ตำรวจบุกจับ เต้ย-วิษณุ จันทร์ย้อย อดีตทหารยศนายสิบ ผู้ก่อเหตุข่มขืนเด็กผู้หญิงมาอย่างต่อเนื่องและหลายครั้ง โดยเขามีรสนิยมใคร่เด็ก และเลือกเหยื่อเฉพาะนักเรียนหญิงที่ใส่เครื่องแบบนักเรียนเท่านั้น

‘ข่มขืนเด็ก’ ปัญหาใหญ่ที่ควรเร่งแก้ไข
จากกรณีอดีตทหาร ก่อเหตุข่มขืนนักเรียนหญิงอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่ามีรสนิยมใคร่เด็ก

เป็นอีกหนึ่งคดีน่าสะเทือนใจที่เกิดกับ ‘เด็กผู้หญิง’&nbsp;ในประเทศไทย ที่ถูกพูดถึงและทำให้หลายคนตั้งคำถามถึง ‘ความใคร่เด็ก’ กันอีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่มีรสนิยมใคร่เด็กจะลุกขึ้นมาก่ออาชญากรรม แต่ต้องยอมรับว่ามีบางคนที่ก่อเหตุจากการไม่สามารถยับยั้งชั่งใจความใคร่นี้ได้ ทั้งยังรวมไปถึงเรื่องโทษทางกฎหมายจากคดีข่มขืนที่นับว่ายังค่อนข้างอ่อน จากกรณี ตำรวจบุกจับ เต้ย-วิษณุ จันทร์ย้อย อดีตทหารยศนายสิบ อายุ 40 ปี ในวันที่ 28 ก.พ. 67 ผู้ก่อเหตุ<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B8%99" rel="noopener noreferrer" target="_blank">ข่มขืน</a>เด็กผู้หญิงมาอย่างต่อเนื่องและหลายครั้ง ซึ่งเคยเข้ารับโทษในเรือนจำมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่เมื่อถูกปล่อยตัวออกมา ก็กระทำความผิดซ้ำ โดยเขามีรสนิยมใคร่เด็ก และเลือกเหยื่อเฉพาะนักเรียนหญิงที่ใส่เครื่องแบบนักเรียนเท่านั้นผู้ก่อเหตุรายนี้สะกดรอยตามเด็กผู้หญิงที่ใส่ชุดนักเรียน และลงมือข่มขืนมาแล้ว 4 ราย และยังมีอีกหลายรายที่ไม่เข้าแจ้งความหรือออกมาเรียกร้องความยุติธรรม เพราะพวกเธอถูกขู่ฆ่า และบางคนก็ถูกบังคับให้ถ่ายคลิปช่วยตัวเองเพื่อใช้ในการขู่เข็ญ เขาก่อเหตุข่มขืนเด็กนักเรียนมาตั้งแต่ช่วงปี 2560-2561 ซึ่งในปี 2561 เคยถูกดำเนินคดีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราฯ โดยเหยื่อเป็นเด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนพาณิชย์แห่งหนึ่ง วัย 16 ปี ที่คนร้ายปลอมตัวเป็นรถรับจ้าง รับเธอกลับจากโรงเรียน ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายและข่มขืน ก่อนจะโดนจับกุมและถูกส่งตัวเข้าไปรับโทษในเรือนจำ แต่เมื่อพ้นโทษ เขาก็ได้ก่อคดีข่มขืนซ้ำ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2566 โดยเลือกนักเรียนหญิงในชุดนักเรียนเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เป็นเหยื่อวัย 12 ปี ที่เขาคอยเดินตามเธอกลับจากโรงเรียน ก่อนลงมือข่มขืนโดยไม่สวมถุงยางอนามัยที่ห้องพักของเธอ และขู่จะฆ่าให้ตาย ทว่าญาติของเหยื่อกลับช่วยเหลือไว้ได้ทันจากการสอบสวน ผู้ต้องหา ระบุว่ามีรสนิยมชอบเด็ก แต่ผู้เสียหายทั้งหมดสมยอมเอง บางรายยังถ่ายภาพการช่วยตัวเองมาให้ตนเก็บไว้ดู เด็กเหล่านี้ร้ายกว่าที่คิด สร้างเรื่องให้ตนโดนคดี ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าสะกดรอยตาม เขากล่าวว่าไม่ได้ซุ่ม แค่รู้ว่าบ้านของเหยื่ออยู่ที่ไหน ซึ่งแน่นอนว่า ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้เชื่อในคำให้การ เพราะจากประวัติอาชญากรรมที่ผ่านมา ก็คงตอบได้ว่า เขาข่มขืนเด็กสาวมาอย่างต่อเนื่อง และกระทำซ้ำเมื่อพ้นโทษจากกรณีนี้เอง ทำให้เราเห็นภาพปัญหาของการใคร่เด็กที่เกิดขึ้นในประเทศไทยชัดขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่การข่มขืนโดยเลือกใครก็ได้มาข่มขืน แต่เป็นการจงใจเลือกเหยื่อที่เป็น ‘เด็ก’ โดยเฉพาะ ซึ่งหากอ้างอิงข้อมูลจาก ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่ทำงานร่วมกับศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบสถิติน่ากังวลว่า จากข้อมูลร้องเรียนตั้งแต่เดือนมกราคม-5 ธันวาคม 2566 พบกรณีถูกข่มขืน 999 เรื่อง ส่วนใหญ่ผู้ถูกกระทำจะเป็นเด็ก สตรี และคนชรา ซึ่งกรณีถูกข่มขืนที่มีมากที่สุด อยู่ในกลุ่มเด็กอายุ 10-15 ปี รองลงมาคือ อายุ 15-20 ปี และอันดับ 3 คือ เด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 10 ปี ซึ่งถูกข่มขืนมากกว่า 100 คน การที่เด็กถูกข่มขืนมากขึ้นเรื่อยๆ แสดงถึงปัญหาจากความใคร่เด็กที่มีมากขึ้นในประเทศไทย ที่คนในสังคมต้องช่วยกันดูแล และสอดส่องเรื่องความปลอดภัยของเด็กๆ กันให้มากขึ้น&nbsp;และแน่นอนว่าเราจะไม่พูดถึงโทษทางกฎหมายไม่ได้ เพราะในหลายเคส ไม่ใช่แค่เฉพาะการข่มขืนในเด็ก แต่ทุกการข่มขืน หรือล่วงละเมิดทางเพศ หลายครั้ง คนร้ายถูกจับ ถูกปล่อยตัว และก่อเหตุซ้ำ ถูกจับใหม่ ปล่อยตัว และก่อเหตุอีกรอบ วนกันเป็นลูปลักษณะนี้ ที่น่าตั้งคำถามว่าโทษที่ได้รับ มันอาจจะไม่หนักมากพอ และเอื้อต่อการกลับมาทำซ้ำ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจในการคิด และจริงจังในเรื่องการปรับโทษทางกฎหมายเพื่อลดการเกิดอาชญากรรมทางเพศแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า&nbsp;อย่างกรณีการก่อเหตุข่มขืนเพราะใคร่เด็ก หากอิงจากคู่มือวินิจฉัยอาการผิดปกติทางจิตฉบับที่ 5 (DSM-5) ‘Pedophilia’ หรือโรคใคร่เด็ก ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโรคกามวิปริต (Paraphilia) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสนใจทางเพศที่ไม่ปกติ และก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น โดยคนที่เป็นเปโดฯ จะมีความดึงดูดทางเพศ มีจินตนาการ และมีแรงกระตุ้นกับเด็กที่ยังไม่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ (sexually mature) และต้องมีอาการนี้เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือนจึงจะเข้าเกณฑ์ ซึ่งก็มีทั้งคนที่ชอบ แต่ไม่ได้ลงมือคุกคามเด็ก และบางคนที่ชอบจนลงมือก่อเหตุร้ายแรง ซึ่งควรได้รับการเข้าสู่การบำบัดอย่างจริงจัง และถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุอีกครั้งได้&nbsp;เรื่องของเปโดฯ ยังเป็นที่ถกเถียงในสังคมถึงเส้นวัดความใคร่เด็ก ว่าแบบไหน หรืออายุเท่าไร ถึงจะนับว่าเป็นความใคร่เด็ก แต่สิ่งสำคัญที่น่าโฟกัสมากที่สุด คือการตระหนักรู้ในสังคมถึงสิทธิของเด็กและเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ว่าการมีเซ็กซ์กับพวกเขา ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ไม่ว่าเยาวชนจะยินยอมพร้อมใจหรือไม่ก็ตาม และผู้ใหญ่ก็ควรตระหนักรู้กันให้มากๆ ถึงสิทธิในร่างกาย ที่ไม่ควรมีใครมีสิทธิไปแตะต้อง และท้ายที่สุด การข่มขืน ไม่ว่าจะข่มขืนคนวัยใด หรือเพศใด ก็ไม่ควรเกิดขึ้นแม้แต่กรณีเดียว เพราะนั้นถือเป็นอาชญากรรมทางเพศที่รุนแรง และไม่ควรมีใครต้องพบเจอเหตุการณ์แบบนี้&nbsp;อ้างอิง:<a href="https://www.thairath.co.th/news/crime/2766614" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.thairath.co.th/news/crime/2766614</a><a href="https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_8115510" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_8115510</a><a href="https://www.matichon.co.th/education/news_4334093" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.matichon.co.th/education/news_4334093</a><a href="https://psychcentral.com/disorders/causes-of-pedophilia#past-abuse" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://psychcentral.com/disorders/causes-of-pedophilia#past-abuse</a>

กลายเป็นเรื่องช็อกสำหรับหลายคนโดยเฉพาะแฟนผลงานของ Neil Gaiman ผู้เขียนนวนิยายเด็กและงานแฟนตาซีชื่อดังอย่าง Caroline, The Graveyard Book, The Sandman, American Gods ฯลฯ เมื่อมีผู้หญิงกว่า 8 คน ออกมาเปิดเผยด้านมืดของเขาที่ทั้งข่มขืนและกระทำความรุนแรงทางเพศกับพวกเธอ 

ด้านมืดของ Neil Gaiman นักเขียนดังผู้ระบุว่าตัวเองเป็นเฟมินิสต์ แต่กลับข่มขืนและกระทำความรุนแรงทางเพศกับผู้หญิงกว่า 8 คน

กิจกรรมการรุมด่าคนทางอินเทอร์เน็ตกลายเป็นกิจกรรมระบายความเครียดชั้นยอดสำหรับหลายคนไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้นอกจากจะท็อกซิกอย่างยิ่ง ยังเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่าชาวเน็ตไทยจำนวนมากยังขาดทักษะที่จำเป็นในยุคโซเชียลมีเดียอย่าง Media Literacy

กรณีแสตมป์ อภิวัชร กับภาพสะท้อนชาวเน็ตไทย ที่คลั่งวัฒนธรรมทัวร์ลง โหยหาการตัดสิน/ลงโทษ แต่ดันขาด Media Literacy

โลกก้าวเข้าสู่ปี 2025 แล้ว แต่กรณี Honor Killing หรือการ ‘ฆ่าเพื่อรักษาเกียรติครอบครัว’ ก็ยังคงเกิดขึ้นในประเทศแถบตะวันออกกลาง

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS