สิ่งหนึ่งที่ชวนให้ตั้งคำถาม จาก #พระโคแดกชายแท้2023 ก็คือ การสนับสนุน ‘ผลงาน’ ของนักบูลลี่หรือนักคุกคามนั้นเวิร์กไหม เมื่อสิ่งที่พวกเขาเคยทำยังคงเป็นบาดแผลในจิตใจของผู้ถูกกระทำจนถึงปัจจุบัน 

ว่าด้วย #พระโคแดกชายแท้2023 การสนับสนุน ‘ผลงาน’ โดยแยกออกจากพฤติกรรมส่วนตัวนั้นเวิร์กจริงหรือเปล่า?


#พระโคแดกชายแท้2023 กลายเป็นแฮชแท็กที่ถูกพูดถึงอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มจากการขุดพฤติกรรมทางเพศของคนดังชายรายหนึ่งทางทวิตเตอร์ ทำให้หลายคนออกมาบอกเล่าสิ่งที่ตัวเองเคยเจอมา ทั้งทางทวิตเตอร์และเฟสบุ๊ก ไม่ว่าจะเป็นกรณีของนักแสดงชายชื่อดังที่ทักแชทไปขอมีเซ็กซ์กับผู้หญิงทั้งที่ตัวเองมีแฟนแล้ว กรณีของวงดนตรีหนึ่งที่มอมเหล้าแล้วข่มขืนผู้หญิงที่ไปดื่มด้วยกัน จนถึงกรณีของคนดังสายวิทยาศาสตร์ที่มีพฤติกรรมคุกคามจิตใจคนที่ร่วมงานด้วย กรณีของนักวาดชื่อดังที่คุกคามทางเพศช่างภาพหญิงที่ไปถ่ายสัมภาษณ์ และที่ชัดเจนที่สุด โดยมีหลักฐานเป็นคลิปวิดิโอและเจ้าตัวรวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องก็ได้ออกมายอมรับถึงเรื่องนี้ ก็คือกรณีของ กิต-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์ จากวง Three Man Down ที่เคยบูลลี่เพื่อนสมัยเรียนแน่นอนว่า #พระโคแดกชายแท้2023 ไม่ใช่เรื่องของการเกลียดผู้ชายหรือเหมารวมว่าความเป็นชายทุกภาคส่วนนั้นต้องเลวร้าย แต่คือการชวนให้สังคมตระหนักรู้ถึง Toxic Masculinuty ไปด้วยกัน และผู้ชายหลายคนเองก็ได้ทบทวนว่าเคยมีพฤติกรรมเหล่านั้นทั้งโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวด้วยหรือเปล่า ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีที่ผู้คนในสังคมจะได้ค่อยๆ เปลี่ยนความรับรู้และทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ไปพร้อมๆ กันผ่านกรณีของเหล่าคนดังที่เกิดขึ้น&nbsp;อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ชวนให้ตั้งคำถามจากกรณีนี้ก็คือ การยังคงสนับสนุน ‘ผลงาน’ ของพวกเขาโดยแยกออกจากพฤติกรรมส่วนตัวนั้นเวิร์กจริงหรือเปล่า? เมื่อสิ่งที่พวกเขาเคยทำยังคงเป็นบาดแผลในจิตใจของผู้ถูกกระทำจนถึงปัจจุบัน และการสนับสนุนผลงานต่อ ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในการยืนยันกลายๆ ว่าเมื่อมีชื่อเสียงแล้ว สิ่งที่คุณเคยทำไว้ก็มีแนวโน้มจะได้รับการให้อภัย และจะยังคงได้รับโอกาสเสมอ&nbsp;เราขอยกตัวอย่างกรณีของกิต Three Man Down ที่เคยตอบกลับคนที่มาคอมเมนต์แหย่เขาในไลฟ์ว่าเขาเองก็เป็นนักแกล้งคนหนึ่ง ดังนั้นอย่ามาเล่นกับเขา พร้อมสาธยายวิธีกลั่นแกล้งสารพัดที่เคยทำมาพร้อมย้ำว่าไม่มีใครกล้าแกล้งเขากลับเพราะรู้ว่าจะโดนหนักกว่า ซึ่งแม้จะเป็นการตอบกลับคนที่มาคอมเมนต์แกล้งเขาก่อน แต่การหยิบเอาเรื่องที่เคยกลั่นแกล้งคนอื่นถึงขั้นใช้น้ำมันราดหลังเพื่อนแล้วจุดไฟมาพูดเพื่อ ‘ขิง’ ว่าตนเองแกล้งเก่งกว่าจนไม่มีใครกล้าแกล้งกลับ ก็นับว่าไม่น่ารักเอาเสียเลย ล่าสุดนี้ตัวกิตเองได้โพสต์ขอโทษอย่างจริงจัง น้อมรับความผิด และไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ รวมถึงเพื่อนสมัยเรียนที่ระบุว่าเป็นหนึ่งในคนที่ถูกกิตแกล้ง ก็ได้ออกมาโพสต์ว่าให้อภัยแล้ว ซึ่งระบุว่า"จากกระแสที่อยู่ในทวิตเตอร์ ในฐานะของคนที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของกิต และเป็นหนึ่งในคนที่โดนกิตแกล้ง สมัย ม.ต้น เมื่อครู่กิตได้ทักมาขอโทษ และสำนึกผิดในสิ่งที่เคยเกิดขึ้น (แม้ว่าจะผ่านไป 14 ปีแล้ว)อยากบอกแฟนคลับ Three Man Down ทุกคนว่า ณ ตอนนั้น พวกเรายังเด็ก การกระทำแต่ละอย่างอาจจะยังไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองถึงผลกระทบ อยากขอให้ทุกคนให้โอกาส และติดตามเพลงของกิตที่ทำผลงานด้วยความตั้งใจต่อไปปัจจุบันกิตและเพื่อนร่วมห้องต่างโตขึ้น และมีเส้นทางการเติบโตของตัวเอง สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต มีทั้งสิ่งที่เราอยากจดจำและไม่อยากจดจำ การจะลืมเหตุการณ์ต่างๆ อาจจะไม่ง่าย แต่สำคัญกว่าคือเราต้องอยู่กับมันให้ได้ และตอนนี้เราทุกคนผ่านมันมาได้ และอยู่กับการเติบโตในปัจจุบันและวันข้างหน้าได้แล้ว ขอให้ทุกคนให้อภัยกับกิต และสนับสนุนผลงานกิตต่อไปครับ"เราจะเห็นได้ว่าการขอโทษเกิดขึ้นหลังจากเรื่องผ่านมา 14 ปี และเป็นการขอโทษหลังจากถูกขุดและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งหากจะบอกว่าช้าไปมากก็ไม่เกินเลยนัก ยิ่งกว่านั้น หากไม่มีดราม่านี้เกิดขึ้น เขาเองจะทันรู้ตัวหรือเปล่าว่าควรขอโทษคนที่เขาเคยกลั่นแกล้งเอาไว้ เพราะอย่างที่เพื่อนได้ระบุว่า “การลืมเหตุการณ์ต่างๆ อาจจะไม่ง่าย” และตัวผู้ถูกกระทำเองเป็นฝ่ายแบกรับภาระที่จะต้อง “อยู่กับมันให้ได้” ที่สำคัญแม้คนถูกกระทำหนึ่งคนเลือกจะให้อภัย แต่ยังมีคนอื่นๆ ที่ถูกกระทำด้วย และเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าพวกเขายังคงเจ็บปวดอยู่ไหม&nbsp;เช่นเดียวกับที่ผู้ถูกกระทำจากกรณีอื่นๆ ระบุว่ายังคงรู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกไม่ยุติธรรมเมื่อเห็นคนที่เคยทำสิ่งเลวร้ายไว้กับชีวิตพวกเขายังคงโลดแล่นในแสงและได้รับคำชื่นชม ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ไม่เพียงเท่านั้นการหยวนๆ และให้อภัยจากชาวเน็ตส่วนหนึ่ง ก็ไม่ต่างจากการย้ำแผลคนโดนกระทำและหนุนหลังคนกระทำอีกหลายคนทั้งที่อยู่ในแสงและไม่อยู่ในแสง นั่นจึงต้องกลับมาที่คำถามเดิมจริงๆ ว่าการสนับสนุน ‘ผลงาน’ โดยแยกออกจากพฤติกรรมส่วนตัวนั้น มันเวิร์กจริงหรือเปล่า?&nbsp;

Pleasure Squad คือกลุ่มหญิงสาวบริสุทธิ์ 25 คน ที่จะถูกคัดเลือกให้ “ได้รับเกียรติ” เข้าไปทำหน้าที่บำเรอความสุข สร้างความสำราญให้กับนายคิม จอง อึน โดยคุณสมบัติของผู้ถูกเลือกต้องมีทั้งรูปร่างหน้าตาที่งดงาม เป็นสาวบริสุทธิ์ และมีความจงรักภักดีต่อท่านผู้นำด้วย

Pleasure Squad กลุ่ม 25 สาวบริสุทธิ์ที่จะถูกคัดเลือกในทุกๆ ปี เพื่อให้ทำหน้าที่บำเรอความสุขแก่ท่านผู้นำเกาหลีเหนือ

หนึ่งในคนที่ขับเคลื่อนประเด็นออทิสซึมมานานนับทศวรรษคือ แจ็กเคอลีน จาบลอนสกี (Jacquelyn Jablonski) ที่หลายคนอาจคุ้นเคยในฐานะนางแบบชั้นนำของแบรนด์แฟชั่นหลายสำนัก แต่นอกจากงานแฟชั่น เธอแน่วแน่กับการสื่อสารประเด็นออทิสติก

Jacquelyn Jablonski นางแบบสาวที่ตั้งใจสื่อสารประเด็น ‘ออทิสติก’ จากการเติบโตมากับน้องชายออทิสติกแต่กำเนิด

กำลังเป็นที่ฮือฮาในประเทศจีนอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อภาพการออกแบบสถานีรถไฟหนานจิงเหนือ (North Nanjing) ในเมืองหนานจิง ประเทศจีน ในรูปแบบม็อกอัป ถูกเผยแพร่ออกมาให้ชมกัน ที่ทำเอาคนจีนพูดเป็นเสียงเดียวกันบน Weibo ว่า นี่มัน ‘ผ้าอนามัยยักษ์’ ชัดๆ!

MOVIN’ON

CULTURE

SELF

STYLE

CONVERSATION

VDO

Social Issues

ว่าด้วย #พระโคแดกชายแท้2023 การสนับสนุน ‘ผลงาน’ โดยแยกออกจากพฤติกรรมส่วนตัวนั้นเวิร์กจริงหรือเปล่า?

แชร์บทความนี้

แชร์บทความนี้

Author

MIRROR TEAM

RELATED

HOT TOPICS