‘คิม จอง อึน’ ผู้นำสูงสุดจากประเทศเกาหลีเหนือ ร้องไห้ต่อหน้าแม่ๆ ทั้งหลาย และขอร้องให้ผู้หญิงเกาหลีเหนือมีลูกมากขึ้น พร้อมย้ำว่านี่เป็นหน้าที่ของพวกเธอในการมีลูกเพื่อขับเคลื่อนประเทศ

คิม จอง อึน ร้องไห้ขอร้องให้ผู้หญิงเกาหลีเหนือ มีลูกเพิ่มขึ้นเพื่อพาประเทศให้ไปต่อ และย้ำว่านี่คือภารกิจของพวกเธอ

เป็นอีกครั้งที่ชัดเจนว่าผู้มีอำนาจชายในบางประเทศยังมองว่า <a href="https://www.mirrorthailand.com/tags/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87" rel="noopener noreferrer" target="_blank">‘ผู้หญิง’</a> มีหน้าที่ผลิตลูก เมื่อ ‘คิม จอง อึน’&nbsp;ผู้นำสูงสุดจากประเทศเกาหลีเหนือ ร้องไห้ต่อหน้าแม่ๆ ทั้งหลายในการประชุมแห่งชาติเพื่อคุณแม่ครั้งที่ 5 ณ กรุงเปียงยาง และขอร้องให้ผู้หญิงเกาหลีเหนือมีลูกมากขึ้น พร้อมย้ำว่านี่เป็นหน้าที่ของพวกเธอในการมีลูกเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ซึ่งได้รับการปรบมือตอบรับอย่างซาบซึ้งจากบรรดาแม่ๆ ในที่ประชุม แม่ๆ หลายคนได้ร้องไห้ออกมาเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถทำให้คนในที่ประชุมอินไปกับสิ่งที่พูดได้เป็นอย่างดี “แม่ๆ ที่รักครับ” เขากล่าว “การป้องกันไม่ให้อัตราการเกิดลดลง และการดูแลเด็กให้ดี ล้วนแต่เป็นงานในการดูแลบ้านที่เราต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากแม่ๆ ครับ” ในที่ประชุม คิม จอง อึน พูดถึงปัญหาอัตราการเกิดที่ลดลงของเกาหลีเหนือ และขอร้องให้ผู้หญิงทำหน้าที่ของพวกเธอในการมีลูก ซึ่งเป็นภารกิจในการการรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม เห็นได้ชัดว่าแนวทางการปกครองประเทศของเขาพยายามกำหนดกรอบให้คนในประเทศด้วยบทบาททางเพศอันเหนียวแน่น และแทบจะต้องเป็นไปตามแพตเทิร์นนี้เท่านั้น ไม่ได้มีทางเลือกอื่นๆ ให้ผู้คนได้มองเห็นมากนัก หนำซ้ำยังสามารถทำให้คนส่วนหนึ่งในประเทศเชื่อว่าชีวิตของพวกเขาต้องเป็นไปอย่างนั้นจริงๆ อย่างเช่นภาพจากในที่ประชุม สีหน้าท่าทางของแม่ๆ เจเนอเรชันเก่าจำนวนมาก ที่ดูจะเชื่อตามเขาจริงๆ คิม จอง อึนยังกล่าวอีกว่า “ภารกิจทางสังคมของพวกเรานั้นรวมถึงการมีลูกด้วยครับ เพื่อที่พวกเขาจะสามารถเป็นกำลังในการพาประเทศเราไปต่อ เราจำต้องหยุดยั้งการกระทำที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อสังคม ซึ่งมีมากขึ้นในระยะหลังมานี้ เราต้องโปรโมตความกลมเกลียวของครอบครัวและความเป็นหนึ่งเดียวกันของสังคม สร้างรากฐานทางวัฒนธรรมและชีวิตที่มีศีลธรรม สืบสานความเป็นคอมมิวนิสต์และจิตวิญญาณในการช่วยเหลือกันและกันเพื่อพากันไปข้างหน้า เราต้องหยุดอัตราการเกิดที่น้อยลง และเลี้ยงดูพวกเขา ให้การศึกษาพวกเขาอย่างมีประสิทธิภาพครับ” อย่างไรก็ตาม The United Nations Population Fund ประมาณการโดยเฉลี่ยว่าในปี 2023 อัตราการเกิดของเด็กอยู่ที่ 1.8 ต่อผู้หญิงเกาหลีเหนือ 1 คน ท่ามกลางอัตราที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาสามารถตอบได้เป็นนัยๆ ว่าคู่แต่งงานจำนวนมากในยุคนี้ ไม่ได้อยากมีลูกในสังคมเกาหลีเหนือ ที่ว่ากันตามตรง ไม่ได้เอื้อให้มีสิทธิ์ มีเสียง หรือมีคุณภาพชีวิตอันเป็นอิสระแต่อย่างใด อย่างที่รู้กันว่า เกาหลีเหนือปกครองโดยการใช้อำนาจรัฐสั่งการอย่างเด็ดขาด ใครคิดต่างก็มีสิทธิได้รับโทษ เรื่องสิทธิมนุษยชนพื้นฐานอย่างการไว้ทรงผม หรือแต่งกายตามความชอบ รัฐก็ยังไม่อนุญาต และใครฝ่าฝืนก็อาจถูกเรียกตัว หนักถึงขั้นที่หากใครถูกจับได้ว่าครอบครองสื่อที่มาจากเกาหลีใต้ ก็อาจได้รับโทษประหารชีวิต จะเห็นได้ว่าเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ใช้ความรุนแรงอย่างตรงไปตรงมา เพื่อควบคุมให้ประชาชนในประเทศไม่กล้าออกนอกเส้นตรงที่ผู้นำขีดไว้ และภายใต้ถ้อยคำหวานหู กลับกลายเป็นว่าคิม จอง อึน กำลังยัดเยียดภาระหน้าที่ในการมีลูก และดูแลลูกให้ผู้หญิงอย่างเต็มกำลัง และถ้าพวกเธอไม่มีลูกขึ้นมา ก็ย่อมหมายถึงการไม่ยอมทำเพื่อสังคม หรือกระทั่งถูกมองว่าเป็นความผิด ทั้งที่ความจริงแล้ว เหตุปัจจัยที่ทำให้ผู้หญิงไม่อยากมีลูกนั้นมีหลายประเด็น บางคนอาจไม่อยากมีลูก เพราะตัวเองเพียงไม่อยากมี และไม่อยากรับบทบาทเป็นแม่คน หรือกระทั่งเป็นการตกลงร่วมกันกับสามีแล้วด้วยซ้ำ ว่าทั้งคู่ไม่ได้อยากมีลูก ซึ่งประชาชนก็ควรจะได้รับการเคารพทางเลือกนี้ ไม่ใช่การบังคับกลายๆ ให้คนต้องมีลูกเพื่อมารับใช้ระบอบเผด็จการ โดยใช้น้ำตาของผู้นำมาเป็นข้ออ้าง อ้างอิง: <a href="https://www.independent.co.uk/asia/east-asia/kim-jong-un-cries-north-korea-b2459144.html" rel="noopener noreferrer" target="_blank">https://www.independent.co.uk/asia/east-asia/kim-jong-un-cries-north-korea-b2459144.html</a>

Doechii คือผู้คว้ารางวัลศิลปินฮิปฮอปหญิงยอดเยี่ยม และหลังจากกล่าวสปีชชื่นชมผู้เข้าชิงที่ล้วนแต่เก่งกาจ เธอก็ขยับประเด็นไปสู่การประท้วงในลอสแองเจลิส 

Doechii กล่าวประฌามรัฐบาลทรัมป์บนเวที BET ที่ใช้กำลังทหารปราบปรามการประท้วงในลอสแอนเจลิส ซึ่งปะทุขึ้นหลังการจับกุมผู้อพยพ

สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนอาจได้ทราบข่าวการสูญเสียคุณแม่ของนักแสดงทั้งสอง อย่าง ‘บอย ปกรณ์’ และ ‘นนกุล ชานน’ โดยสื่อมวลชนเผยแพร่ภาพและเนื้อหาข่าวเกี่ยวกับบรรยากาศต่างๆ รวมถึงสีหน้าอารมณ์ของผู้คนในงานฌาปนกิจศพ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่นักแสดงและคนในครอบครัวกำลังโศกเศร้า ร้องไห้ หรือปลอบใจกันและกัน ซึ่งการนำเสนอข่าวในรูปแบบนี้นับว่าผิดหลักจรรยาบรรณสื่อมวลชน

เมื่อนักแสดงต้องอยู่ในแสงตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนสูญเสียคนสำคัญ (?) การนำเสนอข่าวงานศพของคนในครอบครัวนักแสดง เพื่อเน้นย้ำความสูญเสีย หรือตอกย้ำความโศกเศร้า ซึ่งนับว่าผิดจรรยาบรรณสื่อมวลชน

เมื่อปี 2023 อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 40 แห่งนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น (Jacinda Ardern) ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้นำประเทศท่ามกลางความประหลาดใจของชาวนิวซีแลนด์ รวมทั้งชาวโลก ด้วยเหตุผลที่เธอรู้ตัวว่าตัวเธอเอง ‘ไม่เหมาะ’ จะทำหน้าที่ผู้นำอีกต่อไป 

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

VDO

CONVERSATION

MIRROR50

PR-NEWS

Social Issues

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS