โซเฟีย หวง เสวี่ยฉิน (Sophia Huang Xueqin) นักข่าวสายเฟมินิสต์ และนักเคลื่อนไหว #MeToo ผู้จุดประกายให้ใครหลายๆ คนตั้งคำถามต่อเรื่องการคุกคามทางเพศ ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 5 ปี โทษฐาน ‘ยุยงและบ่อนทำลายอำนาจรัฐ’

เมื่อเฟมินิสต์และความเท่าเทียมเป็นภัยต่อ ‘รัฐจีน’ กรณี Sophia Huang Xueqin นักข่าวด้านสิทธิสตรี และนักเคลื่อนไหว #MeToo ถูกศาลตัดสินจำคุก 5 ปี โทษฐาน ‘ยุยงและบ่อนทำลายอำนาจรัฐ’

‘โซเฟีย หวง เสวี่ยฉิน’ (Sophia Huang Xueqin) ชื่อนี้เป็นชื่อของ<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ผู้หญิงจีน</a>คนหนึ่งที่ส่งมอบพลังให้กับผู้หญิงจีนอีกหลายคนให้รู้สึกมีความหวังที่จะต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมทางเพศในประเทศ เธอคนนี้เป็นทั้งนักข่าวสาย<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C" rel="noopener noreferrer" target="_blank">เฟมินิสต์</a> และนักเคลื่อนไหว #MeToo ผู้จุดประกายให้ใครหลายๆ คนตั้งคำถามต่อเรื่องการคุกคามทางเพศ ความสำคัญของสิทธิสตรี ไปจนถึงเรื่องความไม่เป็นธรรมที่แรงงานกำลังเผชิญ และเข้าร่วมการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งเธอเองต้องพบกับความท้าทายตลอดเส้นทางการขับเคลื่อน เธอถูกรัฐขัดแข้งขัดขา ถูกจับกุม ถูกขังเดี่ยวเป็นเดือน มองว่าเธอเป็นภัย และล่าสุดนี้ ศาลจีนก็เพิ่งตัดสินให้เธอถูกจำคุก 5 ปี โทษฐาน&nbsp;‘ยุยงและบ่อนทำลายอำนาจรัฐ’วันที่ 14 มิถุยายน 2024 มีรายงานว่า หวง เสวี่ยฉิน ถูกศาลตัดสินจำคุกพร้อมกับนักเคลื่อนไหวด้านแรงงาน หวัง เจียนปิง (Wang Jianbing) ซึ่งถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง หลังจากทั้งสองถูกควบคุมตัวในข้อหายุยงและบ่อนทำลายอำนาจรัฐ โดยสำเนาคำตัดสินระบุว่า หวง เสวี่ยฉิน ถูกจำกัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 4 ปี และถูกปรับ 100,000 หยวน ขณะที่ หวัง เจียนปิง ถูกจำกัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 3 ปี และถูกปรับ 50,000 หยวน ซึ่งเบื้องต้นด้าน หวง เสวี่ยฉิน ตั้งใจจะอุทธรณ์คำพิพากษาของเธอ&nbsp;นี่ไม่ใช่การย่างก้าวเข้าคุกครั้งแรก หลังจากต่อสู้เรื่องประชาธิปไตยของ หวง เสวี่ยฉิน แต่ก็ถือเป็นโทษสูงสุดตั้งแต่เธอเคยโดนมา ก่อนหน้านี้ในปี 2019 เธอเคยถูกควบคุมตัวหลังรายงานข่าวการประท้วงในฮ่องกง และได้รับการปล่อยตัวออกมาเมื่อต้นปี 2020 และเมื่อเดือนกันยายน ปี 2021 เธอก็ถูกจับกุมอีกครั้ง ขณะกำลังจะเดินทางไปยังสนามบินเพื่อเดินทางไปอังกฤษเพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยซัสเซกซ์ เนื่องจากเธอได้รับทุนชีฟนิ่ง หรือทุนการศึกษาหนึ่งจากรัฐบาลอังกฤษ&nbsp;<img src="https://media.thairath.co.th/image/MSJNg5sAPDoJ04MWermdFUr36sEEnQKLV0tAnawCrzge9vA1.png" data-id="101642" data-url="https://media.thairath.co.th/image/MSJNg5sAPDoJ04MWermdFUr36sEEnQKLV0tAnawCrzge9vA1.png" style="width: auto;" class="fr-fic fr-dib">เธอถูกควบคุมตัวในสถานกักกันลับ ซึ่งผู้สนับสนุนของเธอได้กล่าวว่า เธอถูกสอบปากคำ ถูกทรมาน และปฏิบัติอย่างโหดร้าย โดยกลุ่ม Chinese Human Rights Defenders (CHRD) ได้กล่าวว่า ตำรวจได้สอบปากคำเพื่อนๆ ของทั้งสองคนมากถึง 70 คน ซึ่งบางคนก็ถูกบังคับให้ออกไปจากเมืองกว่างโจว โดยทั้ง หวง เสวี่ยฉิน และ หวัง เจียนปิง ถูกตั้งข้อหายุยงและปลุกปั่นเพื่อให้เกิดการบ่อนทำลายอำนาจรัฐผ่านการจัดการงานหารือเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ไม่ว่าจะหัวข้อเฟมินิสต์ สิทธิ LGBTQ+ และสิทธิแรงงาน ทั้งยังถูกกล่าวหาว่าตีพิมพ์บทความที่โจมตีรัฐบาล&nbsp;และเมื่อคำตัดสินของศาลในปีนี้ออกมาว่าทั้งคู่ต้องถูกจำคุกเป็นเวลานานหลายปี สิ่งนี้ก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนว่า รัฐบาลจีนมองการขับเคลื่อนเรื่องความเท่าเทียมเป็นปรปักษ์กับพวกเขา ทำให้องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนต่างๆ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกเขาโดยเร็ว&nbsp;แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ทั้งคู่ถูกจำคุก “เพียงเพราะใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออก” โดย ซาราห์ บรูคส์ (Sarah Brooks) ผู้อำนวยการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศจีน กล่าวว่า “พวกเขาแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลจีนรู้สึกหวาดกลัวแค่ไหนต่อคลื่นการเปลี่ยนแปลงของเหล่านักเคลื่อนไหวที่กล้าลุกขึ้นมายืนหยัดปกป้องสิทธิของผู้คน”“การเคลื่อนไหวของ #MeToo ได้ empower เหล่าผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงทางเพศทั่วโลก แต่จากกรณีนี้สิ่งที่ทางการจีนกำลังทำคือความพยายามที่จะทำสิ่งตรงกันข้าม ด้วยการผลักเรื่องนี้ออกไปเสีย” เธอกล่าวน่าเศร้าที่ปฏิกิริยาต่อสาธารณชนแบ่งเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน เพราะบางคนที่ต่อต้านเฟมินิสต์อยู่แล้ว ก็รู้สึกโอเคกับการที่ หวง เสวี่ยฉิน ถูกจับกุมอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความพร้อมที่จะกีดกันคนเห็นต่างได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะกับประเด็นความเท่าเทียมทางเพศในหมู่ประชาชน และที่น่าเศร้าไปไม่ต่างกัน คือคนที่สนับสนุนสิทธิทางเพศและประเด็นสังคมจำนวนมากในประเทศจีน หลายคนก็ต้องขับเคลื่อนกันโดยไม่เปิดเผยตัวตนทางออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยต่างๆ ซึ่งเป็นที่ชัดเจนว่าเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนถูกจำกัดอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกับคนที่เห็นต่างทางการเมืองกลุ่มรณรงค์เพื่อปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวทั้งสองอย่าง Free Huang Xueqin and Wang Jianbing ได้กล่าวว่า ความพยายามและการอุทิศตนเพื่อแรงงาน สิทธิสตรี และภาคประชาสังคม ของพวกเขาจะไม่สูญเปล่าจากการถูกพิจารณาคดีอย่างไม่ยุติธรรมนี้ และเชื่อว่าคนในสังคมจะไม่ลืมการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศของพวกเขา เพราะ “ในทางกลับกัน เมื่อการกดขี่ยังคงมีอยู่ และความไม่ยุติธรรมมีเพิ่มมากขึ้น เหล่านักเคลื่อนไหวแบบพวกเขาก็จะลุกขึ้นมาสานต่อเพิ่มมากขึ้นต่อไป”อ้างอิง:<a href="https://www.theguardian.com/world/article/2024/jun/14/sophia-huang-xueqin-prominent-china-metoo-journalist-sentenced-jail-five-years-supporters-say" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.theguardian.com/world/article/2024/jun/14/sophia-huang-xueqin-prominent-china-metoo-journalist-sentenced-jail-five-years-supporters-say</a><a href="https://www.bbc.com/news/articles/c9007v0n05yo" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.com/news/articles/c9007v0n05yo</a>

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น อาเจะห์คือจังหวัดที่ยังมีการลงโทษคนด้วยการเฆี่ยนตี และมีกฎหมายบังคับให้ผู้หญิงต้องสวมใส่ฮิญาบ อีกทั้งผู้หญิงส่วนมากยังต้องอยู่แต่ในบ้านและมีโอกาสทางการศึกษาและอาชีพน้อยกว่าผู้ชายหลายเท่า ดังนั้น สำหรับพื้นที่อื่นๆ บนโลกนี้ การมีผู้หญิงเป็นเจ้าของร้านกาแฟคงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร แต่สำหรับที่อาเจะห์ นี่เป็นเรื่องที่น่าพูดถึง

Morning Mama 
ร้านกาแฟโดยผู้หญิงเพื่อผู้หญิงในจังหวัดอาเจะห์ พื้นที่สุดคอนเซอร์เวทีฟ ในประเทศอินโดนีเซียที่ร้านกาแฟคือ ‘โลกของผู้ชาย’ มาตลอดหลายปี


เมื่อถึงช่วงหนึ่งในชีวิต การไม่สามารถมีลูกได้อาจกลายเป็นบาดแผลสำหรับผู้หญิงหลายคน และมิเชลล์ โหย่ว (Michelle Yeoh) ก็คือหนึ่งในนั้น โดยเธอเพิ่งออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ในรายการ BBC Woman’s Hour ว่าเธออยากมีลูกมาตลอด แต่ก็ไม่สามารถมีได้ เธอเข้าปรึกษาแพทย์และรับการรักษาภาวะมีบุตรยาก แต่ก็ยังไม่สำเร็จ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกว่าแม้ตัวเองจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แต่ในด้านความเป็นผู้หญิง เธอกลับล้มเหลว

Michelle Yeoh เปิดเผยว่าการไม่สามารถมีลูกได้
คือความเจ็บปวดใหญ่ในชีวิต

แม้จะไม่ได้มีกฎข้อห้ามอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าประเด็นที่บรรดานักแสดงตลกในจีนต่างรู้กันว่า ‘ไม่พูดดีกว่า ถ้าไม่อยากเดือดร้อน’ ก็เห็นจะต้องยกให้เป็นเรื่องการเมือง เรื่องทหาร กับเรื่องของ ‘ความเป็นชาย’ มาเป็นอันดับต้นๆ 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS