นับเป็นอีกข่าวที่เป็นโศกนาฏกรรมและชวนให้หลายคนได้ตั้งคำถามถึงมาตรวัดเรื่องศีลธรรมของตัวเอง รวมถึงระบบสวัสดิการที่รัฐถึงจะเอื้อให้กับประชาชนในประเทศ เมื่อนาย Toshio Hiranouchi ชายชาวญี่ปุ่นวัย 78 ปี ตัดสินใจฆาตกรรมลูกชายวัย 44 ปีของตัวเองที่เป็นผู้พิการทางสติปัญญาตั้งแต่กำเนิด

ศาลญี่ปุ่นตัดสินให้รอลงอาญา พ่อวัย 78 ที่จบชีวิตลูกชายผู้พิการทางสติปัญญาวัย 44 เนื่องจากเห็นแก่ความทุกข์ยากที่ต้องเผชิญ และแรงจูงใจที่ต้องการรับผิดชอบต่อสังคม

นับเป็นอีกข่าวที่เป็นโศกนาฏกรรมและชวนให้หลายคนได้ตั้งคำถามถึงมาตรวัดเรื่องศีลธรรมของตัวเอง รวมถึงระบบสวัสดิการที่รัฐถึงจะเอื้อให้กับประชาชนในประเทศ เมื่อนาย Toshio Hiranouchi ชายชาวญี่ปุ่นวัย 78 ปี ตัดสินใจฆาตกรรมลูกชายวัย 44 ปีของตัวเองที่เป็นผู้พิการทางสติปัญญาตั้งแต่กำเนิดด้วยการรัดคอ และล่าสุดนี้ศาลก็ได้ตัดสินให้ “รอลงอาญา” ซึ่งหมายความว่าเขาจะไม่ต้องเข้าคุกแต่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของรัฐเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งนับเป็นครั้งแรกๆ ในประเทศญี่ปุ่นที่มีการตัดสินคดีฆาตกรรมในทิศทางนี้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่จังหวัดชิบะ ในเดือนกรกฏาคมปี 2024 ผู้เป็นพ่อได้ตัดสินใจจบชีวิตลูกชายในบ้านของพวกเขาเอง โดยก่อนหน้านี้ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ในจังหวัดคานางาวะ แต่ที่นั่นไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเอื้อต่อการดูแลลูกชายผู้พิการทางสติปัญญาอย่างรุนแรง นั่นทำให้ครอบครัวย้ายมาที่ชิบะซึ่งใกล้โตเกียวมากกว่าและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า แต่ด้วยอายุกว่า 78 ของเขาจึงทำให้การดูแลลูกชายยังคงเป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่งในวันเกิดเหตุ ลูกชายได้ทุบทำลายโทรทัศน์และฉีกทิ้งประตูกระดาษภายในบ้าน ผู้เป็นพ่อที่ทุกข์ทรมานมายาวนานกับการดูแลลูกชายที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงตัดสินใจลงมือจบชีวิตเขา เนื่องจากเกรงว่าในอนาคตเขาอาจใช้ความรุนแรงหรืออาจเลยไปถึงการก่ออาชญากรรมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพ่อแม่ที่แก่ชราได้เสียชีวิตลงและไม่มีใครดูแลเขาอีกต่อไป ความพิการทางสติปัญญาของเขาอาจสร้างความเดือดร้อนให้สังคมรอบข้างได้สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศาลให้ความเห็นว่า“นี่นับเป็นอาชญากรรมที่น่าสะเทือนใจ และไม่ว่าด้วยเหตุผลใด การฆาตกรก็จำเป็นต้องรับโทษ แต่เนื่องจากจำเลยให้การว่าเขาได้ดูแลลูกชายมาอย่างยาวนานจนถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้ว อีกทั้งยังไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแม้เขาจะได้ทำทุกอย่างอย่างสุดความสามารถ แต่เขาก็อยู่ในสถานการณ์อันสิ้นหวังโดยไม่ได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูลูกชายต่อ จึงเป็นการโหดร้ายเกินไปหากจะกล่าวโทษว่าเป็นความผิดของจำเลยแต่ฝ่ายเดียว” Ryuta Asaka ศาลจังหวัดชิบะกล่าว และตัดสินให้เขารับการรอลงอาญา 5 ปี แทนการจำคุกเป็นเวลา 3 ปีอย่างไรก็ตาม ภรรยาของผู้ก่อเหตุที่เลี้ยงดูลูกชายมาด้วยกันยาวนานมากกว่าสี่สิบปีกลับไม่เห็นด้วยกับการกระทำของสามี โดยเธอกล่าวว่า “สามีของฉันรักลูกคนนี้ของเรามากค่ะ เขาได้ดูแลลูกชายอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เสมอมา แต่สำหรับฉัน สิ่งที่เขาทำลงไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจอภัยให้ได้ ฉันจะรับผิดชอบร่วมกับเขา ฉันอยากชดใช้ความผิดร่วมกับเขาค่ะ”&nbsp;อ้างอิง<a href="https://japantoday.com/category/crime/father-given-suspended-sentence-for-murder-of-intellectually-disabled-son" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://japantoday.com/category/crime/father-given-suspended-sentence-for-murder-of-intellectually-disabled-son</a>&nbsp;<a href="https://barrierfreejapan.com/2025/02/20/78-year-old-chiba-father-pleads-guilty-to-murder-of-disabled-44-year-old-son-saying-i-did-nothing-wrong/" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://barrierfreejapan.com/2025/02/20/78-year-old-chiba-father-pleads-guilty-to-murder-of-disabled-44-year-old-son-saying-i-did-nothing-wrong/</a>&nbsp;

แบมแบม-ชนิสรา หน่ายมี คือนักเขียนสาวผู้มีข้อจำกัดทางการเคลื่อนไหว ทำให้เดินลำบาก เจ้าของคอลัมน์ ‘Mental Life by Chanisara’ แห่ง แสนสิริ ซึ่งเป็นหนึ่งคนที่ใช้ชีวิตโดยเชื่อในพลังของตัวเอง แม้เธอจะเคยถูกปฏิเสธงานมามากเพราะความพิการ

‘แบมแบม-ชนิสรา หน่ายมี’ นักเขียนเจ้าของคอลัมน์ Mental Life by Chanisara แห่ง แสนสิริ ผู้มีข้อจำกัดทางการเคลื่อนไหว ซึ่งอยากผลักดันให้ผู้พิการทุกคนได้ทำทุก ‘อาชีพ’ ที่รัก

อ.นาดา ไชยจิตต์ จากสำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวถึงกรณีการกล่าวโทษว่าแผ่นดินไหวเป็นผลมาจากบาปของสมรสเท่าเทียมว่า “การกล่าวโทษแผ่นดินไหวว่าเกิดจากการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม หรือโยงความหลากหลายทางเพศเข้ากับภัยพิบัติธรรมชาติ เป็นความเข้าใจผิดร้ายแรง สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงเชิงโครงสร้าง ที่ฝังรากลึกในไทย” 

'ความเกลียดชังทางเพศ' ในช่วงแผ่นดินไหว เมื่อหญิงปริศนาโผล่กลางวงนักข่าวและโทษว่าภาวะวิกฤตนี้เป็นเพราะไทยมี 'สมรสเท่าเทียม'

แม้แต่กับลูกสาวของตัวเอง อีลอน มัสก์ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะแสดงออกถึงความเกลียดชังคนข้ามเพศที่ตัวเขามีอยู่อย่างเข้มข้น จนทำให้ความสัมพันธ์ของเขากับลูกอย่าง วิเวียน วิลสัน พังลง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS