
‘ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา’ ถูกวิจารณ์การแต่งตัวโชว์ท้อง กับภาพการ Body Shaming ‘คนท้อง’ ที่มีอยู่จริง และเยอะด้วย เมื่อหลายคนยังไม่เข้าใจสิทธิ์ในร่างกาย
by MIRROR TEAM •01 Apr 2025“ชีวิตนึงจะท้องสักกี่ครั้ง แล้วนี่ท้อง 2 ยังไม่รู้ว่าจะท้องอีกมั้ย อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ขอแต่งตัว โชว์ท้อง ถ่ายรูปฉ่ำๆ มันจะเป็นอารายยยค้า มันหนักอารายยย” ปุ้มปุ้ย พรรณทิพา โพสต์สเตตัสบนเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังถูกวิจารณ์ ‘การแต่งตัว’ ขณะที่เธอตั้งท้องลูกคนที่สอง โดยปุ้มปุ้ยได้แชร์คลิปวิดีโอจากสำนักข่าวบันเทิงหนึ่งที่เก็บภาพเธอไปร่วมงานอีเวนต์กับลูกชายคนโต พร้อมกับแคปชั่นว่า “มันหนักอารายยย” เมื่อเธอพบว่าการใส่ชุดเดรสสีขาวที่มีดีเทลเว้าหน้าท้องเพื่อโชว์สัดส่วนบริเวณท้องครั้งนี้ ถูกวิจารณ์โดยชาวเน็ตแปลกหน้ามากหน้าหลายตา ซึ่งเราต้องบอกเลยว่า นี่ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของ ‘Body Shaming’ ที่ผู้หญิงตั้งครรภ์เผชิญอยู่ไม่น้อย
“กลัว….สะดือ เก็บไว้ดูคนเดียวเหอะค่ะ” / “ชุดไม่ผ่าน น่าเกลียด มองยังไงไม่สวยเลย คนท้องแต่งให้ดีก็น่ารักได้ สรรหามาใส่เนอะ” / “เหมาะใช่ไหม” / “แต่งตัวอะไร คนท้องไม่ควร” / “บางคนก็กลัวคนท้องโตๆ” / “สมัยนี้คนท้องเขาต้องใส่ชุดขนาดนี้เลยเหรอ แปลกไปทุกวัน” / “ควรปิดไว้ค่ะ ไม่ควรโชว์” ฯลฯ นี่คือตัวอย่างความคิดเห็นจากโพสต์ดังกล่าวที่ทำให้เห็นว่า หลายคนมีอคติต่อ ‘รูปร่าง’ ของคนท้อง แม้นั่นจะเป็นรูปร่างตามธรรมชาติของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ แต่สำหรับบางคน กลับรู้สึกว่าการที่ต้องเห็นท้องโตๆ ของคนเป็นแม่ เป็นอะไรที่ไม่สบายตา หรือมองว่าไม่เหมาะไม่ควร ทั้งที่นั่นเป็น ‘สิทธิ์ในเนื้อตัวร่างกาย’ ของปุ้มปุ้ย ที่เธอสามารถเปิดเผยให้คนเห็น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และคนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มาวิพากษ์วิจารณ์เลยด้วยซ้ำ
เรื่องนี้ เราสามารถแยกออกมาได้ 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือเรื่องการที่สังคมคาดหวังให้คนท้องต้องเป็นแบบใดแบบหนึ่งตามภาพจำในอุดมคติ กล่าวคือ หลายคนคาดหวังว่า คนเป็นแม่ควรจะใส่ชุดเรียบร้อย น่ารัก ให้เข้ากับภาพลักษณ์ที่ตัวเองเป็น ‘แม่’ แล้ว ไม่ควรดูเซ็กซี่ ดูแซ่บ ยังสนุกกับการใช้ชีวิต หรือสนุกกับการแต่งตัว เพราะบางคนอาจคาดหวังให้ผู้หญิงคนหนึ่งอุทิศชีวิตเพื่อลูก 100% จนลืมไปว่า พวกเธอก็ยังต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง และยังควรได้เป็นตัวของตัวเองอยู่ ตราบใดที่ไม่ได้ทำร้ายใคร และมั่นใจว่าดูแลตัวเองได้ ลูกในครรภ์ปลอดภัย ก็ไม่ควรมีใครมีปัญหา
ส่วนประเด็นถัดมาที่เชื่อมโยงกัน คือ บางคนก็รู้สึกกลัวว่า เมื่อเห็นท้องโตๆ ออกสู่สาธารณะแบบเต็มสองตา ทำให้หลายคนเกิดความเปราะบางว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นไหม ซึ่งก็จะมีคนที่แค่รู้สึกเป็นห่วง กับคนที่แค่ไม่อยากจะเห็น เพราะเห็นแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเฉยๆ ถึงอย่างนั้น การเลือกวิจารณ์คนท้องด้วยถ้อยคำที่ไม่ใช่ในเชิงบวกหรือเชิงเป็นห่วง ก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องทำอยู่ดี
ยิ่งเป็นคนสาธารณะก็ยิ่งถูกวิจารณ์เรื่องนี้ได้ง่ายมากขึ้นไปอีก แต่อย่างที่บอกไปว่านี่คือร่างกายของพวกเธอ การเป็นคนท้อง ไม่ได้แปลว่าเราจะมีความสุขกับชีวิตแบบที่เลือกเองไม่ได้ เหมือนที่ เซเลบริตี้สาวสุดแซ่บ Rihanna ที่ทุกครั้งที่เธอตั้งท้อง เธอจะสนุกกับการแต่งตัวมันๆ และแซ่บสุดๆ เสมอ เพราะการได้ลุกขึ้นมาแต่งตัว แต่งหน้า มันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น โดยเธอเคยกล่าวไว้กับ Vogue ว่า “ฉันหวังว่าเราจะสามารถนิยามความหมายใหม่ที่เรียกว่า ‘เหมาะ’ สำหรับคนท้องได้ใหม่…ร่างกายของฉันกำลังทำสิ่งที่เหลือเชื่ออยู่ และฉันจะไม่ละอายกับเรื่องนั้น เวลานี้คือเวลาที่ควรเฉลิมฉลอง ทำไมกันเราถึงต้องปกปิดการท้องกันด้วยล่ะ?”
เช่นเดียวกับ Claire Anderson นักอุตุนิยมวิทยาสาวจากสถานีโทรทัศน์ KCPQ ที่เธอเลือกใส่ชุดเดรสเข้ารูปมารายงานข้อมูลออกทีวี จนมีคนถึงขนาดส่งอีเมลมาตำหนิเธอ และขอให้เธอเก็บชุดรัดรูปนั่นไว้จนกว่าจะคลอดลูก ซึ่งเธอก็ได้อัด TikTok ตอบกลับว่า “จำไว้ว่าเราไม่ควรแสดงความคิดเห็นไม่ว่าผู้หญิงจะใส่ชุดอะไรหรือดูเป็นยังไง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเธอกำลังตั้งครรภ์”
และเธอก็ยืนยันกับ TODAY.com ว่า เธอจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพียงเพราะกำลังตั้งครรภ์หรือกำลังจะต้องเลี้ยงดูลูก เพราะ “เราอยู่ในช่วงที่เราเฮลตี้ เราสามารถมีลูกได้ และเราก็สามารถทำงานเต็มเวลาได้ เราเป็น Professional Women และเราก็สามารถเซ็กซี่ได้ และดูดีได้…ฉะนั้น แค่เพราะเราท้อง มันไม่ได้หมายความว่าเราต้องแต่งตัวเชยๆ อีกต่อไป”
ใครอยากแต่งอะไรก็ควรได้แต่ง จะท้องหรือไม่ท้องก็ควรได้ใช้ชีวิตบนพื้นฐานของความสุขของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องอยู่บนพื้นฐานความคาดหวังของใคร ซึ่งถ้าบางครั้งเรารู้สึกไม่ดีต่อรูปร่างของใคร หากฝึกสติก่อนจะพิมพ์อะไรร้ายๆ ต่อคนอื่น นอกจากเราจะไม่ทำร้ายจิตใจใครแล้ว ยังเป็นการฝึกความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมโลก รวมถึงฝึกมารยาทขั้นพื้นฐานไปในตัวด้วยนะ
อ้างอิง:
HOT TOPICS
...
...