองค์กรแห่งหนึ่งของปาเลสไตล์ซึ่งต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโดยอิสราเอล แต่กลับกลายเป็นว่ามันอาจทำให้เธอต้องตกที่นั่งลำบาก เพราะรัฐบาลอังกฤษดูจะไม่เห็นด้วยกับการแสดงจุดยืนนี้ของเธอสักเท่าไร 

Sally Rooney นักเขียนชาวไอริช เจ้าของผลงานนวนิยายฮิต Normal People แสดงจุดยืนต่อต้านความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ และอาจทำให้เธอต้องตกเป็น ‘ผู้ก่อการร้าย’ ในสายตารัฐบาลอังกฤษ

มีคนดังจำนวนไม่น้อยออกมาเคลื่อนไหวแสดงความคิดเห็นและจุดยืนต่อความรุนแรงที่อิสราเอลยังคงมุ่งหน้าโจมตีพื้นที่เขตฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหนึ่งในนั้นคือ Sally Rooney นักเขียนชาวไอริช เจ้าของผลงานนวนิยายชื่อดังเรื่อง Normal People (2018), Conversation with Friend (2017) และ Beautiful World Where Are You (2021) ที่ออกมาย้ำจุดยืนชัดเจนว่าเธอสนับสนุนองค์กรแห่งหนึ่งของปาเลสไตล์ซึ่งต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุโดยอิสราเอล แต่กลับกลายเป็นว่ามันอาจทำให้เธอต้องตกที่นั่งลำบาก เพราะรัฐบาลอังกฤษดูจะไม่เห็นด้วยกับการแสดงจุดยืนนี้ของเธอสักเท่าไร&nbsp;นักเขียน Sally Rooney ได้แสดงความเห็นของเธอผ่านงานเขียนในคอลัมน์ Opinion บนสื่อ The Irish Time ว่าเธอต้องการมอบรายได้จากการขายหนังสือ และรายได้จากค่าดัดแปลงผลงานของเธอเป็นทีวีซีรีส์ทางช่อง BBC ให้กับ Palestine Action องค์กรต่อต้านผู้จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ในการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2020 สวนทางกับที่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม รัฐบาลอังกฤษเพิ่งประกาศแบน Palestine Action ให้จัดอยู่ในลิสต์ ‘ผู้ก่อการร้าย’ ที่เป็นอันตรายกับประเทศ สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนจำนวนมาก จนเกิดการออกมาประท้วง ณ จัตุรัสรัฐสภา (Parliament Square) กรุงลอนดอน และทำให้มีผู้ถูกจับกุมไปแล้วมากกว่า 500 คน&nbsp;และการออกมาแสดงจุดยืนสนับสนุนของ Sally Rooney ก็อาจทำให้เธอเสี่ยงต้องโทษจำคุกถึง 14 ปี โทษฐาน ‘ก่อการร้าย’ ด้วย“เป็นความตั้งใจของฉันอยากจะให้สเตทเมนต์นี้ได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์อังกฤษ ซึ่งตอนนี้มันอาจจะกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายไปแล้ว”&nbsp;“ถ้าหากว่ารัฐบาลอังกฤษเรียกการกระทำนี้ของฉันว่าเป็นการก่อการร้าย บางทีก็อาจจะต้องพิจารณาองค์กรที่โปรโมทและสนับสนุนผลงานต่างๆ ของฉันด้วย อย่าง WH Smith และ BBC” Sally Rooney กล่าวในสเตทเมนต์ของเธอกับ The Irish Time ซึ่งการแบนของรัฐบาลอาจเป็นการกีดกันไม่ให้เธอกล่าวอะไรต่อไปได้อีกในอีเวนต์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย “เพราะฉันไม่อาจจะเพิกเฉยต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีและหลักการของตัวเองได้”&nbsp;“คนที่ออกมาต่อต้านการจัดหาอาวุธสำหรับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อาจต้องตกเป็นอาชญากรก็จริง แต่พวกเขากำลังยืนกรานในกฎหมายที่ไกลกว่านั้น รวมถึงยืนหยัดในความเป็นมนุษย์ นั่นคือการปกป้องประชาชนและวัฒนธรรมจากการทำลายล้าง” Sally Rooney กล่าวนักเขียนชาวไอริชบอกว่าการแปะป้ายกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยคำว่า ‘ผู้ก่อการร้าย’ ไม่ต่างอะไรกับการสร้างความชอบธรรมให้กับอิสราเอลในการสังหารชาวปาเลสไตน์ หนึ่งในนั้นเธอได้ยกตัวอย่างการลอบสังหาร Anas al-Sharif นักข่าวและช่างภาพสำนักข่าวอัล จาซีร่า ซึ่งถูกสังหารพร้อมกับทีมเพื่อนร่วมงานระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยทหารอิสราเอลระหว่างพวกเขากำลังรายงานข่าวการโจมตีในกาซาซิตี้&nbsp;นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Sally Rooney ประกาศตัวชัดว่าเธออยู่คนละฝั่งกับรัฐบาลอังกฤษในประเด็นสงครามอิสราเอล-ปาเลสไตน์ เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยกล่าวแสดงจุดยืนเรื่องนี้มาแล้วใน The Guardian โดยมองว่า ‘นี่คือสัญญาณเตือนของการลดทอนอิสรภาพในการพูด’ พร้อมกับโจมตีท่าทีอันคลุมเครือของรัฐบาลอังกฤษที่เธอเชื่อว่าอาจมีส่วนสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ด้วยการสนุบสนุนการจัดหาอาวุธด้วย &nbsp;Sally Rooney ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในนักเขียนผู้ทรงอิทธิพลโดยนิตยสาร Time เมื่อปี 2022 จากผลงานเขียน Best Seller ที่ขายดิบขายดีในหลายประเทศเรื่อง Normal People ซึ่งพูดกับคนรุ่นใหม่เรื่องความสัมพันธ์ที่ผูกโยงกับเรื่องของชนชั้นและสังคมได้เป็นอย่างดี จนถูกนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์ทางช่อง BBC เมื่อปี 2020 และนั่นทำให้เธอเป็นนักเขียนหญิงรุ่นใหม่ที่มีอิทธิพลต่อความคิดความอ่านของคนรุ่นใหม่มากที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ก็ว่าได้&nbsp;การออกมาแสดงจุดยืนของเธอจึงเป็นการสร้างความท้าทายให้กับสังคมได้ไม่น้อย เมื่อสื่อตั้งคำถามที่น่าสนใจต่อมาว่า แล้วมันจะกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายไหม โดยเฉาพะในอังกฤษ หากใครสักคนประกาศตัวว่าเป็นแฟนผลงาน เสพงาน และแสดงจุดยืนว่าเห็นด้วยกับ Sally Rooney หากเธอตกเป็นผู้ที่รัฐแปะป้ายว่าเป็น ‘ผู้ก่อการร้าย’ หลังจากนี้&nbsp;อ้างอิงhttps://www.dazeddigital.com/life-culture/article/68450/1/sally-rooney-fund-support-palestine-action-uk-terror-banhttps://www.irishtimes.com/culture/books/2025/08/16/sally-rooney-i-support-palestine-action-if-this-makes-me-a-supporter-of-terror-under-uk-law-so-be-it/https://www.aljazeera.com/news/2025/8/10/al-jazeera-journalist-anas-al-sharif-killed-in-israeli-attack-in-gaza-city

หนึ่งในคำถามที่ญดาถูกนักข่าวบันเทิงยิงคำถามใส่เมื่อไม่นานนี้ จนทำให้หลายคนในโซเชียลฯ ตั้งคำถามว่า ยุคนี้แล้ว คำถามนี้ยังน่าถามอยู่อีกหรือ? คือ “เราเป็นนางเอก คนมองว่าเราเป็นนางเอกอ่า เรามาเปิดตัวแบบนี้ หลายคนเขาจะแบบ มันได้เหรอ มันเหมาะเหรอ แล้วพระเอกล่ะ คู่จิ้นพระเอกเขาจะยังไง?”

แนวคำถามสุดงงของนักข่าวต่อ ‘ญดา นริลญา’ หลังเปิดตัวว่าชอบผู้หญิง สะท้อนความน่าอึดอัดในอุตสาหกรรม ที่คาดหวังให้นักแสดงขายเพศสภาพเพื่อเสิร์ฟคนดู ราวกับฝีมือการแสดงจะถูกหักล้างแค่เพราะรสนิยมทางเพศไม่ถูกใจบางคน

ในโซเชียลมีเดียเริ่มมีการใช้คำว่า ‘ถุงกาแฟ’ เพื่อเปรียบเปรยถึงหน้าอกขนาดใหญ่ที่มีความหย่อนคล้อยของผู้หญิง โดยคำพูดนี้มักปรากฏในรูปแบบคอมเมนต์เชิงวิจารณ์ทรงหน้าอกของผู้อื่นอย่างเปิดเผย ซึ่งถือเป็นการ Body Shaming และคุกคามทางเพศด้วยวาจา เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยบางส่วนยังไม่ตระหนักรู้เรื่อง ‘การเคารพสิทธิของผู้อื่น’ มากพอ เพราะไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ผู้หญิงก็มักโดนวิจารณ์และตัดสินเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกอยู่เสมอ จนเหมือนกลายเป็นวัฒนธรรมที่ฝังรากลึกในสังคม

จะนมแบบไหนก็โดนตัดสินอยู่ดี… “ถุงกาแฟ” “ไม้กระดาน” “นมเป็นบล็อก” สารพัดถ้อยคำเสียดสีที่ชาวเน็ตบางส่วนใช้ล้อเลียนและคุกคาม ‘ทรงหน้าอกผู้หญิง’ จนไม่ว่าจะยุคไหนก็ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติในสังคม ทั้งที่คนโดนไม่ควรต้องชิน

ในเทศกาลหนังเมืองเวนิส (Venice film festival) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หนังเรื่อง The Voice of Hind Rajab ได้รับเสียงปรบมือนานกว่า 23 นาที หลังจบการฉายรอบปฐมทัศน์ ซึ่งนับเป็นการ Standing Ovation ที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ 

The Voice of Hind Rajab หนังกึ่งสารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวของ Hind Rajab เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ผู้ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในกาซาได้รับเสียงปรบมือยาวนานสุดในประวัติศาสตร์เทศกาลหนังเมืองเวนิส 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS