นับเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง เมื่อข่าวนี้เกิดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนเข้าเดือนไพรด์ และสะท้อนชัดเจนว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทย ที่ความเข้าใจและเปิดกว้างต่อ LGBTQ ยังไปไม่ถึง

LGBTQ ถูกฆาตกรรมโดยเด็กวัย 17 ปี ที่เกลียดชัง LGBTQ

“เขาฆ่ากะเทยบ้านนี้ตาย” นี่คือเสียงของผู้เล่าผ่านไลฟ์ที่ติดตามเข้าไปดูร่างของเพื่อนที่ถูกฆาตกรรมในป่าละเมาะแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยรายงานข่าวจากสำนักข่าวอัมรินทร์ระบุว่าเหตุฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นจาก “ความเกลียดชัง LGBTQ” ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจอย่างยิ่ง เมื่อมันเกิดในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนเข้าเดือนไพรด์ และสะท้อนชัดเจนว่ายังมีอีกหลายพื้นที่ในประเทศไทย ที่ความเข้าใจและเปิดกว้างต่อ LGBTQ ยังไปไม่ถึงรายงานข่าวระบุว่า ผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุได้นัดหมายเพื่อมีความสัมพันธ์ทางเพศกัน โดยมีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนที่เกลียดชัง LGBTQ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ยังคงรับนัดและเดินทางไปสถานที่นั้นตามนัด เด็กคนดังกล่าวอ้างว่าถูกผู้เสียชีวิตลวนลาม จึงลงมือก่อเหตุ ซึ่งหลายๆ ความคิดเห็นต่างตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการกล่าวโทษผู้ตายที่พูดไม่ได้ และยังเป็นการสร้างความเกลียดชังให้กับกลุ่ม LGBTQ ด้วยภาพจำลบๆ อีกด้วย โดยเฉพาะในกลุ่ม ‘กะเทย’ ที่มักถูกตีตราว่าชอบคุกคามทางเพศผู้ชายรวมถึงชอบหลอกลวงผู้ชาย ทั้งที่จริงไม่ใช่ว่าผู้นิยามตัวเองเป็นกะเทยทุกคนจะมีพฤติกรรมแบบนั้น และสังคมก็ควรทำความเข้าใจกันเสียใหม่สิ่งที่น่ากังวลคือ ผู้ก่อเหตุเป็นเด็กรุ่นใหม่ ที่ตามแนวโน้มของสังคมแล้วน่าจะมีความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศเป็นพื้นฐาน และอคติทางเพศที่ฝังลึกในเจเนอเรชั่นเก่าๆ ก็น่าจะต้องเจือจางลงแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุกลับลงมือฆาตกรรมด้วยเหตุแห่งเพศ ซึ่งตามรูปการณ์แล้วก็มีความเป็นไปได้ว่าเป็นการตั้งใจรับนัดเพื่อไปฆาตกรรม อีกทั้งยังมีรายงานอีกว่าเขายิ้มแทบจะตลอดการให้การ และใช้ ‘มีดหมอ’ ที่มีการลงอักขระเลขยันต์ ซึ่งอาจสะท้อนถึงทัศนคติและความเชื่อบางอย่างที่ไม่อาจรู้ได้ว่าสั่งสมมาจากที่ไหนและอย่างไร ที่สำคัญคือ มีเยาวชนและบุคคลทั่วไปอีกมากน้อยแค่ไหนที่บ่มเพาะแนวคิดเหล่านี้อยู่และนับเป็นเรื่องเสียดสีที่เจ็บแสบไม่น้อย เมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนจะเข้าเดือนไพรด์ในอีกอึดใจเดียว ดังนั้นแล้ว ท่ามกลางการเฉลิมฉลองและสีสันตระการตา จนถึงการสื่อสารและความเข้าใจที่ที่เข้มข้นมากๆ แล้วในบางพื้นที่ (จนบางคนถึงกับเอียนและหันไป anti-woke เสียอย่างนั้น) เราคงต้องไม่ลืมว่าในปี 2025 นี้ ก็ยังคงมี LGBTQ ที่ถูกฆ่าหรือถูกกระทำความรุนแรงเพียงเพราะเพศสภาพของตนเองอยู่ ซึ่งนับเป็นความรุนแรงที่ไม่อาจรับได้ และความตายของเธอก็ไม่ควรถูกจดจำเพียงในฐานะเหยื่อข่าวอาชญากรรมหนึ่งข่าว แต่มันคือภาพสะท้อนชัดถึงความ ‘ไม่ทั่วถึง’ ในการสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจในความหลากหลายทางเพศดังนั้น สิ่งที่เราอาจต้องทำกันต่อคือการผลักดันให้เกิดความเข้าใจในวงกว้างกว่าที่เคย การร่วมกันออกแบบน้ำเสียงและท่าทีที่หลากหลายกว่าเก่าเพื่อไปให้ถึงผู้คนทุกกลุ่มจริงๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงในภาพใหญ่จริงๆ เช่นกระบวนการยุติธรรมที่มองเห็นว่าการฆาตกรรมตัวเหตุแห่งเพศเป็นปัญหา เพื่อไม่ให้อคติทางเพศเป็นเหตุให้ใครถูกพรากชีวิตไปอีก และไม่ต้องมีใครใช้ชีวิตอยู่กับความหวาดระแวง และทำให้ความปลอดภัยเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนพึงมีอย่างเท่าเทียมกันอย่างแท้จริงอ้างอิง<a href="https://www.youtube.com/watch?v=rn9QO8MWZP0" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.youtube.com/watch?v=rn9QO8MWZP0</a> &nbsp;

มาถึงปี 2025 กระบวนการ Rainbow Washing ทั้งหลายน่าจะถูกจับไต๋ได้และผู้บริโภครู้ทันกันหมดแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นในทุกๆ Pride Month เราก็จะยังเห็นภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ กระโจนเข้ามาร่วมทำแคมเปญที่ว่าด้วย LGBTQ กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

เราควรรีแอคกับ ‘การตลาดสีรุ้ง’ อย่างไรดี? เมื่ออย่างน้อย การเข้าร่วมก็ย่อมดีกว่าต่อต้านและผู้คนก็มีอำนาจในการตรวจสอบความจริงใจ ซึ่งจะไม่หยุดแค่ Pride Month

เข้าใจอย่างยิ่งว่าการด่าให้สะใจบางทีก็ต้องใช้คำให้แรงที่สุด และยิ่งเมื่อโกรธมากๆ หลายๆ คำด่าก็พรั่งพรูออกมาโดยอัตโนมัติอย่างยากจะควบคุม แต่ในปี 2025 นี้แล้ว บางคำด่าก็อาจจะไม่เข้ากับยุคสมัยไปสักหน่อย เพราะมันแฝงไปด้วยการเหยียดอะไรบางอย่างไม่ว่าจะเป็นผู้คน ชุมชน เพศสภาพ หรือเชื้อชาติ

ชวนอัปเดตแพทช์ เผื่อไม่เลือกใช้ เมื่อบางคำด่าก็ไม่เข้ายุคเข้าสมัย เพราะแฝงไปด้วยการเหยียดและด้อยค่าคนอื่น

ตลอดช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตของแม่หลังคลอดในสหรัฐฯ​ พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เมื่อเกือบ 1 ใน 3 ของผู้หญิงอายุประมาณ 25 - 39 ที่ให้กำเนิด มีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนและภาวะหลังคลอดต่างๆ ทว่าแม้แต่ในแวดวงการเเพทย์เองกลับยังไม่ได้ตระหนักถึงปรากฏการณ์อันตรายนี้เท่าที่ควรจะเป็น และนี่เองที่ทำให้ปัญหาเหล่านี้ถูกมองข้าม

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

LGBTQ ถูกฆาตกรรมโดยเด็กวัย 17 ปี ที่เกลียดชัง LGBTQ

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS