10 ตุลาคมที่ผ่านมา องค์กรยูนิเซฟ (UNICEF) ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการว่า มีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงกว่า 370 ล้านคนทั่วโลก หรือ 1 ใน 8 ของผู้หญิงทั้งหมด เคยถูกข่มขืนหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศก่อนอายุ 18 ปี ขณะเดียวกัน ผู้ชายและเด็กผู้ชายกว่า 240 ล้านคนทั่วโลก หรือคือ 1 ใน 11 ของผู้ชายทั้งหมด เคยถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศก่อนอายุ 18 ปี เช่นกัน

UNICEF เปิดเผยตัวเลขประมาณการจาก 120 ประเทศในปี 2010-2022
ผู้หญิงกว่า 370 ล้านคน / ผู้ชายกว่า 240 ล้านคนเคยถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนอายุ 18 ปี 


10 ตุลาคมที่ผ่านมา องค์กรยูนิเซฟ (UNICEF) ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการว่า มีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงกว่า 370 ล้านคนทั่วโลก หรือ 1 ใน 8 ของผู้หญิงทั้งหมด เคยถูกข่มขืนหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศก่อนอายุ 18 ปี ขณะเดียวกัน ผู้ชายและเด็กผู้ชายกว่า 240 ล้านคนทั่วโลก หรือคือ 1 ใน 11 ของผู้ชายทั้งหมด เคยถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศก่อนอายุ 18 ปี เช่นกันนั่นหมายถึง มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวนมากที่ถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศ โดย Catherine Russell ผู้อำนวยการยูนิเซฟยังระบุอีกว่าส่วนใหญ่แล้ว การล่วงละเมิดเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากคนที่เด็กคนนั้นๆ รู้จักหรือไว้เนื้อเชื่อใจ ทั้งยังเกิดขึ้นในสถานที่ที่ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กอีกด้วยและหากนับรวมการคุกคามทางเพศโดย ‘ไม่ถูกเนื้อตัว’ เช่นทางวาจาหรือทางออนไลน์เข้าไปด้วย ก็จะมีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงที่เคยถูกกระทำมากถึง 650 ล้านคน หรือก็คือ 1 ใน 5 ของผู้หญิงทั่วโลก และมีผู้ชายหรือเด็กผู้ชายที่เคยถูกกระทำ 410-530 คน หรือประมาณ 1 ใน 10 ของผู้ชายทั่วโลกสำหรับกลุ่มที่เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทางเพศมากที่สุดคือเด็กผู้หญิงในพื้นที่สงครามและความขัดแย้ง รวมถึงในกลุ่มผู้อพยพจากวิกฤติทางการเมืองและความมั่นคง ที่มีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงกว่า 1 ใน 4 คน เคยถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศก่อนอายุ 18 ปี&nbsp;ความรุนแรงทางเพศส่งผลกระทบที่ร้ายแรงและยาวนาน โดยจากการศึกษาพบว่าคนที่ผ่านเหตุการณ์เหล่านี้จำนวนมากจะมีบาดแผลฝังใจจนโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งยังต้องเผชิญความเสี่ยงเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การใช้สารเสพติด การแยกตัวออกจากสังคม และปัญหาสุขภาพจิตอย่างโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล ไม่เพียงเท่านั้นยังต้องเผชิญความยากลำบากในการสร้างความสัมพันธ์ที่เฮลตี้ในอนาคต ซึ่งผลกระทบเหล่านี้จะยิ่งรุนแรงขึ้นหากเด็กคนนั้นต้องเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นไว้กับตัวเองเป็นเวลานานๆ &nbsp;การประมาณการนี้ มาจากการรวบรวมข้อมูลใน 120 ประเทศ ภายในปี 2010-2022 ซึ่งตัวเลขที่ออกมาก็นับเป็นสัญญาณเร่งด่วนที่ทั่วโลกจะต้องร่วมหาหนทางป้องกันความรุนแรงทางเพศและการล่วงละเมิดในทุกรูปแบบ ซึ่งนอกจากการรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงทางเพศต่อเด็กแล้ว ยังต้องมีการให้ข้อมูลเรื่องความช่วยเหลือ และช่วยให้เด็กสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที รวมถึงต้องมีการปรับแก้ไขกฎหมายของแต่ละประเทศให้แข็งแรงขึ้น ทั้งยังต้องสร้างเครือข่ายข้อมูลระดับนานาชาติ เพื่อสร้างมาตรฐานร่วมกันในการต่อต้านความรุนแรงทางเพศต่อเด็กทั่วโลก &nbsp; อ้างอิง<a href="https://www.unicef.org/press-releases/over-370-million-girls-and-women-globally-subjected-rape-or-sexual-assault-children" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.unicef.org/press-releases/over-370-million-girls-and-women-globally-subjected-rape-or-sexual-assault-children </a>

“ทำไมกินข้าวคนเดียวอะ” หรือ “กินข้าวคนเดียว ไม่เหงาเหรอ?” ดูจะกลายเป็นประโยคที่ไม่ควรต้องเอามาถามกันแล้ว เพราะการเป็น Solo Diner หรือคนที่กินข้าวคนเดียว กลายเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่ไม่จำเป็นต้องหาคำตอบว่าทำไมอีกต่อไป และหลายคนก็เริ่มหันมากินข้าวคนเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

จะโสด-ไม่โสด หรือจะมีเพื่อนกี่คน
คุณก็เป็น Solo Diner ได้
เรื่องของการ ‘กินข้าวคนเดียว’ ที่กลายเป็นเทรนด์จนร้านอาหารทั่วโลกยังต้องปรับตัว

วันที่ 22 มกราคม 2568 จะเป็นวันแรกในหน้าประวัติศาสตร์ไทยที่ความรักของคู่รัก ‘ทุกเพศ’ จะเท่าเทียมกัน เพราะคนเพศหลากหลายจะ มี ‘สิทธิ’ ครองรักกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 'สมรสเท่าเทียม'

นับตั้งแต่ 22 มกราคม 2568 เป็นต้นไป คู่รักเพศหลากหลายในไทย จะมีสิทธิรักกัน
อย่างถูกต้องตามกฎหมาย #สมรสเท่าเทียม

การปรับแก้กฎหมายใหม่ล่าสุดของอิตาลี ถึงกับถูกวิจารณ์ว่าเป็นการถอยกลับไปสู่ยุคกลางอีกครั้ง เมื่อรัฐสภาเพิ่งผ่านกฎหมายที่ทำให้การรับเด็กอุ้มบุญจากต่างประเทศเป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยรัฐบาลฝั่งอนุรักษ์นิยมที่นำโดยนายกหญิงอย่างจอร์จา เมโลนี (Giorgia Meloni) ระบุว่า นี่เป็นการปกป้องครอบครัวตามขนบอันดีงามให้คงอยู่ต่อไป

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS