“นี่ถือเป็นการตบหน้าผู้ถูกกระทำ ที่เห็นคนปรบมือให้ผู้ข่มขืนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น” Charlotte Proudman นักกฎหมายและผู้ก่อตั้งองค์กร Right to Equality กล่าวถึงกรณี Steven van de Velde นักกีฬาชายที่เคยถูกตัดสินจำคุกข้อหา ‘ข่มขืน’ เด็กผู้หญิงอายุ 12 ปี จะเป็นตัวแทนประเทศเนเธอร์แลนด์ในการแข่งขัน Olympic

นักกฎหมายกล่าวถึงกรณีที่ Steven van de Velde นักกีฬาชายผู้เคยข่มขืนเด็กสาวอายุ 12 ปี เป็นตัวแทนประเทศเนเธอร์แลนด์ในการแข่งขัน Olympic 

ตัวแทนจากประเทศเนเธอร์แลนด์ที่จะเข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกปีนี้ที่จะเกิดขึ้น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส คือนักกีฬาชายที่เคยถูกตัดสินจำคุกข้อหา <a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B8%99" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘ข่มขืน’</a> เด็กผู้หญิงอายุ 12 ปี ซึ่งผู้จัดงานโอลิมปิกก็ออกมายืนหยัดเคียงข้างเขา ท่ามกลางกระแสสังคมที่ทวงถามถึงความเหมาะสมต่อการเลือกตัวแทนประเทศที่เคยมีคดีทางเพศแบบนี้ ว่ามันยุติธรรมต่อเหยื่อแล้วจริงๆ ใช่หรือไม่? และตั้งคำถามถึงการมองความผิดฐานข่มขืนว่าเป็นเรื่องที่ปล่อยผ่านไปได้อยู่หรือเปล่า? เพราะองค์กรได้อ้างเหตุผลว่า เขาควรได้รับโอกาสอีกครั้ง และองค์กรก็คิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ทั้งยังเชื่อว่าเขากลับตัวกลับใจแล้วจริงๆไม่ว่าจะกลับตัวกลับใจได้จริงหรือไม่ แต่ความผิดของ สตีเฟน แวน เดอ เวลเดอ (Steven van de Velde) นักกีฬาชายคนดังกล่าวที่ขณะนี้เขามีอายุ 29 ปี ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 2014 ตอนที่เขามีอายุ 19 ปี ซึ่งเด็กสาวที่ตกเป็นเหยื่อก็ยากที่จะลืม และสังคมก็ไม่ลืมที่จะหยิบยกพฤติกรรมนี้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตัดสินใจของสมาคมวอลเลย์บอลดัตช์ และผู้จัดงานโอลิมปิกดัตช์ครั้งนี้ แม้เรื่องนี้จะผ่านมาแล้ว 10 ปี&nbsp;“ผมเข้าใจดีครับว่าก่อนการแข่งขันกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้จะมาถึง เรื่องของผมสามารถเป็นที่สนใจต่อสื่อต่างประเทศได้…ผมไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ ผมจึงจะต้องรับผลที่ตามมา จากความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม” สตีเฟน แวน เดอ เวลเดอ กล่าวในแถลงการณ์ขณะที่ ซารา อลาอุย (Sara Alaoui) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ Safe Space Club องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ช่วยเหลือเหยื่อทารุณกรรมทางเพศ ได้แสดงความรู้สึกกลับทันทีว่า “ถ้าคุณเสียใจจริงๆ และนี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคุณ คุณก็ควรจะแสดงให้เห็นเหมือนกันนะว่าทำไมคุณถึงควรได้รับโอกาสครั้งที่สอง” พร้อมตั้งคำถามว่า “ฉันไม่เข้าใจเลยว่านี่น่ะเหรอวิธีที่เรารับมือกันในยุค post-MeToo ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์…คือเรากำลังพูดถึงการทารุณกรรมเด็กที่นี่อะค่ะ”ด้าน ชาร์ลอตต์ พราวด์แมน (Charlotte Proudman) นักกฎหมายและผู้ก่อตั้งองค์กร Right to Equality กล่าวว่า “ไม่มีผู้ข่มขืนเด็กคนไหนควรจะได้เป็นตัวแทนประเทศในโอลิมปิก” และย้ำว่า “นี่ถือเป็นการตบหน้าผู้รอดชีวิตที่เห็นคนปรบมือให้ผู้ข่มขืนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น”&nbsp;“แล้วทำไมเด็กผู้หญิงและผู้หญิงจะรายงานว่าตัวเองถูกข่มขืนล่ะ เมื่อสังคมปกป้องผู้ชายและปล่อยให้เขาใช้ชีวิตอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร โดยไม่สนใจความบอบช้ำทางใจที่เกิดขึ้นกับเหยื่อเลย?” เธอกล่าวเหตุการณ์ในอดีต เกิดขึ้นขณะที่ สตีเฟน แวน เดอ เวลเดอ เดินทางไปอังกฤษ และได้ข่มขืนเด็กผู้หญิงที่เขาพบทางเฟซบุ๊ก โดยศาลอังกฤษตัดสินจำคุกเขาในปี 2016 เป็นเวลา 4 ปี แต่ต่อมา เขาได้ถูกย้ายไปยังเนเธอร์แลนด์ และถูกปรับเปลี่ยนโทษตามกฎหมายดัตช์ ทำให้เขาจำคุกแค่หนึ่งปีกว่าๆ เท่านั้น และเมื่อออกมาจากคุกแล้ว เขาก็ได้กลับมาเล่นวอลเลย์บอลชายหาดอีกครั้งในปี 2017 หลายคนจึงอดตั้งคำถามต่อสมาคมวอลเลย์บอลไม่ได้ว่า สามารถให้ผู้กระทำความผิดคนนี้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติในเวลาอันสั้นขนาดนี้ได้อย่างไร และนั่นถือเป็นความรู้สึกผิดที่มีต่อเหยื่อจริงหรือไม่ บวกกับคำแถลงล่าสุดของสมาคมวอลเลย์บอลดัตช์ต่อการตัดสินใจเลือกเขาเป็นตัวแทนประเทศแข่งโอลิมปิกที่ว่า “เมื่อ แวน เดอ เวลเดอ มองไปที่กระจกตอนนี้ เขาเห็นชายที่มีวุฒิภาวะและมีความสุข เขาแต่งงาน และเป็นพ่อของลูกชายที่น่ารักแล้ว” และ มิเชล เอเวเอิร์ต (Michel Everaert) ผู้อำนวยการทั่วไปของสหพันธ์วอลเลย์บอลดัตช์ (NeVoBo) ก็เสริมว่า เขากำลังพิสูจน์ตัวเองให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพและความเป็นมนุษย์ในตัวเขา ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ให้โอกาสเขากลับมายืนตรงนี้อีกครั้งเช่นเดียวกับคณะกรรมการโอลิมปิกดัตช์ หรือ Dutch Olympic Committee (NOC) ที่ได้กล่าวกับ BBC Sport ว่า “หลังจากที่เขาได้รับการปล่อยตัวมา แวน เดอ เวลเดอ ได้เข้าพบและรับคำปรึกษาอย่างมืออาชีพแล้ว เขาแสดงให้คนรอบข้างเห็นทั้งพาร์ตส่วนตัวและเชิงวิชาชีพ รวมถึงแสดงให้เห็นถึงการเข้าใจตนเองและการสะท้อนตัวตนออกมา” และย้ำอีกว่า การกลับมาของเขาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดย NeVoBo และเขาก็มีคุณสมบัติทั้งหมดสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกการตัดสินใจยืนเคียงข้างผู้เคยกระทำความผิดของโอลิมปิกและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในครั้งนี้ ทำให้ผู้คนจำนวนมากทั่วโลกมีสายตาเปลี่ยนไปต่อภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของโอลิมปิก ที่เปรียบเสมือนผู้นำด้านกีฬา ว่าท้ายที่สุด สิ่งที่โอลิมปิกต้องการคือความเก่งทางด้าน ‘กีฬา’ อย่างเดียวหรือไม่ เพราะหากชีวิตจริงนักกีฬาตัวแทนการแข่งขัน สอบตกเรื่องของคุณงามความดีพื้นฐานอย่างการไม่ทำร้าย ไม่คุกคามเพื่อนมนุษย์ หรือเคารพสิทธิเนื้อตัวร่างกายอีกฝ่าย ก็ยังจะเป็นนักกีฬาที่ควรถูกยกย่องต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องความเก่งมาปนกับเรื่องส่วนตัวที่สร้างบาดแผลให้คนที่ตกเป็นเหยื่อได้จริงเหรอ?อ้างอิง:<a href="https://www.nytimes.com/2024/06/28/world/europe/steven-van-de-velde-dutch-volleyball-olympics.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.nytimes.com/2024/06/28/world/europe/steven-van-de-velde-dutch-volleyball-olympics.html </a><a href="https://apnews.com/article/olympics-velde-beach-volleyball-rape-cc3847c32c49189b3aa3412dbb9bafc1" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://apnews.com/article/olympics-velde-beach-volleyball-rape-cc3847c32c49189b3aa3412dbb9bafc1 </a><a href="https://www.bbc.com/sport/articles/c511yz5ze18o" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.com/sport/articles/c511yz5ze18o </a><a href="https://www.today.com/news/sports/steven-van-de-velde-netherlands-volleyball-controversy-rcna159587" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.today.com/news/sports/steven-van-de-velde-netherlands-volleyball-controversy-rcna159587 </a>

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเเพทย์หญิงชาวอินเดียเมื่อเดือนที่ผ่านมาจนเกิดการลุกฮือประท้วงครั้งใหญ่ของบรรดาบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่โกรธแค้น ไม่เพียงสั่นสะเทือนไปทั่วระบบสาธารณสุขของอินเดียที่ต้องหยุดชะงัก มันยังกระตุ้นให้เกิดการทวงถามถึงสวัสดิภาพของคนทำงานในหน่วยงานสาธารณสุขที่ทุ่มเทดูแลชีวิตคนอื่น ‘ด้วยชีวิต’ แต่กลับเป็นชีวิตของพวกเขาเสียเองที่ถูกละเลยและไม่ได้รับการดูแลอย่างน่าเศร้า

การดูแลชีวิตที่ต้องแลกด้วยชีวิตของแพทย์ในอินเดีย กับความปลอดภัยและสวัสดิภาพที่ไม่เคยมาถึง 

หากพูดถึง ‘สีดำ’ แต่ละคนอาจมี Perception ที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจมองว่าสีดำให้ความรู้สึกในด้านบวก แต่สำหรับบางคน สีดำอาจให้ความรู้สึกในด้านลบ ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความไม่สดสใส หรือความหม่นหมอง เช่นเดียวกับที่โรงเรียนมัธยมในเท็กซัสมีต่อสีดำ โดยเฉพาะการที่สีดำมาอยู่ในเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เมื่อโรงเรียนออกประกาศห้ามนักเรียนใส่สีดำล้วนแบบ ‘All Black’ มาเรียนเนื่องจากเกรงว่าสีดำอาจก่อให้เกิดอารมณ์ทางด้านลบได้

โรงเรียนมัธยมในเท็กซัสห้ามนักเรียนแต่งตัว ‘All Black’ เพราะเกรงจะส่งผลต่อ ‘สุขภาพจิต’

6 ก.ย. 2024 มีการจับกุม ‘คลินิกรับทำแท้งเถื่อน’ ภายในซอยเพชรบุรี 31 โดยพบว่าคลินิกแห่งนี้เปิดให้บริการมากว่า 20 ปี และคนที่ให้บริการก็เป็น ‘หมอปลอม’ ที่ไม่ได้มีใบอนุญาตให้ประกอบอาชีพเวชกรรม

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS