ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 สื่อ The New York Times และ The New Yorker ได้เปิดเผยข้อมูลถึงกรณีการล่วงละเมิดทางเพศอื้อฉาวที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดว่านายฮาร์วีย์ ไวน์สตีน (Harvey Weinstein) อดีตผู้ก่อตั้งค่ายหนัง Miramax และผู้อำนวยการ The Weinstein Company ได้ใช้อำนาจในวงการที่มีอยู่ล้นเหลือ คุกคามและล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงจำนวนมากเป็นเวลายาวนานร่วมทศวรรษตลอดเวลาที่เขาทรงอิทธิพลอยู่  แต่ล่าสุดเมื่อ 25 เมษายนที่ผ่านมา ศาลสูงรัฐนิวยอร์กได้ตัดสินใจถอนคำตัดสินกรณีของนายไวน์สตีนเป็นที่เรียบร้อย 

ศาลนิวยอร์กถอนคำตัดสินโทษกรณีล่วงละเมิดทางเพศของ Harvey Weinstein เพราะมองว่าการตัดสิน ‘ไม่แฟร์’ จนอาจทำให้ต้องรื้อคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่


ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 สื่อ The New York Times และ The New Yorker ได้เปิดเผยข้อมูลถึงกรณีการล่วงละเมิดทางเพศอื้อฉาวที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดว่านายฮาร์วีย์ ไวน์สตีน (Harvey Weinstein) อดีตผู้ก่อตั้งค่ายหนัง Miramax และผู้อำนวยการ The Weinstein Company ได้ใช้อำนาจในวงการที่มีอยู่ล้นเหลือ คุกคามและล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงจำนวนมากเป็นเวลายาวนานร่วมทศวรรษตลอดเวลาที่เขาทรงอิทธิพลอยู่ และจำนวนเหยื่อที่ถูกเขาคุกคามทางเพศนั้นก็มีมากกว่า 100 คน หลายๆ คนเป็นลูกจ้างในบริษัทตัวเอง เป็นคนทำงานเบื้องหลัง เป็นคนตัวเล็กตัวน้อยในอุตสาหกรรมบันเทิง ไม่เว้นแม้แต่นักแสดงหญิงระดับ A-list หลายๆ คนที่ตกเป็นเหยื่อของเขาอย่าง กวินเน็ธ พัลโทรล (Gwyneth Paltrow) และ แองเจลินา โจลี (Angelina Jolie)&nbsp;การเปิดโปงสุดอื้อฉาวครั้งนั้นได้สร้างแรงกระเพื่อมให้กระแส ‘Weinstein Effect’ เกิดขึ้นทั่วฮอลลีวูด เมื่อบรรดาคนที่เคยตกเป็นเหยื่อการคุกคามทางเพศต่างลุกขึ้นมาเปิดเผยเรื่องราวของตัวเอง พร้อมกับทำให้เกิดการเปิดเผยเหล่า ‘นักล่า’ ที่ยังลอยนวลทีละรายๆ ไม่ใช่แค่ในวงการหนังเท่านั้น แต่คลื่น Weinstein Effect ยังเซาะไปถึงวงการโทรทัศน์ สื่อ สิ่งพิมพ์ แฟชั่น ลามไปถึงแวดวงการเมือง จนกลายมาเป็นมูฟเมนต์ครั้งใหญ่ที่ทำให้เกิดแฮชแท็ก #Metoo ขึ้นมา เพื่อทั้งเป็นการแสดงพลังต่อต้านไม่ให้การคุกคามทางเพศเกิดขึ้นซ้ำรอยอีก และเป็นการยืนหยัดเคียงข้างเหยื่อทุกคนที่กล้ายกมือเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้&nbsp;กระทั่งต่อมาในปี 2020 ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ถูกตัดสินว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิดฐาน ‘ประทุษร้ายทางเพศ’ (Sexual Assault) ด้วยกันถึง 2 ข้อหา ซึ่งเป็นเหมือนหมุดหมายและชัยชนะที่ตอกย้ำมูฟเมนต์ #Metoo อีกครั้งหนึ่งแต่ล่าสุดเมื่อ 25 เมษายนที่ผ่านมา ศาลสูงรัฐนิวยอร์กได้ตัดสินใจถอนคำตัดสินกรณีของนายไวน์สตีนเป็นที่เรียบร้อย โดยเนื้อหาสำคัญในแถลงการณ์ของศาลได้กล่าวว่า การพิจารณาคดีกระทำความผิดทางเพศของไวน์สตีนที่ถูกตัดสินไปแล้วเมื่อปี 2020 นั้นมีข้อผิดพลาด เนื่องจากหลักฐานที่ศาลใช้นำมาประกอบการพิจารณาคดีในครั้งนั้นมาจากบรรดาโจทก์ 4 คน ที่อยู่นอกเหนือจากเคสที่ฟ้องร้องเขา พูดง่ายๆ ก็คือใครต่อใครที่กล่าวหา กล่าวโทษไวน์สตีนในตอนนั้น ศาลก็เอามาพิจารณาหมด ทั้งๆ ที่อาจไม่เกี่ยวกับเคสจริงๆ ที่เกิดขึ้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมศาลถึงเอาผิดเขาได้เพียง 2 คดีเท่านั้น และในตอนนี้ศาลก็เห็นว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่ได้มีน้ำหนักมากพอจะเอาผิดไวน์สตีน&nbsp;การตัดสินใจของศาลสูงรัฐนิวยอร์กล่าสุดนี้มีผลด้วยคะแนนลงมติ 4 ต่อ 3 ด้านแมดเดอลีน ซินแกส (Madeline Singas) หนึ่งในผู้พิพากษาแห่งศาลสูงรัฐนิวยอร์กที่ออกเสียงคัดค้านต่อการคว่ำข้อกล่าวหานี้ก็ได้แสดงความไม่เห็นด้วยว่าการตัดสินใจของศาลไม่เพียงเป็นการส่งต่อแนวคิดผิดๆ ว่าความรุนแรงทางเพศจะสามารถดำรงอยู่ได้ แต่ยังทำให้ผู้กระทำความผิดรอดพ้นจากโทษที่เขาควรได้รับด้วยที่ผ่านมา ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ถูกจำคุกอยู่ในความควบคุมของเรือนจำนิวยอร์ก หลังจากถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีบังคับขืนใจผู้ช่วยสถานีโทรทัศน์และโปรดิวเซอร์หญิงรายหนึ่งให้ทำ Oral Sex ให้เขาเมื่อปี 2006 และอีกหนึ่งข้อหาคือข่มขืนนักแสดงหน้าใหม่รายหนึ่งในปี 2013&nbsp;อย่างไรก็ตามการตัดสินใจคว่ำข้อกล่าวหาของไวน์สตีนนั้นไม่ได้มีแค่ฝั่งที่แสดงความกังวลและไม่เห็นด้วยเท่านั้น อีกฝั่งที่สนับสนุนเขายังมองว่าการที่ศาลฟังเสียงจากคนซึ่งอ้างว่าเป็นเหยื่อโดยไม่ได้มีหลักฐานมากพอ เป็นการทำให้ไวน์สตีนไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร ซึ่งพวกเขาเห็นด้วยที่จะรื้อการพิจารณาคดีขึ้นมาใหม่อีกครั้งถึงแม้ว่าการตัดสินใจของศาลรัฐนิวยอร์กจะออกมาเป็นแบบนี้ และส่งผลให้เขาไม่ต้องโทษจำคุกนานถึง 23 ปี แต่อย่างไรก็ตาม ฮาวีย์ ไวน์สตีน วัย 72 ก็ยังไม่ได้ถือว่าเป็นอิสระเสียทีเดียว เพราะเมื่อปี 2022 เขายังถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานข่มขืนอีกกระทงหนึ่งรออยู่ในลอสแอนเจลิส ซึ่งมีโทษจำคุก 16 ปีอีกด้วยเช่นกัน จึงตอบได้ว่าการตัดสินของศาลนิวยอร์กไม่ได้มีผลต่อความผิดที่เขากระทำในรัฐแคลิฟอร์เนีย&nbsp;และแม้ว่าโฆษกศาลสูงรัฐนิวยอร์กจะให้สัญญาว่าการพิจารณาคดีใหม่จะเป็นไปภายใต้ความเป็นธรรมแก่บรรดาเหยื่ออย่างแน่นอน ในอีกแง่หนึ่งหลายคนก็แสดงความเป็นห่วงและตั้งคำถามว่าการรื้อคดีขึ้นมาอีกรอบจะเป็นการทำให้เหยื่อของไวน์สตีนต้องกลับมาเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดซ้ำๆ ในการให้การต่อศาลอย่างไม่รู้จบสิ้นด้วยหรือไม่&nbsp;อ้างอิง&nbsp;<a href="https://www.glamour.com/story/harvey-weinsteins-rape-conviction-was-just-overturned-heres-what-that-means" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.glamour.com/story/harvey-weinsteins-rape-conviction-was-just-overturned-heres-what-that-means</a><a href="https://apnews.com/article/weinstein-metoo-appeal-ed29faeec862abf0c071e8bd3574c4a3" rel="noopener noreferrer noopener noreferrer" target="_blank">https://apnews.com/article/weinstein-metoo-appeal-ed29faeec862abf0c071e8bd3574c4a3</a>

แม้จะไม่ได้มีกฎข้อห้ามอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าประเด็นที่บรรดานักแสดงตลกในจีนต่างรู้กันว่า ‘ไม่พูดดีกว่า ถ้าไม่อยากเดือดร้อน’ ก็เห็นจะต้องยกให้เป็นเรื่องการเมือง เรื่องทหาร กับเรื่องของ ‘ความเป็นชาย’ มาเป็นอันดับต้นๆ 

Yang Li กับเหล่านักเดี่ยวไมโครโฟนหญิงในจีนที่ยืนยันจะเล่นมุกท้าทาย ‘อีโก้อันเปราะบาง’ ของผู้ชาย แม้จะรู้ว่าสิ่งที่รออยู่คือการถูกเกลียดชัง

ย้อนไปเมื่อต้นปี 2023 ม้าตัวหนึ่งหัวใจวายตายขณะถ่ายทำซีรีส์ The Ring of Power ขณะที่เมื่อปี 2011 เสือชื่อคิงก็เกือบจมน้ำตายระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่อง Life of Pi ในฉากที่จำเป็นต้องใช้เสือจริงๆ แทนซีจี  ฯลฯ และเช่นเดียวกับเคสแมวดำในซีรีส์ ‘แม่หยัว’ มีสัตว์หลายชีวิตต้องสูญเสียสวัสดิภาพของตัวเอง เพื่อตอบสนอง ‘ความสมจริง’ ในการถ่ายทำ โดยที่มันไม่สามารถให้ความยินยอมหรือเรียกร้องอะไรได้

เมื่อดิสเคลมเมอร์ “No Animal Were Harmed” ในหนังฮอลลีวูด ก็ไม่อาจการันตีสวัสดิภาพสัตว์ได้ 100% 


นักศึกษาหญิงชาวอิหร่านถูกเจ้าหน้าที่จับกุม หลังจากเธอตัดสินใจถอดฮิญาบ ปล่อยผมสยาย และเปลื้องผ้าให้เหลือแต่ชุดชั้นใน เดินไปรอบๆ มหาวิทยาลัยของเธอ เพื่อประท้วงต่อต้านกฏบังคับอันเคร่งครัดที่ให้ผู้หญิงทุกคนในประเทศแต่งกายอย่างมิดชิดตั้งแต่หัวจรดเท้าตามหลักศาสนาอิสลาม

นักศึกษาหญิงชาวอิหร่านถอดฮิญาบ เปลื้องผ้าประท้วง ในมหาวิทยาลัย เพื่อต่อต้านกฏที่บังคับให้ผู้หญิงต้องปกปิดทั้งร่างกายและเส้นผม จนถูกจับกุมและยังไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ไหน

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS