สังคมตั้งคำถามถึงการบังคับใช้กฎหมายใหม่ของสก็อตแลนด์กับนักเขียนคนดังอย่าง เจ.เค.โรว์ลิง เมื่อเร็วๆ นี้ตำรวจสกอตแลนด์ออกมาบอกว่า กรณีความเห็นของโรว์ลิงนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่จะ ‘ไม่เข้าข่าย’ อาชญากรรม

สกอตแลนด์ ที่เพิ่งผ่านกฎหมาย Hate Crime แต่การเผยแพร่อคติต่อคนข้ามเพศของ ‘เจ.เค. โรว์ลิง’ อาจไม่ถูกนับว่าเข้าข่ายอาชญากรรม

หากยังจำกันได้ ประเด็น ‘Cancel Culture’ ครั้งใหญ่ประเด็นหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปี ก่อน คงต้องยกให้กรณีของ ‘เจ.เค. โรว์ลิง’ (J.K. Rowling) ผู้เขียนหนังสือ Harry Potter ที่ถูกสังคมคว่ำบาตร หลังออกมาสนับสนุนแนวคิดในเชิงเป็นปรปักษ์ต่อคนข้ามเพศ เช่นการแสดงความเห็นว่า ‘คนที่จะถูกนับว่าเป็นผู้หญิงก็คือคนที่มีประจำเดือนเท่านั้น’ รวมถึงการที่เธอบอกว่า ‘ผู้หญิงข้ามเพศก็คือผู้ชายนี่แหละ’ เท่านั้นไม่พอ โรว์ลิงยังเขียนบทความยาวเหยียดอธิบายถึงมุมมองเรื่องเพศหญิงชายของตัวเองที่ยึดตามหลักชีววิทยา (Biological Sex) เท่านั้นอีกด้วย นั่นทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมา โรว์ลิงถูกกระแสตีกลับอย่างรุนแรงว่าเธอเป็นพวกเกลียดกลัวคนข้ามเพศ (Transphobia) และบางส่วนมองว่าเธอเป็นพวกสุดโต่งที่เชื่อว่าโลกนี้มีแค่ผู้หญิงกับผู้ชายเท่านั้น&nbsp;ไม่เพียงแค่เหล่านักแสดงและคนดังหลายต่อหลายคนที่ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการแสดงความคิดเห็นของโรว์ลิง หรือบรรดาแฟนๆ ที่แบนผลงานทุกชิ้นที่เกี่ยวข้องกับตัวเธอตั้งแต่หนังสือ หนัง ไปจนถึงวิดีโอเกม ทัศนคติของโรว์ลิงที่มีต่อคนข้ามเพศยังทำให้เกิดความกังวลจากชุมชนคนข้ามเพศทั้งในอังกฤษและสกอตแลนด์ พร้อมๆ กับการตั้งคำถามว่า แล้วความเห็นต่างๆ นานาของโรว์ลิงที่แม้ทุกวันนี้เธอก็ยังไม่หยุดแสดงท่าที ‘อคติ’ ต่อคนข้ามเพศ ถือเป็นความผิดทางอาชญากรรมที่ควรได้รับโทษหรือไม่ ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ของสกอตแลนด์ที่เพิ่งประกาศสดๆ ร้อนๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา&nbsp;กฎหมายฉบับใหม่ดังกล่าวนี้ว่าด้วยอาชญากรรมอันเกิดจากความเกลียดชัง ปี 2022 (Hate Crime and Public Order (Scotland) Act 202) ระบุว่า การปลุกปั่น วิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น หรือพูดให้เสื่อมเสียเกี่ยวกับความบกพร่องทางร่างกาย (ความพิการ) ศาสนา อัตลักษณ์ทางเพศ อัตลักษณ์ของคนข้ามเพศ รวมถึงคนที่มีภาวะเพศกำกวม (Intersex) นั้นให้ถือว่าเป็นความผิดทั้งสิ้นขณะที่สังคมตั้งคำถามถึงการบังคับใช้กฎหมายใหม่นี้กับนักเขียนคนดัง เมื่อเร็วๆ นี้ตำรวจสกอตแลนด์กลับออกมาบอกว่า ความเห็นของโรว์ลิงนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา แต่ก็อาจเป็นไปได้ที่จะ ‘ไม่เข้าข่าย’ อาชญากรรม&nbsp;นั่นทำให้ล่าสุด โรว์ลิงทวีตข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X อย่างแข็งกร้าวว่า เธอขอให้กำลังใจทุกคนในสกอตแลนด์ที่ออกมาพูดความจริงเกี่ยวกับเรื่องเพศโดยกำเนิด (Biological Sex) และหวังว่าคนที่กล้าพูดถึงมันจะได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายนี้เหมือนกับเธอ “ถ้าใครหน้าไหนมาไล่จับผู้หญิงที่เรียกคน ‘เพศชาย’ ว่า ‘ผู้ชาย’ ล่ะก็ ฉันนี่แหละที่จะพูดแบบนั้นเหมือนกัน แล้วพวกเขาก็ต้องมาจับฉันไปอีกคน”&nbsp;อันที่จริงแล้วในอังกฤษและสกอตแลนด์มีกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องการปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังมาตั้งแต่ปี 1986 ระบุว่า การปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังเชื้อชาติ สีผิว สัญชาติ หรือเผ่าพันธ์ุนั้นถือเป็นอาชญากรรม ซึ่งทั้งหมดถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายฉบับใหม่นี้ว่าเป็นความผิดเช่นเดียวกัน และตั้งแต่กฎหมายฉบับใหม่นี้ถูกประกาศต่อสาธารณชนตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจสกอตแลนด์ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนไปแล้วกว่า 3,000 เคส&nbsp;“ฉันล่ะผิดหวังกับตำรวจสกอตแลนด์จริงๆ” เคธี นีฟส์ (Katie Neeves) อินฟลูเอนเซอร์ชาวอังกฤษ ผู้เรียกตัวเองว่า Trans Ambassador ซึ่งเคยถูกนักเขียนคนดังเมนชั่นถึงใน X ว่า เธอ ‘เปลี่ยนจากการเป็นผู้ชายทั้งแท่งมาเป็นเลสเบี้ยนในวัย 48’ กล่าวถึงการทำงานของตำรวจสกอตแลนด์ต่อกรณีของโรว์ลิงอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน“เจ.เค. โรว์ลิงคือนักบูลลี่ตัวแม่ แล้วกฎหมายนี้ก็ออกมาเพื่อหยุดนักบูลลี่อย่างหล่อนไม่ใช่เหรอ ถ้าพวกเขาไม่ได้คิดจะใช้มันจริงจัง ก็ถือว่าน่าผิดหวังมากๆ นะคะ” เคธี นีฟส์ กล่าวนอกจากนั้น ท่ามกลางกระแสสังคมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ที่ต่างตั้งคำถามถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายฉบับใหม่นี้ ด้านนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก (Rishi Sunak) ได้ออกมาแสดงท่าทีในเชิงตบบ่าสนับสนุนโรว์ลิงว่าเขา ‘ภูมิใจ’ กับการแสดงสิทธิเสรีภาพในการพูดของเธอ “สำหรับผม ผมว่ามันไม่ถูกต้องที่ไปวิจารณ์การทำงานของตำรวจ” ซูแน็ก กล่าว“เราไม่ควรไปกล่าวหาว่าใครเป็นอาชญากร เพียงเพราะว่าเขาพูดเรื่องธรรมดาๆ ที่ทุกคนก็รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วอย่างเรื่องเพศกำเนิด ผมว่านั่นไม่ถูกต้องเท่าไรนะ”&nbsp;ดูเหมือนว่าสงครามระหว่างฝั่งสนับสนุนและฝั่งตรงข้ามกับแนวคิดเรื่องเพศแบบสุดโต่งของนักเขียนเจ.เค. โรว์ลิง จะยังคงดำเนินต่อไปแบบไม่พักง่ายๆ แถมเดือดปุดๆ ขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่แค่ชาวสกอตแลนด์เท่านั้นที่กำลังรอดูท่าทีการบังคับใช้กฎหมายนี้ แต่เราเองในฐานะประชาชนก็อยากเห็นเหมือนกันว่ากฎหมายฉบับใหม่นี้จะจริงจังได้แค่ไหน หรือสามารถเอาผิดกับผู้กระทำได้อย่างเสมอภาคโดยไม่เลือกปฏิบัติหรือไม่ ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนธรรมดาหรือคนดังก็ตาม เพื่อที่เราจะได้ก้าวข้ามผ่านอคติและความเกลียดชังในเรื่องเพศไปเสียทีอ้างอิง<a href="https://www.bbc.com/news/uk-scotland-68712471" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.bbc.com/news/uk-scotland-68712471</a>

ปัญญาประดิษฐ์มีอิทธิพลต่อวงการธุรกิจออนไลน์มากขึ้น โดยแบรนด์ต่างๆ เริ่มออกมาไลฟ์สดขายสินค้าด้วยอวตาร AI ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ก่อให้เกิดการถกเถียงออกเป็น 2 ฝั่ง ผู้ชมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่า การไลฟ์สดด้วย AI เป็นการขายสินค้าที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ และไม่จริงใจต่อผู้บริโภค ทำให้รู้สึกไว้วางใจในตัวแบรนด์น้อยลง ขณะที่อีกฝั่งตั้งคำถามว่า ทำไมบางคนต้องต่อต้านการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง AI ด้วย?

AI LIVE STREAMING การไลฟ์สดขายสินค้าโดยใช้อวตาร AI เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนผู้ผลิต แต่อาจทำให้ผู้บริโภคไว้วางใจแบรนด์น้อยลง ?

ถ้าจะว่ากันในทางสถิติแล้ว การใช้ความรุนแรงในความสัมพันธ์ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะในความสัมพันธ์หนึ่งๆ แต่มีแนวโน้มจะเกิดซ้ำ เพราะปัญหาหลักเกิดจากพฤติกรรมของฝั่งผู้กระทำเองเสียมากกว่า

ผู้เชี่ยวชาญเผยสถิติที่คนเคยมีประวัติใช้ความรุนแรงกับคนรัก มีสิทธิกลับไปกระทำซ้ำแม้คบกับคนรักใหม่

กลายเป็นประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับความปังของเพลง Dream โดย LISA ที่ล่าสุดนี้มียอดวิวพุ่งไปกว่า 18 ล้านวิวทางยูทูบ และเนื่องจากเพลงนี้ได้พระเอกเอ็มวีเป็น Kentaro Sakaguchi นักแสดงหนุ่มหล่อมาแรงชาวญี่ปุ่น จึงทำให้มีคนดูชาวญี่ปุ่นจำนวนมากเข้ามาติดตามผลงานชิ้นนี้

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

NUT LELAPUTRA

RELATED

HOT TOPICS