‘เบธเลเฮม’ เมืองซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระเยซู ปีนี้จะไม่มีการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญอย่าง ‘คริสต์มาส’ เพราะชาวปาเลสไตน์ต้องการที่จะไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตจากสงครามในกาซา

เบธเลเฮม เมืองที่เป็นสถานที่กำเนิดพระเยซู ปีนี้จะไม่มีการฉลอง ‘คริสต์มาส’ เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากสงครามในกาซา

‘เบธเลเฮม’&nbsp;เมืองในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระเยซู และในปีนี้จะไม่มีการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญอย่าง&nbsp;<a href="https://mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%AA" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘คริสต์มาส’</a>&nbsp;เพราะชาวปาเลสไตน์ต้องการที่จะไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิตจากสงครามในกาซา และไม่สามารถมีความสุขได้อย่างสบายใจท่ามกลางความรุนแรงที่เกิดขึ้น“เบธเลเฮมยกเลิกคริสต์มาสเพราะอิสราเอลกำลังสังหารชาวปาเลสไตน์ #GazaGenocide” คือข้อความที่แปะอยู่บนป้ายหน้าบ้านของ Huwaida Arraf ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนชาวปาเลสไตน์อเมริกัน เช่นเดียวกับชาวคริสต์ปาเลสไตน์จำนวนมาก รวมถึงโบสถ์ และชุมชนคริสเตียนหลายแห่งก็จะไม่เฉลิมฉลองในวันหยุดยาวปีนี้ เพื่อให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาที่พุ่งถึง 18,700 คน และบาดเจ็บมากกว่า 50,000 คน“ไม่มีความสุขเลยจริงๆ ตอนนี้ ไม่มีความสุขที่จะมีงานฉลอง และไม่มีความสุขที่จะสามารถจัดงานฉลองได้” เธอกล่าว และเสริมว่าเหตุผลที่ไม่สามารถมีความสุขได้นั่นก็เพราะ “โลกจะเฉลิมฉลองคริสต์มาส และเฉลิมฉลองให้กับการประสูติของเจ้าชายแห่งสันติภาพได้ยังไงล่ะ ในเมื่อบ้านเกิดและสถานที่เกิดของเขา มีอาชญากรรมอันโหดร้ายต่อมนุษยชาติเกิดขึ้น และไม่มีอะไรหยุดยั้งได้แบบนี้?”นอกจากในเบธเลเฮมแล้ว ชาวปาเลสไตน์บางส่วนที่อยู่ในเมืองอื่นๆ ก็จะไม่ฉลองคริสต์มาสเช่นเดียวกัน เช่น Nabil Khoury แพทย์ในมิชิแกนตะวันออกเฉียงใต้ ก็ได้ออกมาแสดงความรู้สึกว่า “ไม่มีความสุขเลยครับ ไม่มีการเฉลิมฉลองหรอกครับ มันยากที่จะเฉลิมฉลองเมื่อเรามีครอบครัว เพื่อนฝูง &nbsp;และเพื่อนร่วมชาติจำนวนมาก ทนทุกข์ทรมานกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”และแม้ว่าชาวปาเลสไตน์ส่วนใหญ่จะเป็นชาวมุสลิม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนที่นับถือศาสนาคริสต์ ดังนั้นเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นชาวปาเลสไตน์เหมือนกัน พี่น้องทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ก็ไม่ได้มองถึงการแบ่งแยกทางศาสนา หรือเพิกเฉยต่อการไว้อาลัยในช่วงวันคริสต์มาสนี้ แม้ว่าการยกเลิกจัดงานเทศกาลประจำปีแบบนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจมหาศาล และหลายร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆ ก็ต้องสูญเสียรายได้ไปอย่างมาก เนื่องจากเบธเลเฮมแทบจะเป็นเมืองหนึ่งที่ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาฉลองคริสต์มาสกัน โดยการท่องเที่ยวจะคิดเป็น 70% ของรายได้ต่อปีเลยทีเดียว เพราะมีทั้งนิกายอาร์เมเนีย คาทอลิก และออร์โธดอกซ์ ร่วมกันในที่เดียว แต่การตัดสินใจยกเลิกอย่างเด็ดขาดครั้งนี้ ก็เพื่อแสดงจุดยืนเคียงข้างผู้เสียชีวิตทุกคน“เศรษฐกิจกำลังตกต่ำ แต่หากเราเปรียบเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับประชาชนของเราและฉนวนกาซา มันก็เล็กน้อยไปเลย” Hana Haniyeh นายกเทศมนตรีเบธเลเฮม กล่าว แต่ก็ยืนยันว่าแม้จะไม่มีการฉลอง แต่พิธีกรรมทางศาสนาก็จะเกิดขึ้นต่อไป เพราะ “เบธเลเฮมเป็นส่วนสำคัญของชุมชนปาเลสไตน์ ดังนั้นในพิธี Midnight Mass ปีนี้ เราจะอธิษฐานเพื่อสันติภาพ สันติภาพที่เกิดขึ้นในเบธเลเฮมเมื่อพระเยซูคริสต์ประสูติ”&nbsp;เราขอร่วมส่งกำลังใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสงครามครั้งนี้ และขอแสดงความเสียใจกับทุกการสูญเสียอ้างอิง:<a href="https://www.aljazeera.com/news/2023/12/13/christmas-cancelled-us-palestinians-feel-no-holiday-joy-amid-war-on-gaza" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.aljazeera.com/news/2023/12/13/christmas-cancelled-us-palestinians-feel-no-holiday-joy-amid-war-on-gaza</a><a href="https://apnews.com/article/bethlehem-west-bank-israel-hamas-war-a42bbd967c27a68f71f8aace59387963" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://apnews.com/article/bethlehem-west-bank-israel-hamas-war-a42bbd967c27a68f71f8aace59387963</a>&nbsp;

‘Short King’ เป็นคำเรียกผู้ชายตัวไม่สูงที่ตระหนักได้ว่าส่วนสูงไม่ได้ผูกโยงกับคุณค่าในตัวของพวกเขา นับว่าน่าสนใจที่คำนี้มันมาพร้อมความพยายามที่จะทำลายกรอบการเหยียดส่วนสูง รวมถึง Toxic Masculinity หรือความเป็นชายที่เปราะบางทิ้งไป

‘Short King’ ผู้ชายตัวเล็กหรือเตี้ยกว่าผู้หญิง ที่เชียร์ให้ “ภูมิใจในตัวเองเข้าไว้หนุ่ม!” โดยไม่เอาส่วนสูงมาลดทอนคุณค่าหรือปล่อยให้เสียงรอบข้างมาทำร้ายตัวเอง

21-27 เมษายนนับเป็นสัปดาห์แห่งการมองเห็นเลสเบี้ยน (Lesbian Visibility Week) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้ผู้คนมองเห็นและเข้าใจเลสเบี้ยนมากขึ้น

ความเข้าใจผิดที่คนยังมีต่อ ‘เลสเบี้ยน’ เนื่องใน Lesbian Visibility Week และมากกว่าการมองเห็น คือความเข้าใจ

นี่คือภารกิจทะยานสู่อวกาศในรอบ 60 ปี ซึ่ง ‘ผู้หญิง’ ได้ขึ้นยานอวกาศไปพร้อมกันในฐานะทีมลูกเรือหญิงล้วน ที่บริษัทอวกาศ Blue Origin ได้แท็กทีมรวมตัวผู้หญิง 6 ชีวิต 6 อาชีพ 6 วิสัยทัศน์ แต่กลับถูกวิจารณ์อย่างดุเดือดว่า นี่ไม่ใช่การพื้นที่ให้ผู้หญิงจริงๆ แต่เป็นการโฆษณาเชิงพาณิชย์

สัญลักษณ์เพื่อผู้หญิงในอนาคต หรือ ‘เฟมินิสม์ปลอม’ เชิงพาณิชย์? Blue Origin ภารกิจลูกเรือหญิงล้วน กับการถูกวิจารณ์ว่าเป็นเพียงการตลาด ทั้งที่เงินก้อนนั้น
สามารถช่วยผู้หญิงและคนชายขอบได้อีกหลายชีวิต

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS